ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ รายงาน

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 สอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ เริ่มต้นการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ “แคนคู่” ระยะที่ 1 แลนด์มาร์คสำคัญของโครงการ “เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน” ที่บ้านท่าค้อ เมืองโขง แขวงจำปาสัก ภาคใต้ของลาว
อาคารเอนกประสงค์ “แคนคู่” อยู่ในโซน A ของเขตเศรษกิจใหม่สีทันดอน ใช้พื้นที่ก่อสร้างรวม 366,923 ตารางเมตร แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1 อาคารซึ่งถูกออกแบบเป็นรูปทรงกระติ๊บข้าวเหนียว ภาชนะจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนลาวมาแต่โบราณ จำนวน 2 ตึก แต่ละตึกมี 13 ชั้น ความสูงตึกละ 62 เมตร ใช้พื้นที่ก่อสร้าง 6.7 เฮกตาร์ หรือประมาณ 42 ไร่ หรือ 67,132 ตารางเมตร งบประมาณก่อสร้าง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลาสร้าง 3 ปี
ระยะที่ 2 ตึกแฝดรูปทรงแคน เครื่องดนตรีพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของลาว มีการวางตำแหน่งคล้ายตึกแฝดปิโตรนาส ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อสร้างเสร็จ ตึกแฝดคู่นี้จะเป็นอาคารที่สูงที่สุดของลาว แต่ละตึกมี 63 ชั้น ความสูงตึกละ 238.98 เมตร มูลค่าการก่อสร้าง 800 ล้านดอลลาร์
จุดเด่นของตึกแฝดคู่นี้ คือจุดชมวิวที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร สามารถมองเห็นสถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทั้งวิวแม่น้ำโขงและน้ำตกคอนพะเพ็ง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร รวมถึงบริเวณเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างลาวกับกัมพูชา ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร

ชายแดนลาว-กัมพูชาตรงจุดนี้ มีด่านสากล “หนองนกเขียน-ตราเบียงเกรียน” เป็นช่องทางเข้าออกของผู้คนจากทั้ง 2 ประเทศ และกำลังถูกพัฒนาให้เป็นประตูหลักสำหรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ
ลาตี สีสุพันนะวง รองประธานสภาผู้ถือหุ้น บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เจ้าของสัมปทานเขตเศรษกิจใหม่สีทันดอนกล่าวรายงานในพิธีวางศิลาฤกษ์ว่า เมื่อการก่อสร้างทั้ง 2 ระยะเสร็จสมบูรณ์ พื้นที่บริเวณนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจ การท่องเที่ยว สถานบันเทิง แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เพราะเป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านค้า ร้านอาหาร และจะเป็นสัญลักษณ์ของเขตเศรษกิจใหม่สีทันดอน
เฉพาะอาคารรูปทรงกระติ๊บข้าวเหนียว ซึ่งเป็นระยะแรกของการก่อสร้างที่เพิ่งมีพิธีวางศิลาฤกษ์ไปนั้น เมื่อสร้างเสร็จ คาดว่าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่าวันละ 2,000 คน…

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 วิไลวง บุดดาคำ เจ้าแขวงจำปาสัก ได้ทำพิธีมอบสิทธิในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานน้ำตกคอนพะเพ็ง และอุทยานน้ำตกสมพะมิด (หลี่ผี 8) ให้แก่บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เป็นผู้ดูแลและปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 5,000 คนต่อวัน
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ก่อนพิธีวางศิลาฤกษ์เริ่มก่อสร้างอาคารรูปทรงกระติ๊บข้าวเหนียวเพียง 2 สัปดาห์ บริษัทพัฒนาการท่องเที่ยวลาวสากล ใน เครือบริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน ได้ทำพิธีลงนามข้อตกลงเช่าเหมาลำเครื่องบิน จากรัฐวิสาหกิจการบินลาว รวมถึงร่วมกันวางแผนเปิดเส้นทางบินตรงจากเมืองใหญ่หลายแห่งในสาธารณรัฐประชาชนจีน มายังสนามบินปากเซ แขวงจำปาสัก
มีการเปิดเผยในพิธีลงนามว่า รัฐวิสาหกิจการบินลาวมีแผนจะทยอยเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ เช่น ปากเซ-ฮ่องกง, ปากเซ-ไหโข่ว/ซานย่า มณฑลไหหลำ และปากเซ-เฉิงตู มณฑลเสฉวนฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมายังเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนโดยเฉพาะ


