ผ่านมา 4 ปี 3 เดือนภายใต้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ถูกตรวจสอบจากสื่อมวลชนและประชาชนภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ อย่างไรก็ตาม หนึ่งอำนาจอธิปไตยที่สำคัญในการปกครองประเทศอย่าง “อำนาจนิติบัญญัติ” หรือการออกกฎหมาย ซึ่งเป็นการกำหนดกฎกติกาของสังคมทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมไปถึงกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร กลับถูกตรวจสอบอย่างเบาบางลง
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภายหลังการรัฐประหารและการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 คสช. ได้กำหนดให้อำนาจนิติบัญญัติเป็นของ “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” หรือ สนช. ประกอบด้วยสมาชิก 250 คน จากการเสนอชื่อของหัวหน้า คสช. แตกต่างจากยุคประชาธิปไตยที่รัฐสภาจะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และมีหน้าที่ตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง
หนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอำนาจของ สนช. คือนโยบายการอำนวยความสะดวกและลดระเบียบกฎเกณฑ์ที่ไม่จำเป็นและสร้างต้นทุนแก่ประชาชนและประเทศ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต โดยผ่านกระบวนการ “Regulatory Guillotine” และเครื่องมือสำคัญอย่าง “พระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558” ซึ่งกำหนดให้ส่วนราชการต้องทบทวนกฎหมายของตนเองทุกๆ 5 ปี
4 ปียกเลิก 16 ฉบับ – ออกใหม่ 335 ฉบับ
ปรากฏว่าในระยะเวลา 4 ปี 3 เดือนที่ผ่านมา สนช. ได้ประชุมรวมกันทั้งสิ้น 358 ครั้ง หรือเฉลี่ยเดือนละ 7 ครั้ง ผลงานในการยกเลิกกฏหมาย ภายหลังมี “พระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น พ.ศ. 2558” และ “พระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560” ซึ่งปัจจุบันยกเลิกกฎหมายไปเพียง 16 ฉบับเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าได้ตรวจสอบการเห็นชอบกฎหมายของ สนช. ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2561 พบว่า สนช. เห็นชอบบังคับใช้กฎหมายไป 335 ฉบับ หรือเฉลี่ยในการทำงาน 51 เดือนที่ผ่านมา เห็นชอบกฎหมายเฉลี่ยเดือนละ 6.6 ฉบับ หรือสัปดาห์ละ 1.5 ฉบับ โดยในช่วงปี 2557-2558 สนช. ได้เห็นชอบกฎหมายไป 133 ฉบับในระยะเวลา 15 เดือน หรือเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ฉบับ และในช่วงหลังปี 2559-2561 ลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ฉบับ หรือรวมกัน 3 ปีหลังเห็นชอบกฎหมายไป 202 ฉบับ (รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา 21 ฉบับ)
สำหรับในรายละเอียดพบว่ามีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย 335 ฉบับทั้งสิ้น 35 ส่วนราชการ ตั้งแต่กระทรวง สำนักงาน ศาล องค์กรอิสระต่างๆ ตามอำนาจรักษาการกฎหมายดังกล่าว โดยส่วนราชการ 5 อันดับแรกที่ออกกฎหมายมากที่สุด ซึ่งรวมกันคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการออกกฎหมายทั้งหมดคือ
- กระทรวงการคลัง 67 ฉบับ หรือคิดเป็น 18.4% ของจำนวนกฎหมายทั้งหมด (โดยส่วนหนึ่งเป็นกฎหมายงบประมาณที่ต้องออกเป็นประจำทุกปี)
- สำนักนายกรัฐมนตรี 51 ฉบับ หรือคิดเป็น 14%
- อื่นๆ เช่น ประมวลกฎหมายแพ่ง ประมวลกฎหมายอาญา รัฐธรรมนูญ 24 ฉบับ หรือคิดเป็น 6.6%
- ศาลฎีกา 22 ฉบับ หรือคิดเป็น 6%
- กระทรวงคมนาคม 20 ฉบับ หรือคิดเป็น 5.5%
ขณะที่ 5 ส่วนราชการที่ออกกฎหมายน้อยที่สุดแห่งละ 1 ฉบับ ได้แก่ รัฐสภา, ศาลรัฐธรรมนูญ, สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, สำนักงานการตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน