ThaiPublica > เกาะกระแส > “จุลพันธ์” แจกแน่! ดิจิทัลหมื่นบาท ไตรมาส 4 ปีนี้ – เงินมาจากไหน ยังไม่ตอบ

“จุลพันธ์” แจกแน่! ดิจิทัลหมื่นบาท ไตรมาส 4 ปีนี้ – เงินมาจากไหน ยังไม่ตอบ

25 มีนาคม 2024


เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ณ ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา (ฝั่ง ส.ส.)

“จุลพันธ์” ยันเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถึงมือประชาชน 50 ล้านคน ไตรมาส 4 ปีนี้แน่นอน แต่ยังไม่รู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะมาจากไหน?

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการศึกษาข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. และคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆใกล้เสร็จแล้ว และกำลังรวบรวมข้อมูลทั้งความเห็นของนักวิชาการ ภาคประชาชน สภาหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกว่า 100 หน่วยงาน รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท หรือที่เรียกว่า “คณะกรรมการชุดใหญ่” ในวันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า “ไทม์ไลน์ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนขึ้นทุกวัน โดยจะมีการกำหนดกรอบเวลาเอาไว้กว้าง ๆ ว่าเงินจะถึงมือประชาชนเมื่อไหร่ เริ่มจากคณะอนุกรรมการฯรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีทั้งผลการศึกษา และความเห็นของหน่วยงานต่างๆ กว่า 100 หน่วยงาน รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ พิจารณารับทราบอย่างเป็นทางการ จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในรายละเอียดต่างๆ ภายใต้กรอบของกฎหมาย เสนอคณะอนุกรรมฯ ซึ่งผมเป็นประธานฯ และนำกลับมาเสนอที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้งในวันที่ 10 เมษายน 2567 เพื่อสรุปรายละเอียด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขทั้งหมด เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

“จากไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ในเบื้องต้น คาดว่าในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชน มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากระบบค่อนข้างพร้อมแล้ว และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 รัฐบาลจะเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ถึงมือประชาชนทุกคน ยืนยันก่อนสิ้นปีนี้ได้แน่นอน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้เงินจากงบประมาณปี 2567 ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ตอบว่า “ต้องรอให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ก่อน ซึ่งต้องนำความเห็น หรือ ข้อเสนอต่างๆไปหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ ผมเชื่อว่าไม่เกินวันที่ 10 เมษายนนี้ทุกอย่างชัดเจน และได้ข้อสรุปทั้งหมด รัฐบาลยืนยันเดินหน้าโครงการฯนี้ และเงินจะถึงมือประชาชนก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนจะได้รับเงินตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์ ตอบว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คือเดือนตุลาคม- พฤศจิกายน -ธันวาคม 2567 เงินถึงมือประชาชนแน่นอน และ เราจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งจะต้องมีการทดสอบระบบ และอื่นๆอยู่บ้าง ตอนนี้เรื่องที่ช้าที่สุดอาจจะเป็นเรื่องของระบบ ต้องมานั่งตีกรอบให้ชัดเจนว่าเราจะทำให้ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งสรุปเอาไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไม่ได้กู้เงินมาใช้ในโครงการนี้แล้วใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ตอบว่า “ต้องรอฟังคณะกรรมการชุดใหญ่”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กำหนดไว้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกหรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า “เงื่อนไขไม่เปลี่ยนแปลงเลย แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อยที่มีการหารือกัน เดี๋ยวให้ที่ประชุมสรุปอีกครั้ง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางหอการค้า หรือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีความเห็นต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างไร ตอนนี้วิกฤติ หรือ ไม่วิกฤติ นายจุลพันธ์ ตอบว่า “ไม่ได้ไปถกเถียงกันตรงนั้น แต่สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รัฐบาลใช้แหล่งเงินจากไหน แต่ถ้าดูจากไทมไลน์ไม่ได้ใช้ พ.ร.บ. แต่อาจจะออกเป็น พ.ร.ก.ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ตอบว่า “รอฟังคณะกรรมการชุดใหญ่ดีกว่าครับ ขออนุญาตตอบแบบนั้นดีกว่า ถ้าผมตอบตอนนี้อาจผิดกฎหมาย เพราะคณะกรรมการชุดใหญ่ยังไม่ได้มีมติใดๆ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมรัฐบาลมั่นใจสามารถโอนจ่ายเงินดิจิทัลได้ทันในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ นายจุลพันธ์ตอบว่า “ทำไมเราถึงมั่นใจว่าจ่ายเงินได้ เพราะว่าเราดูข้อกฎหมาย และรายละเอียดทั้งหมดแล้วอยู่ในกรอบที่สามารถดำเนินการได้ และยังได้รับฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างครบถ้วนจนได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ เชื่อว่าสามารถเดินหน้าได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังยึดในกรอบเดิมหรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ยังอยู่ในกรอบเดิม 50 ล้านคน ยังไม่มีการปรับครับ คือ นโยบายของรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่การเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนในเรื่องป้องกันการทุจริตนั้น ครั้งที่แล้ว รัฐบาลก็จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ด้านสภาพัฒน์ ฯ ก็จัดตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการใช้เงินผิดประเภท ขึ้นมากำกับดูแล หาทางป้องกันไม่ให้เกิดการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช. ตั้งข้อสังเกตว่า รายละเอียดโครงการไม่ตรงกับที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ จะชี้แจงอย่างไร

