ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > 26 ล้านคน!! แจกทุกคน?

26 ล้านคน!! แจกทุกคน?

1 พฤษภาคม 2020


มติ ครม. ตั้งเป้าหมายแจกเยียวยา 5,000 บาท 26 ล้านคน แบ่งเป็นอาชีพอิสระ 16 ล้านคน-เกษตรกร 10 ล้านคน ส่าสุดรมว.คลัง ระบุ 16 ล้านคน อยู่ในข่ายได้เงินแน่นอนแล้ว 10.6 ล้านคน ที่เหลืออีก 5.4 ล้านคน ได้หรือไม่ยังต้องลุ้นตรวจสอบสิทธิ

จากกรณีผู้ประกอบอาชีพอิสระจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผิดหวัง ไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล ทยอยเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงการคลังกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 เป็นต้นมา จึงมีผู้บริหารในกระทรวงการคลังสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ห้ามไม่ให้ผู้ที่ผิดหวังจากการลงทะเบียนเยียวยาเข้ามาในกระทรวงการคลัง มีปัญหาอะไรให้ติดต่อผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น จึงมีกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ พ่อค้า แม่ค้า หมอนวด ลงทะเบียนได้รับ SMS ยืนยันว่าได้รับสิทธิเยียวยาแล้ว แต่ยังไม่ได้เงิน รวมทั้งผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ มายืนรอพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยู่ที่ด้านหน้าประตู 4 ทางเข้า-ออก ของกระทรวงการคลังกันทุกวัน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่มารับเรื่องราวร้องทุกข์แต่อย่างใด

ทำให้ผู้ลงทะเบียนบางรายมีอาการเครียด บางรายระบายความเดือดร้อนที่อัดอั้นอยู่ภายในใจออกมาให้สังคมได้รับรู้กันไปต่างๆ นานา บางรายก็มากินยาเบื่อหนูฆ่าตัวตายที่หน้าประตู 4 บางรายนอนขวางทางผ่านเข้า-ออกกระทรวงการคลัง

อย่างรายล่าสุดวันนี้ (30 เม.ย. 2563) คือ นายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงศ์ อาชีพขับรถแท็กซี่ มาขอพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ให้เข้า จึงปีนประตูเหล็กเพื่อจะเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวลงมา และพาไปพบกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่มาตั้งโต๊ะอยู่ด้านข้างประตู 4 เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ พบว่านายพงศ์พิชาญเป็นผู้ได้สิทธิรับเงินเยียวยา 5,000 บาทแล้ว แต่นายพงศ์พิชาญไม่ยอม ขอให้โอนเงินให้ตนภายในวันนี้ เจ้าหน้าที่โอนให้ไม่ได้ จึงกลับไปปีนประตูเหล็กอีก สุดท้ายก็เป็นลมต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล

เหตุการณ์ที่ปรากฏเหล่านี้ บางส่วนก็มองว่าเป็น “ดราม่า” แต่ในอีกมุม ถ้าเขาไม่เดือดร้อนจริงๆ คงไม่มีใครมาทำกันแบบนี้

  • คลังแจง 5 ล้านคน ไม่ผ่านเกณฑ์-อดได้เยียวยา 5,000 บาท ชี้หลังปิดลงทะเบียนอุทธรณ์ได้
  • “ประยุทธ์” เอาเงินจากไหน กู้วิกฤติโควิด-19 (จบ): คลังทุ่มสุดตัว ปลดล็อกวินัยการคลัง ฝ่าวิกฤติไวรัส
  • เยียวยาโควิด 5,000 บาท ใครได้บ้าง?
  • คลังแจงเงื่อนไข เยียวยา “แรงงานนอกระบบ-ผู้ประกันตน ม.39-40” คนละ 15,000 บาท
  • หากย้อนกลับไปดู ตัวเลขประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาไว้ก่อนเสนอ ครม. มีมติกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ครั้งแรกจำนวน 3 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้มาจากการหักลบจำนวนคนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี และเกิน 60 ปีขึ้นไป นักเรียน นิสิตนักศึกษา ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคมออกไปแล้ว

    วันที่ 28 มีนาคม 2563 เปิดให้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา มีผู้มาลงทะเบียนเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ ต่อมากระทรวงการคลังได้รับแจ้งจากสำนักงานประกันสังคมว่าสามารถดูแลได้เฉพาะผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ประมาณ 11 ล้านคน ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40 ประมาณ 5 ล้านคน ขอโอนมาให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบแทน

    วันที่ 31 มีนาคม 2563 ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติ ขยายกลุ่มเป้าหมายผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเป็นครั้งแรก โดยเพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาจาก 3 ล้านคน เป็น 9 ล้านคน จากนั้นกระทรวงการคลังเริ่มประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์เยียวยา 5,000 บาท และเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองและได้รับสิทธิ์ในช่วงวันหยุดสงกรานต์

    วันที่ 15 เมษายน 2563 มีชาวบ้านที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์การคัดกรองนับ 100 คน บุกกระทรวงการคลัง ร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกตัดสิทธิ์รับเยียวยา ทำให้กระทรวงการคลังต้องเปิดให้ยื่นอุทธรณ์ เพื่อยื่นคำร้องทบทวนสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ในวันที่ 20 เมษายน 2563

    วันที่ 21 เมษายน 2563 กระทรวงการคลังได้ทำเรื่องเสนอ ครม. มีมติขยายกลุ่มเป้าหมายผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเป็น ครั้งที่ 2 เพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาจาก 9 ล้านคน เป็น 14 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ที่มาลงทะเบียนได้รับเงินเยียวยากันอย่างทั่วถึง ปรากฏว่ายังมีคนที่เดือดร้อนไม่ได้รับเงินเยียวยาเดินทางมาประท้วงที่หน้าประตู 4 กระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่องและรุนแรงขึ้น ถึงขั้นมากินยาเบื่อหนูฆ่าตัวตาย หรือนอนขวางไม่ให้รถยนต์ผ่านเข้า-ออกที่หน้าประตู 4 ของกระทรวงการคลังตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

    วันที่ 22 เมษายน 2563 ปิดรับลงทะเบียน กระทรวงการคลังได้ทำการประมวลผลข้อมูลผู้มาลงทะเบียน พบว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้มาลงทะเบียน 28.8 ล้านคน หักการลงทะเบียนซ้ำหลายครั้งออก คงเหลือผู้ลงทะเบียน 24 ล้านคน ในจำนวนนี้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนจากฐานข้อมูลของกรมการปกครอง 1.7 ล้านคน เหลือผู้ลงทะเบียนที่เข้าสู่กระบวนการคัดกรองด้วยระบบ AI 22.3 ล้านราย ในจำนวนนี้กระทรวงการคลังตรวจสอบพบว่าผู้มีที่ขาดคุณสมบัติมาลงทะเบียนขอรับสิทธิเยียวยาด้วย เช่น ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ประมาณ 1.1 ล้านคน ขอยกเลิกการลงทะเบียนอีก 9.5 แสนคน และมีหัวหน้าครัวเรือนที่เป็นเกษตรกรขึ้นทะเบียนอยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีก 4.2 ล้านคน ทั้งหมดนี้ถูกตัดออกไป คงเหลือผู้ที่อยู่ในข่ายได้รับเงินเยียวยาประมาณ 16 ล้านคน

    วันที่ 28 เมษายน 2563 กระทรวงการคลังจึงทำเรื่องเสนอที่ประชุม ครม. มีมติเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยา เป็นครั้งที่ 3 จาก 14 ล้านคน เพิ่มเป็น 16 ล้านคนนอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังมีมติให้แจกเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ให้กับกลุ่มเกษตรกรอีก 10 ล้านคน รวมกลุ่มเป้าหมายทั้ง 2 กลุ่ม ไม่เกิน 26 ล้านคน ใช้งบฯ ไม่เกิน 390,000 ล้านบาท โดยมาจากงบกลาง 70,000 ล้านบาท และ พ.ร.ก.กู้เงินฯ อีก 320,000 ล้านบาท

    สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 10 ล้านคน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

    กลุ่มแรก มี 8.43 ล้านคน ประกอบไปด้วยเกษตรที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกพืชกับกรมส่งเสริมการเกษตร 6.19 ล้านคน ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ 1.60 ล้านคน และกรมประมงอีก 0.64 ล้านคน

    กลุ่มที่ 2 มีประมาณ 1.57 ล้านคน ประกอบไปด้วย กลุ่มยางพารา หม่อนไหม อ้อยโรงงาน ยาสูบ และนาเกลือ ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียน

    ทั้ง 2 กลุ่มนี้จะต้องมาลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงเกษตรฯ เพื่ออัปเดตข้อมูล และตรวจสอบความถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จากนั้นก็จะส่งข้อมูลให้กระทรวงการคลังตรวจสอบว่าได้รับเงินเยียวยาจากโครงการเราไม่ทิ้งกันแล้วหรือยัง

    ทั้งนี้ เพื่อลดความซ้ำซ้อน หากเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลเลย ก็จะส่งข้อมูลให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีให้โดยตรง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ มีฐานข้อมูลเกษตรกรที่มาลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วมหรือภัยแล้งทุกปีอยู่แล้ว

    ล่าสุดนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สำหรับหัวหน้าครัวเรือนเกษตรที่มีชื่ออยู่ในฐานข้องมูลกระทรวงเกษตร และถูกตัดสิทธิ์ออกจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน 4.2 ล้านคน ขอให้ไปลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่านเว็บไซต์เพื่อขอรับเงินเยียวกระทรวงเกษตรฯ

    ส่วนสมาชิกในครัวเรือนที่ช่วยทำการเกษตร และมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลข้อกระทรวงเกษตรฯ ด้วย แต่ข้อเท็จจริงประกอบอาชีพอิสระ กลุ่มนี้ยังมีสิทธิ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาทได้ หากถูกตัดสิทธิ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้มายื่นขอทบทวนสิทธิ์โดยกดปุ่มสีม่วง “ยื่นทบทวนสิทธิ์” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป รวมทั้งผู้ลงทะเบียนที่เข้าใจผิด กดปุ่มยกเลิกการลงทะเบียนด้วย