ThaiPublica > สู่อาเซียน > “เมืองโขง” เขตเศรฐกิจใหม่สีทันดอน อีก 1 ดินแดน “จีน” ตรงข้าม “กัมพูชา”

“เมืองโขง” เขตเศรฐกิจใหม่สีทันดอน อีก 1 ดินแดน “จีน” ตรงข้าม “กัมพูชา”

9 มีนาคม 2021


ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ รายงาน

จุดที่ตั้งเมืองโขง ชายแดนลาว-กัมพูชา ในแขวงจำปาสัก

ถ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ถูกเรียกให้เป็นดินแดนจีนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไทยและรัฐฉาน เพราะเป็นที่ตั้งของ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” แล้ว

อีกไม่กี่ปีนับแต่นี้ เมืองโขง แขวงจำปาสัก ในภาคใต้ของลาว ไม่พ้นที่ต้องถูกขนานนามให้เป็นดินแดนจีนที่อยู่ตรงข้ามประเทศกัมพูชาด้วยเช่นกัน

“เมืองโขง” เป็นที่ตั้ง “เขตเศรฐกิจใหม่สีทันดอน” หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งก่อนหน้านี้ คือ “เขตเศรษฐกิจพิเศษมหานทีสีทันดอน”

เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน เป็นการลงทุนของกลุ่มบริษัทกวางตุ้งแม่น้ำเหลืองอุตสาหกรรม(Guangdong Yellow River Industrial Group) จากมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในนามบริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เพื่อสร้างเมืองใหม่ขึ้นบนพื้นที่ 9,846 เฮคตา หรือประมาณ 61,537.5 ไร่(6.25 ไร่ = 1 เฮคตา) ใช้เงินลงทุนรวม 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุสัมปทาน 50 ปี

จากขนาดของวงเงินลงทุน เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนใช้เงินและใช้พื้นที่มากกว่าโครงการทางรถไฟลาว-จีน ที่ลงทุน 6,800 ล้านดอลลาร์ ใช้พื้นที่ 3,058 เฮคต้า(19,112.5 ไร่) หรือเขตพัฒนากวมลวมไชเชดถา ในนครหลวงเวียงจันทน์ ที่ใช้พื้นที่ 1,149 เฮคตา(7,181.25 ไร่) ใช้เงินลงทุน 5,000 ล้านดอลลาร์เสียอีก

เมืองโขงเป็นบ้านเกิดของ คำไต สีพันดอน แกนนำต่อสู้ปฏิวัติลาวรุ่นแรก อดีตนายกรัฐมนตรี(2534-2541) และประธานประเทศ สปป.ลาว(2541-2549)

ข้อมูลล่าสุดจากสำนักข่าวสารประเทศลาวเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เมืองโขงมีประชากรรวม 99,000 คน แบ่งเป็น 16,000 ครอบครัว จาก 114 บ้าน(พื้นที่ปกครองในระดับใกล้เคียงกับตำบล) ในจำนวนนี้ เป็นครอบครัวที่พ้นระดับความทุกข์ยากแล้ว 15,000 ครอบครัว หรือ 95.04% เป็นบ้านที่พ้นระดับความทุกข์ยากแล้ว 103 บ้าน หรือ 90.35% และเป็นบ้านพัฒนาที่ประชาชนอยู่ดีกินดี 10 บ้าน

เมื่อครั้งที่ สอนไซ สีพันดอน ลูกชายของลุงคำไต สีพันดอน ได้ขึ้นเป็นเจ้าแขวงจำปาสัก เมื่อปี 2549 เขาเคยประกาศอย่างหนักแน่นว่าจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในแขวงจำปาสัก พ้นระดับความยากจนให้ได้ภายในปี 2558 ตามเป้าหมายที่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้ตั้งไว้

สอนไซเกิดในเดือนมกราคม 2509 เขาได้ขึ้นเป็นเจ้าแขวงจำปาสักด้วยวัยเพียง 40 ปี สร้างสถิติเป็นเจ้าแขวงที่อายุน้อยที่สุดของลาว ปัจจุบัน สอนไซ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน

“…จากเมืองจำปาสัก เมืองปากเซ แยกเดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 13 เพื่อลงใต้มายังเมืองโขงราว 130 กิโลเมตร การเดินทางบนถนนสายนี้กลายเป็นเส้นทางสายยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่นักลงทุนต้องการเข้ามาจับจองสร้างฐานธุรกิจทางการท่องเที่ยวอย่างชัดเจนในช่วงราว 10 ปีที่ผ่านมา

ที่คอนพะเพง รัฐบาลลาวมีแผนการสร้างสะพานความยาวประมาณ 2 กิโลเมตรเชื่อมสองฝั่งโขงที่บริเวณคอนพะเพง รับแผนพัฒนากับเวียดนามและกัมพูชา และต่อยอดทางหลวงสายใหม่ที่จีนสร้างเชื่อมเมืองคุนหมิงกับกรุงพนมเปญโดยผ่านลาว ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล คาดว่าจะมีนักลงทุนจากญี่ปุ่น ไทย จีน อเมริกัน เกาหลี รู้ข่าวเข้าจองพื้นที่ทั้งโรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ กาสิโนและสถานบริการท่องเที่ยวครบวงจร รวมทั้งสร้างสนามบินอีกแห่งหนึ่ง แม้แต่ “คำไต สีพันดอน” อดีตประธานประเทศลาวที่มีเกสต์เฮาส์และสนามกอล์ฟของตนเองที่บ้านเกิดนี้ด้วย นอกจากนี้ยัง มีการสร้างเกสต์เฮ้าส์และโรงแรมเล็กๆ ทั้งที่สร้างแบบง่ายๆ และหรูหราตามริมโขง และตามเกาะแก่งต่างๆมากมาย จนอาจจะจินตนาการถึงวังเวียงที่เปลี่ยนแปลงไปจนน่าตกใจ

เมืองโขงอยู่ติดต่อกับสตึงแตรง(Stung Treng) หรือที่เคยเรียกว่าเมืองเชียงแตง เมื่อคราวอยู่ภายใต้การปกครองของจำปาสักก่อนยุคสมัยของการเป็นอาณานิคม เพื่อเชื่อมเข้ากับทางหลวงเลข 7 ของกัมพูชา ช่วงจังหวัดกระแจ๊ะ(Kratie)กับสตึงแตรง ที่รัฐบาลจีนช่วยกัมพูชาสร้าง ตั้งแต่ปี 2545 เมืองโขงแห่งนี้คือที่ตั้งของมหานทีสี่พันดอน หรือบางที่เคยเรียกว่า “สีทันดร” เกาะกลางลำน้ำโขงที่มีจำนวนมากที่สุด บริเวณแม่น้ำโขงจุดนี้มีสภาพภูมิศาสตร์มีเกาะแก่งตามแม่น้ำโขงมากมาย ลำน้ำโขงแยกย่อยหลายสาย มีตาดคอนพะเพง ซึ่งเป็นแก่งหินขนาดใหญ่กั้นกลางแม่น้ำโขง และน้ำตกหลี่ผีหรือตาดโสมพะมิต ที่เกิดจากแม่น้ำโขงยุบตัวลงราว 15-20 เมตร ทำให้น้ำไหลตกลงมาเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกราก ชื่อหลี่ผีมาจากคำว่าหลี่ คือเครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งคล้ายลอบ และผีก็คือศพคนตายที่ไหลตามน้ำ และถูกพัดพามาติดหลี่จับปลาของชาวบ้านที่มีอยู่มากมายบริเวณนี้

เกาะแก่งเหล่านี้ขนาดมหึมาทำให้เกิดการปะทะของสายน้ำกับแก่งหินกลายเป็นพลังน้ำยิ่งใหญ่ ฝอยฟุ้งน้ำสีขาวและดูสวยงามและเกรี้ยวกราด เกาะกลางน้ำโขงที่ใหญ่ที่สุดคือ “ดอนโขง” ส่วนกว้างที่สุดวัดได้ 6 กิโลเมตร ยาวราวๆ 12 กิโลเมตร มีถนนรอบเกาะระยะทางประมาณ ๓๕ กิโลเมตร…”

(ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง “ดอนคอน” ในสี่พันดอนแห่งแม่น้ำโขง เรียบเรียงโดยวลัยลักษณ์ ทรงสิริ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 เว็บไซต์มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ )

พ.ศ.2558 รัฐบาลลาวอนุมัติแผนพัฒนาพื้นที่คอนพะเพ็งและบริเวณโดยรอบที่เรียกว่า “สีพันดอน” เพื่อสร้างเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ “สีพันดอน” มีความหมายถึงพื้นที่ซึ่งประกอบด้วยเกาะแก่งใหญ่น้อย 4,000 แห่ง บริเวณชายแดนลาว-กัมพูชา

ช่วงแรกมีนักลงทุนจากหลายประเทศ ทั้งจีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ฯลฯ แสดงความสนใจในโครงการนี้

30 มิถุนายน 2560 รัฐบาลลาวได้เซ็น MOU ให้ Guangdong Yellow River Industrial Group เป็นผู้สำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาและวางรูปแบบโครงการ

1 ปีถัดมา(30 มิ.ย.2561) สุพัน แก้วมีไช รัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน ในขณะนั้น เป็นตัวแทนรัฐบาลลาวเซ็นสัญญาให้สัมปทานแก่บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เป็นผู้พัฒนาสร้างเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนขึ้น

พิธีเซ็นสัญญาสัมปทานจัดที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ริเวอร์ไซด์ นครหลวงเวียงจันทน์ ตัวแทนผู้รับสัมปทานที่ร่วมเซ็นสัญญา ได้แก่ เฉิง กวงฟาย ประธานบริษัทลาวมหานทีสีทันดอน(ฮ่องกง) และลาตี สีสุพันนะวง ประธานบริษัทแอลทีวี ก่อสร้างขัวทางและชลประทาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง

สอนไช สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี ได้ไปร่วมในพิธีด้วยในฐานะสักขีพยาน

บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทลาวมหานทีสีทันดอน(ฮ่องกง) ที่ถือหุ้นโดย Guangdong Yellow River Industrial Group กับบริษัทแอลทีวี ก่อสร้างขัวทางและชลประทาน

อาคารแฝดรูปทรงแคนลาว และอาคารทรงกระติ๊บข้าวเหนียว ที่สร้างความตื่นตาแก่คนที่ได้พบเห็นช่วงแรกของการเปิดตัวโครงการเขตเศรษฐกิจใหมสีทันดอน

หลังพิธีเซ็นสัญญาสัมปทาน โครงการนี้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง เพราะตามแผนผัง ต้องมีการสร้างอาคารขนาดใหญ่ 3 แห่ง ที่ถูกออกแบบตามเอกลักษณ์ของความเป็นลาว

2 อาคารแรก เป็นตึกสูงรูปทรงแคนลาว สร้างคู่กันคล้ายตึกแฝดปิโตรนาส ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย อีก 1 อาคารหนึ่งอยู่ห่างไปเล็กน้อย ออกแบบเป็นรูปทรงกระติ๊บข้าวเหนียว(ดูภาพประกอบ)

บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เปิดเผยในวันเซ็นสัญญารับสัมปทานว่า วงเงินลงทุน 9,000 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นการลงทุนของบริษัท 1,300 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อีก 7,700 ล้านดอลลาร์ จะเชิญชวนนักลงทุนรายย่อยให้มาร่วมลงทุน

เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนจะพัฒนาเป็นพื้นที่สำหรับรองรับการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากการท่องเที่ยว ภายในจะสร้างโรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ สนามกอล์ฟ สวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าปลอดภาษี รวมถึงสนามบินฯลฯ

รูปจำลองโรงแรมที่มีแผนจะสร้างในพื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน

6 ตุลาคม 2561 ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์เริ่มต้นก่อสร้างถนนคอนกรีตรอบเกาะดอนโขง ระยะทาง 43.5 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 12 ล้านดอลลาร์ เป็นความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากบริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน

สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี ได้มาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์

การก่อสร้างใช้เวลา 2 ปี 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ และได้มีพิธีเปิดใช้ถนนสายนี้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานตีฆ้องแสดงสัญลักษณ์การเริ่มเปิดใช้ถนน ร่วมด้วยวิไลวง บุดดาคำ เจ้าแขวงจำปาสัก

สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี(คนกลาง) ในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างถนนรอบเกาะดอนโขง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561
สอนไซ สีพันดอน ตีฆ้องเป็นสัญลักษณ์เริ่มเปิดใช้ถนนรอบเกาะดอนโขง เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

คำพู สิดทิสัก เจ้าเมืองโขง กล่าวถึงรายละเอียดของถนนสายนี้ว่า บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้าง ตลอดเส้นทางมีสะพาน 3 แห่ง สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว 1 แห่ง อีก 2 แห่ง จะสร้างเสร็จปีหน้า

ลาตี สีสุพันนะวง ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธาน บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ “เศรษฐกิจ-สังคม” ว่า ถนนสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน ระยะที่ 1 ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2568

ในโครงการระยะที่ 1 ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนรวม 600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,500 พันล้านกีบ นอกจากถนนรอบเกาะดอนโขง ระยะทาง 43.5 กิโลเมตร แล้ว ยังมีการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงสร้างโรงแรมสีทันดอน คอนติเนชั่นแนล ซึ่งประกอบด้วยอาคารห้องพัก 2 อาคาร จำนวนห้องพัก 68 ห้อง วิลลาส่วนตัว 6 หลัง ห้องสปา 6 ห้อง อาคารบริหารอีก 1 อาคาร และสร้างรีสอร์ทคอนพะเพ็ง ที่เป็นลักษณะวิลล่าสำหรับพักอาศัย 21 หลัง

สำหรับโครงการระยะต่อไป จะมีการสร้างเขตพักอาศัย โรงพยาบาลชุมชนขนาด 100 เตียง สนามกอล์ฟ พนังกั้นน้ำ และสนามบิน

รองประธาน บริษัทร่วมพัฒนาสีทันดอน เชื่อว่า เขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอนจะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ และยกระดับการท่องเที่ยวของแขวงจำปาสักให้ดีขึ้น

เพจ Land Information Working Group มีรายงานเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยอ้างข้อมูลจากแผนแม่บท “เขตเศรษฐกิจพิเศษมหานทีสีทันดอน” ว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือภายในยุทธศาสตร์ 1 แถบ 1 เส้นทาง(Belt and Road Initiative : BRI) ของจีน

โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นต้นแบบของเขตเศรษฐกิจพิเศษในภาคใต้ของลาว แต่จะเป็นของทั่วประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างให้เป็นปลายทางด้านการท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นศูนย์กลางการประชุม และการจัดเทศกาลระดับสูงของภูมิภาคอาเซียน

ถนนคอนกรีตรอบเกาะดอนโขง ระยะทาง 43.5 กิโลเมตร ที่เพิ่งเปิดใช้งาน

นอกจากโรงแรมและอาคารต่างๆแล้ว เขตเศรษฐกิจแห่งนี้ยังจะมีการสร้างระบบคมนาคม เช่น สนามบิน ทางรถไฟความเร็วสูง ทางด่วน ทางหลวงอีกด้วย

จากข้อมูลเบื้องต้น ประชาชนมากกว่า 150 ครอบครัวในเมืองโขง จะได้รับผลกระทบจากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษมหานทีสีทันดอน แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนถึงผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติลาว ชุดที่ 9 จำนวน 164 คน และเพิ่งมีการประกาศผลการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

สภาแห่งชาติชุดใหม่ ได้กำหนดวันประชุมครั้งปฐมฤกษ์ในวันจันทร์ที่ 22 มีนาคมนี้

ในการประชุม จะมีการเลือกผู้ที่จะเป็นประธานสภาแห่งชาติ จากนั้น จะมีการรับรองตำแหน่งบริหารของประเทศ ได้แก่ ประธานประเทศ นายกรัฐมนตรี ประธานศาลประชาชนสูงสุดฯลฯ ที่ต้องทำหน้าที่ต่อไปอีก 5 ปี

สอนไซ สีพันดอน

“สอนไซ สีพันดอน” เป็นผู้ที่คนลาวส่วนใหญ่เชื่อว่า ในการประชุมวันที่ 22 มีนาคมนี้ เขาจะถูกเสนอชื่อให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ถัดจากทองลุน สีสุดลิด ที่จะขยับขึ้นเป็นประธานประเทศ สปป.ลาว