นายจุลพันธ์ ตอบว่า “ประเด็นนี้ไม่เป็นห่วง นโยบายของรัฐบาล คือ นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และรัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลผสมต้องมีการหารือ เพื่อหาจุดสมดุลของนโยบายต่าง ฯ ไม่ใช่นโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งเมื่อเดินหน้าด้วยกันแล้ว เราต้องหาความเหมาะสม และตอบสนองต่อหลักการ และวัตถุประสงค์ของนโยบายนี้ให้ได้มากที่สุดเมื่อมีข้อท้วงติงในที่ประชุม เช่น เรื่องกลุ่มเป้าหมายจากเดิมแจกทุกคนที่มีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไป ก็มีการปรับลดลงมาเล็กน้อยเหลือ 50 ล้านคน ตามข้อห่วงใยของพรรคร่วมรัฐบาล จะให้เหมือน 100 % คงเป็นไปได้ยาก ซึ่งประเด็นนี้ก็มีถามกันในที่ประชุมวุฒิสภา”

“ถามว่าถือเป็นการจูงใจให้มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่ ผมขอบอกเลยว่าไม่ใช่ เพราะว่ามันผ่านพ้นการเลือกตั้งมานานแล้ว นี้คือการทำนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในเรื่องการเลือกตั้งทุกพรรคการเมือง ก็มีนโยบายหาเสียงเหมือนกัน หากนโยบาย เติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เป็นการจูงใจที่ไม่ต่างอะไรจากการซื้อเสียง ก็ต้องถามกลับเช่นกันว่า นโยบายบัตรคนจน หรือ เพิ่มเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ เป็นการเติมเงินให้ประชาชนหรือไม่ แต่ละพรรคมีการเสนอนโยบายต่อประชาชน และต้องขอบคุณคณะกรรมการการเลือกตั้งที่แถลง และชี้แจงแล้วว่าเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย เพราะนี้คือนโยบายที่ได้รับการประทับตราจากประชาชนมาแล้วระดับหนึ่ง เมื่อเข้าสู่รัฐบาลในการแถลงนโยบาย ถือว่ากระบวนการครบถ้วน” นายจุลพันธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หลังจากวันที่ 10 เมษายน 2567 ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร?

นายจุลพันธ์ ตอบว่า หลังวันที่ 10 เมษายน 2567 ทุกคนจะรับทราบในกรอบของงานชัดเจนมากขึ้น และรายละเอียดโครงการจะมีความชัดเจนทั้งหมด หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดีอีเอส, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงการคลัง ต้องรับไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้ครบถ้วน และส่งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนตัวระบบการโอนเงินต่างๆก็จะมีการทดลองให้เสร็จเรียบร้อยตามกรอบเวลา

  • นายกฯถกบอร์ด“ดิจิทัล วอลเล็ต”นัดแรก ตั้ง “จุลพันธ์” ประธานขับเคลื่อน ฯ ย้ำทำงานรอบคอบ – ยึดวินัยการคลัง
  • นโยบาย “รัฐบาลเศรษฐา” แถลงสภาฯ ชู 5 ประเด็นเร่งด่วน
  • นายกฯตั้ง คกก.-ผู้ว่าแบงก์ชาติ ศึกษาข้อเสนอ ‘กฤษฎีกา-ป.ป.ช.’ 30 วัน ก่อนชงบอร์ดดิจิทัลเคาะ ‘กู้-ไม่กู้’
  • ป.ป.ช. เบรก ครม.กู้ 5 แสนล้าน ทำ ‘ดิจิทัล วอลเล็ต’ ยัน ศก.ไทยไม่วิกฤติ แนะ กกต.สอบนโยบายไม่ตรงปก?
  • เงินดิจิทัล 10,000 บาท แจก 5.6 แสนล้านบาท บริหารอย่างไร-ไม่ต้องกู้