……
“เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน” เป็นการลงทุนของกลุ่มบริษัทกวางตุ้งแม่น้ำเหลืองอุตสาหกรรม (Guangdong Yellow River Industrial Group) จากมณฑลกวางตุ้ง ของจีน ในนาม “บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน”
โดยบริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน ถือหุ้นใหญ่โดยบริษัทลาวมหานทีสีทันดอน (ฮ่องกง) การลงทุน บริษัทในกลุ่มบริษัทกวางตุ้งแม่น้ำเหลืองอุตสาหกรรม
เขตเศรษกิจใหม่สีทันดอนเป็นการสร้างเมืองใหม่ขึ้นบนพื้นที่ 9,846 เฮกตาร์ หรือประมาณ 61,537.5 ไร่ วงลงทุนรวม 9,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 315,000 ล้านบาท อายุสัมปทาน 50 ปี ภายในแบ่งเป็น 11 โซน และ 6 ระยะการพัฒนา
ความเป็นมาคร่าวๆ ของโครงการนี้ เริ่มจากวันที่ 30 มิถุนายน 2560 รัฐบาลลาวเซ็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) ให้กลุ่มบริษัทกวางตุ้งแม่น้ำเหลืองเข้ามาสำรวจความเป็นไปได้ในพื้นที่ ก่อนเซ็นสัญญาให้สัมปทานพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2561
วันที่ 6 ตุลาคม 2561 มีพิธีวางศิลาฤกษ์เริ่มการก่อสร้างถนนคอนกรีตรอบเกาะดอนโขง ระยะทาง 43.5 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 12 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเริ่มเดินหน้าโครงการ ถนนสายนี้ใช้เวลาสร้าง 2 ปี 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ และมีพิธีเปิดใช้ถนนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564
กลางปี 2565 บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอนร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลลาว เริ่มสำรวจทางธรณีวิทยาและบินสำรวจทางอากาศ บริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคาร “แคนคู่” จนมีพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มก่อสร้างระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
……
หากมีบางคนมองว่า “สมสะหวาด เล่งสะหวัด” อดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้ประจำการรัฐบาลลาว เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการก่อกำเนิดและพัฒนาการของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองใหม่ของนักเสี่ยงโชคจากหลายประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในภาคเหนือ ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน
นายกรัฐมนตรีสอนไซ สีพันดอน ก็อาจถูกมองได้ว่า เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อโครงการเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนด้วยเช่นกัน
เพราะทุกขั้นตอนพัฒนาการของโครงการเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนตั้งแต่เริ่มต้น กระทั่งมีการวางศิลาฤกษ์เริ่มต้นก่อสร้างอาคารกระติ๊บข้าวเหนียว ได้ปรากฏภาพของนายกรัฐมนตรีสอนไซ สีพันดอน ร่วมอยู่ด้วยทุกครั้ง


– วันที่ 30 มิถุนายน 2561 รัฐบาลลาวจัดพิธีเซ็นสัญญามอบสัมปทานพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน ขึ้นที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ริเวอร์ไซด์ นครหลวงเวียงจันทน์ ผู้ลงนามในสัญญา ได้แก่ สุพัน แก้วมีไซ รัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน ในขณะนั้น ในฐานะตัวแทนรัฐบาล, เฉิง กวงฟาย ประธานบริษัทลาวมหานทีสีทันดอน (ฮ่องกง) การลงทุน ผู้รับสัมปทาน และลาตี สีสุพันนะวง ประธานบริษัท แอลทีวี ก่อสร้างขัวทางและชลประทาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง
สอนไซ สีพันดอน ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด ได้มาร่วมพิธีในฐานะสักขีพยาน
– วันที่ 6 ตุลาคม 2561 สอนไซ สีพันดอน เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ เริ่มต้นก่อสร้างถนนนรอบเกาะดอนโขง ระยะทาง 43.5 กิโลเมตร ซึ่งบริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอนเป็นผู้สนับสนุนทุนในการก่อสร้าง เป็นเงิน 12 ล้านดอลลาร์
– วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 สอนไซ สีพันดอน เป็นประธานและเป็นผู้ลั่นฆ้องสัญลักษณ์เปิดใช้ถนนสร้างใหม่ระยะทาง 43.5 กิโลเมตรรอบเกาะดอนโขง เปรียบเสมือนก้าวแรกของการเริ่มเดินหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน
การปรากฏตัวของสอนไซ สีพันดอน ในพิธีการต่างๆ เหล่านี้ หลายคนอาจมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด สอนไซดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ดูแลกระทรวงแผนการและการลงทุน มิหนำซ้ำ ในช่วงท้ายของรัฐบาล สอนไซยังได้นั่งควบ 2 ตำแหน่ง ทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุนเองอีกด้วย
แต่ความเกี่ยวพันธ์ระหว่างโครงการเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน กับนายกรัฐมนตรีสอนไซ สีพันดอน น่าจะต้องมีอะไรที่มากไปกว่านั้น!

ที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน อยู่ที่เมืองโขง แขวงจำปาสัก ภาคใต้ของลาว นอกจากอยู่ในจุดกึ่งกลางการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมของ 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา ไทย และเวียดนาม แล้ว
เมืองโขงยังเป็นบ้านเกิดของลุง “คำไต สีพันดอน” อดีตประธานพรรคประชาชนปฏิวัติลาว อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานประเทศลาว และยังเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรีสอนไซ สีพันดอน

แม้ปัจจุบัน ลุงคำไตมีอายุถึง 99 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นบุคคลที่มี “บารมี” มากที่สุดคนหนึ่ง ในประเทศลาว
มีการมองว่า การได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสอนไซ สีพันดอน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565 ต่อจากพันคำ วิพาวัน ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้แกนนำประเทศจากสายของคนทางภาคใต้ ได้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง
เพราะหลังจากบัวสอน บุบผาวัน ซึ่งเกิดที่แขวงสาละวัน และเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดครอบครัวของลุงคำไต สีพันดอน ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 15 ของลาว เมื่อปลายปี 2553 แล้ว บุคคลที่ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของลาวต่อจากบัวสอนอีก 3 คน ล้วนเป็นคนที่เกิดในแขวงหัวพัน ซึ่งอยู่ในภาคเหนือของลาวทั้งสิ้น ได้แก่
ส่วนตัวของสอนไซ สีพันดอนเอง เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าแขวงจำปาสักมาก่อนเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2549 ขณะที่เขาเพิ่งมีอายุได้เพียง 40 ปี ถือเป็นเจ้าแขวงที่มีอายุน้อยที่สุด หลังจากก่อนหน้านั้น สอนไซเพิ่งขึ้นเป็นรองเจ้าแขวงจำปาสัก ในเดือนธันวาคม 2548
ดังนั้น อนาคตและความสำเร็จของเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ในแขวงจำปาสัก และในเมืองบ้านเกิดของลุงคำไต สีพันดอน บิดาของสอนไซ จึงเป็นสิ่งที่สอนไซ สีพันดอน คงต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง…