คลังเล็งขาย ‘หวยการกุศล’ งวดละ 11 ล้านใบ เป็นเวลา 2 ปี หาเงิน 10,000 ล้านบาท สานต่อ “ 1 ทุน 1 อำเภอ” – ส่งเด็กเรียนนอก คาดเสนอ ครม.อนุมัติ 24 ธ.ค.นี้ หรือ อย่างช้าต้น ม.ค.ปี’68 – เปิดให้ยื่นขอทุนการศึกษาช่วง ก.พ.ปีหน้า
หลังจากที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายของรัฐบาลในปี 2568 ให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการจำหน่ายสลากการกุศล เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินในการยกระดับการศึกษาของเด็กไทยหลายโครงการ อาทิ โครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งอำเภอ” โดยมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี อำเภอละ 1 ทุน ได้มีโอกาสไปเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศ , โครงการ “หนึ่งอำเภอ หนึ่งซัมเมอร์แคมป์” และโครงการอัพเกรดโรงเรียนประจำอำเภอ ให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เติมครู เติมเทคโนโลยี พัฒนาทักษาภาษา และ AI ให้นักเรียนทุกอำเภอ
ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้กระทรวงการคลังไปหาแหล่งเงิน เพื่อที่จะนำมาใช้ในโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งอำเภอ” หรือ “ODOS” กระทรวงการคลังก็ได้ทำงานร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีจนได้ข้อสรุปว่า จะมีการพิมพ์สลากการกุศลชุดใหม่ออกจำหน่ายงวดละไม่เกิน 11 ล้านฉบับ เป็นระยะเวลา 2 ปี คิดเป็นวงเงินที่จะนำมาใช้สนับสนุนโครงการนี้ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ตามกรอบของกฎหมาย โดยเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากการกุศลหลังจากที่หักเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากจะถูกส่งไปให้ สำนักงาน ก.พ. ใช้เป็นแหล่งเงินในการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งในขณะนี้กระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าที่ประชุม ครม.จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ในวันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2567 หรือ อย่างช้าประมาณต้นเดือนมกราคม 2568
“การออกสลากการกุศล เพื่อนำเงินมาใช้ในโครงการ ODOS จะเป็นสลากฯชุดใหม่อยู่ภายใต้หลัดเกณฑ์เดิม คือ พิมพ์ออกจำหน่ายได้ไม่เกินงวดละ 11 ล้านฉบับ วงเงินที่จะนำมาใช้สนับสนุนโครงการไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เป็นหลักเกณฑ์เดิมที่เคยทำมาแล้ว อย่างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เงินที่จะได้จากการจำหน่ายสลากส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนโครงการด้านสาธารณสุข โรงพยาบาล แต่การออกสลากการกุศลครั้งนี้ เงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากฯส่วนหนึ่งจะนำมาใช้ในโครงการ ODOS เพื่อสร้างโอกาสและอนาคตให้กับเยาวชนไปศึกษาต่อในต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก และนำประสบการณ์ความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำลังเตรียมเรื่องเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาอนุมัติในวันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2567 หรือ ในต้นเดือนมกราคม 2568 จากนั้น ครม.อนุมัติแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล กำหนดรายละเอียดการออกสลากการกุศล และแนวทางในการดำเนินการ ส่วนคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ “บอร์ดสลากฯ” ก็จะมากำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการ คาดว่าจะเปิดให้เยาวชนไทยยื่นขอทุนการศึกษาได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568

“สำหรับรายละเอียดโครงการหนึ่งทุน หนึ่งอำเภอ ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากกระทรวงการคลังจะมีหน้าที่ระดมทุนโดยการออกสลากการกุศล ส่วนเรื่องการมอบทุนการศึกษาจะเป็นหน้าที่ของอีกหน่วยงานหนึ่ง เข้าใจว่าจะเป็นสำนักงาน ก.พ. โดยปีแรกค่าใช้จ่ายอาจจะไม่มากนัก เพราะมีแค่นักศึกษาปีที่ 1 ส่วนปีที่ 2 ก็จะมีนักศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับทุนการศึกษา กับนักศึกษาปีที่ 2 รวมกัน ยอดค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ทางสำนักงานสลากฯก็จะพิมพ์สลากการกุศลออกขายเพิ่มขึ้นไปตามระยะเวลา ขณะเดียวกันก็จะมีเด็กที่สำเร็จการศึกษา จากนั้นก็จะมีการประเมินผลโครงการ หากเห็นว่าโครงการนี้ดีมีประโยชน์ก็จะทำต่อไป โครงการนี้ไม่ใช่โครงการใหม่ ครั้งที่แล้วเราส่งเด็กไทยไปเรียนต่อต่างประเทศจนสำเร็จการศึกษาเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายมาเกิดการรัฐประหารโครงการนี้ก็เลยหายไป ครั้งนี้ก็เลยเอากลับมาทำใหม่” นายจุลพันธ์ กล่าว
อนึ่ง การจัดสรรเงินรายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศล ตามกฎหมายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะถูกกันไว้จ่ายเป็นเงินรางวัล 60% ของรายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศล , ค่าภาษีการพนันของกระทรวงมหาดไทย 0.5% , ค่าใช้จ่ายในการบริหารไม่เกิน 17% และจัดสรรเป็นรายได้ให้กับหน่วยงานที่จะนำไปใช้ในโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนตามนโยบายรัฐบาลได้ไม่เกิน 22.5% กรณีมีเงินเหลือจากการดำเนินโครงการให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำส่งเงินดังกล่าวเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป