ThaiPublica > เกาะกระแส > Nomura ชี้ การท่องเที่ยวต่างประเทศจีนปี 2024 จะฟื้นตัวกลับมาแค่ 73% ของปี 2019 ก่อนโควิด-19

Nomura ชี้ การท่องเที่ยวต่างประเทศจีนปี 2024 จะฟื้นตัวกลับมาแค่ 73% ของปี 2019 ก่อนโควิด-19

28 มกราคม 2024


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

เว็บไซด์ ggrasia.com รายงานบทวิเคราะห์ล่าสุดของธนาคาร Nomura ว่า ลมปะทะที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการฟื้นตัวการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนในปี 2024 ยังคงมีอยู่ โดยปัญหาข้อจำกัดด้านอุปทาน (supply constraints) ได้ผ่อนคลายลงแล้ว เช่น จำนวนเที่ยวบิน ราคาค่าโดยสาร และวีซ่าขาออกของคนจีน

แต่ปัจจัยฉุดรั้งด้านอุปสงค์ (demand side) กลับเริ่มมีผลกระทบ เช่น การอ่อนตัวของค่าเงินหยวน เทียบกับเงินสกุลสำคัญ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนตัวของจีน การเติบโตของรายได้ที่ชะงักงัน และอัตราการว่างงานของเยาวชน ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนมีผลกระทบต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน ที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

นักท่องเที่ยวจีนกลับมา 73% ของก่อนโควิด

รายงาน Nomura คาดการณ์ว่า ในปี 2024 จำนวนผู้โดยสารชาวจีนของสายการบินที่บินระหว่างประเทศ จะฟื้นตัวมาที่ระดับ 73% ของผู้โดยสารในปี 2019 ก่อนที่จะเกิดโควิด-19 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 57.9% ในเดือนพฤศจิกายน 2023 การฟื้นตัวเฉลี่ยทั้งปี 2024 จะอยู่ที่ 67% แต่การใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวจีน จะฟื้นตัว 100% ในปี 2024

จากข้อมูลของสถาบันการท่องเที่ยวจีน (China Tourism Academy) และองค์การการท่องเที่ยวโลก (WTO) ในปี 2019 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ 155 ล้านครั้ง ใช้จ่ายเงินทั้งหมด 255 พันล้านดอลลาร์ ทาง Nomura เองวิเคราะห์ว่า ทั้งจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร การฟื้นตัวเต็มในปี 2025

รายงานล่าสุดของ Nomura กล่าวถึงเที่ยวบินจากจีนมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า โดยทั่วไป ในระยะ 2 เดือนสุดท้ายในปี 2023 การฟื้นตัวเที่ยวบินจากจีนมายังอาเซียน ค่อนข้างผิดหวัง โดยเฉลี่ย ในเดือนธันวาคม 2023 เที่ยวบินมายังอาเซียน-6 คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ฟื้นตัวเพียง 58.1% ของปี 2019 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 56% ในเดือนตุลาคม 2023 แต่สิงคโปร์ทำได้ดีที่สุด คือเที่ยวบินจากจีนในเดือนธันวาคม 2023 เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 81.6% ของปี 2019 เดือนตุลาคม 2023 อยู่ที่ 78.2%

การท่องเที่ยวจีนที่ยังกลับมาอย่างช้าๆ

ส่วนบทความชื่อ China’s Travel Industry Is Slowly Coming Back ในเว็บไซต์ nytimes.com ก็กล่าวว่า นับจากที่จีนเปิดพรมแดนในปี 2023 หลังจากปิดประเทศเป็นเวลา 3 ปี จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การเดินทางในประเทศฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง คนจีนนิยมเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง แต่การเดินทางออกนอกประเทศยังคงเพิ่มขึ้นช้าๆ จำนวนที่นั่งของเที่ยวบินมีแค่ระดับ 1 ใน 3 ของก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด

การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีน ที่ขยายตัวช้าๆ มีความหมายสำคัญทางเศรษฐกิจต่อการท่องเที่ยวโลก WTO ระบุว่า ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเป็นผู้ใช้จ่ายเงินรายใหญ่สุดของโลก มีสัดส่วนถึง 20% ของรายได้การท่องเที่ยวโลก
นับจากต้นศตวรรษที่ 21 การท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงปี 2002-2013 อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองตัว ปี 2014 เป็นครั้งแรกที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศเกิน 100 ล้านคน

ก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด จีนเป็นตลาดการเดินทางออกนอกประเทศใหญ่สุดของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนการเดินทางและการใช้จ่ายเงิน จีนยังเป็นตลาดสำคัญของหลายประเทศ ที่เป็นปลายทางการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วน 28% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดของไทย 30% ของญี่ปุ่น และ 16% ของเยอรมัน

การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสุด ของการเดินทางออกนอกประเทศทั้งหมดของจีน ในปี 2019 มีสัดส่วน 65% ของนักเดินทางทั้งหมด 29% เป็นการเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ และ 6% เป็นการเดินทางเพื่อเยี่ยมเยือนญาติมิตร

ขณะเดียวกัน ทางการจีนก็พยายามส่งเสริมนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาจีนมากขึ้น ปี 2023 จีนยกเว้นวีซ่าการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศ รวมทั้งจากเยอรมันและฝรั่งเศส

รายงานของ nytims.com ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลังเลที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ คือเรื่องเศรษฐกิจ เศรษฐกิจเติบโตขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด แต่ภาวะเลวร้ายด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การใช้จ่ายเงินและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวจีนลดลง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ก็ทำให้เกิดบรรยากาศความไม่แน่นอน

จะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2025

รายงานของ nytimes.com กล่าวว่า จากข้อมูลของ OAG บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเที่ยวบินสายการบิน เดือนธันวาคม 2023 จำนวนที่นั่งของเที่ยวบินต่างประเทศเข้าออกจีน มีปริมาณ 62% ของจำนวนที่นั่งในเดือนธันวาคม 2019 แต่การเดินทางในประเทศของจีนฟื้นตัวแล้ว ช่วงวันหยุด 3 วันในเทศกาลสิ้นปี 2023 จำนวนผู้โดยสารเครื่องบินมากกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดถึง 10%

องค์การการบินพลเรือนของจีน (Civil Aviation Administration of China – CAAC) เปิดเผยว่า ต้นปี 2023 จีนมีเที่ยวบินต่างประเทศ 500 เที่ยวต่อสัปดาห์ ปัจจุบันเพิ่มเป็น 4,600 เที่ยวต่อสัปดาห์ คาดว่าสิ้นปี 2024 จะมีทั้งหมด 6,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ หรือ 80% ของจำนวนเที่ยวบินก่อนเกิดโควิด-19

เดินทางเที่ยวจีนสะดวกมากขึ้น

เดือนธันวาคม จีนอนุญาตให้นักเดินทางจาก 6 ประเทศ มาเยือนจีนได้ 15 วันโดยไม่มีวีซ่า การยกเว้นวีซ่าจะมีไปจนถึงพฤศจิกายน 2024 หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนเปิดเผยว่า ช่วง 6 สัปดาห์ครึ่งของโครงการนี้ มีผู้เดินทางเข้ามาแล้ว 147,000 คน จีนยังได้บรรลุข้อตกลงการยกเว้นวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวจากไทยและสิงคโปร์

นอกจากนี้ การใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติในจีนก็สะดวกมากขึ้น เดือนกรกฎาคม 2023 ระบบการชำระเงินของจีนผ่าน WeChat และ AliPay แถลงว่า จะสนับสนุนบัตรเครดิตต่างประเทศ ให้สามารถชำระเงินได้เหมือนบัตรเครดิตของจีนเอง การแพร่ระบาดของโควิด เป็นตัวเร่งให้จีนเข้าสู่ระบบที่ไม่ใช่เงินสด

เนื่องจากราคาบัตรโดยสารในปัจจุบัน ที่เดินทางไปปลายทาง เช่นญี่ปุ่นและไทย เพิ่มเท่าตัวจากปี 2019 นักท่องเที่ยวจีนที่อ่อนไหวต่อราคา อาจจะรอให้ราคาลดลงมาในระดับหนึ่ง ก่อนตัดสินใจที่จะไปท่องเที่ยวต่างประเทศ

นักวิเคราะห์เองเชื่อว่า รายได้เหลือใช้ของนักเดินทางชาวจีน อาจมีส่วนกำหนด การฟื้นตัวการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน เพราะครอบครัวคนจีนอ่อนไหวต่อราคามากขึ้น รู้จักพิจารณาจากเหตุและผล มากกว่าอารมณ์ความต้องการ การท่องเที่ยวในประเทศเอง ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากใช้เวลาและงบประมาณน้อยกว่า

เมื่อคนจีนเดินทางไปต่างประเทศ นิยมปลายทางที่อยู่ใกล้ประเทศจีน ดังนั้น 60% ของนักท่องเที่ยวจีนจึงเลือกประเทศในเอเชียแปซิฟิก ครึ่งแรกปี 2023 ปลายทางยอดนิยมคือไทย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ แต่การท่องเที่ยวในเอเชียจะฟื้นตัวเต็มที่ ก็ต่อเมื่อมีนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มมากขึ้น ปี 2019 นักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทย 11 ล้านคน แต่ 10 เดือนแรกของปี 2023 มาไทยเพียง 2.8 ล้านคน

เอกสารประกอบ

China Travel Unlikely This Year to Match 2019: Nomura, January 09, 2024, ggrasia.com
China’s Travel Economy Is Slowly Coming Back, January 23, 2024, nytimes.com