ThaiPublica > สู่อาเซียน > เวียดนามตั้งเป้าส่งออกสินค้าประมง 9.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567แม้ยังติดใบเหลือง IUU

เวียดนามตั้งเป้าส่งออกสินค้าประมง 9.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567แม้ยังติดใบเหลือง IUU

23 ธันวาคม 2023


เรือประมงในจังหวัดนิญถ่วน ที่มาภาพ:https://en.vietnamplus.vn/vietnam-building-sustainable-fisheries-sector/271811.vnp

ภาคประมงเวียดนามตั้งเป้ามูลค่าการส่งออก 9.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 แม้อุตสาหกรรมประมงยังคงเผชิญกับความท้าทาย ทั้งทรัพยากรอาหารทะเลที่ลดลง คำเตือนใบเหลืองหรือ IUU ของคณะกรรมาธิการยุโรป และความต้องการในตลาดส่งออกหลักที่ลดลง

  • เวียดนามเร่งมือขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย หวังหลุดใบเหลือง IUU
  • การสร้างห่วงโซ่การผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมประมงในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

    นายเจิ่น ดิ่ญ ลวน กรรมการในคณะกรรมการการประมงของเวียดนามกล่าวในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี(21 ธ.ค.) ว่า อุตสาหกรรมตั้งเป้ารายได้จากการส่งออกที่ 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2567 เนื่องจากความต้องการการบริโภคทั่วโลกที่ต่ำ โดยมีผลผลิตรวมประมาณ 9.22 ล้านตันเท่ากับปีนี้ อย่างไรก็ตาม การจับสัตว์น้ำทางทะเลคาดว่าจะลดลง 8.3% เป็น 3.54 ล้านตัน ในขณะที่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจะเพิ่มขึ้น 5% เป็น 5.68 ล้านตัน

    นายลวน ชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมประมงยังคงเผชิญกับความท้าทาย ทั้งทรัพยากรอาหารทะเลที่ลดลง คำเตือนใบเหลืองของคณะกรรมาธิการยุโรป และความต้องการในตลาดส่งออกหลักที่ลดลง

    ใบเหลือง คือ คำเตือนถึงการประมงทะเลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม(illegal, unreported and unregulated fishing : IUU Fishing)

    นอกเหนือจากการเสริมสร้างความเชื่อมโยงและการสร้างห่วงโซ่คุณค่าแล้ว ยังต้องขจัดปัญหาทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์หลัก ลดการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ เพิ่มการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และพัฒนาเศรษฐกิจอาหารทะเลในลักษณะที่ยั่งยืนซึ่งสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    “การผลิตจะต้องเชื่อมโยงกันเป็นห่วงโซ่ แหล่งที่มาของสินค้าต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ การจับทางทะเลจะต้องเหมาะสมกับปริมาณสำรองและรับรองความปลอดภัยของอาหารในระหว่างกระบวนการ”

    ภาคส่วนนี้ยังต้องใส่ใจกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนายลวนกล่าว พร้อมเสริมว่า สวัสดิภาพสัตว์ยังเป็นประเด็นสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความต้องการของตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวโน้มในตลาดโลกด้วย

    นายญู วัน เกิ่น รองผู้อำนวยการกรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมประมงจะมีผลผลิต 9.269 ล้านตันในปีนี้ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยปริมาณการจับปลาอยู่ที่ 3.861 ล้านตัน และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 5.408 ล้านตัน

    เวียดนามตั้งเป้าหมายลดผลผลิตประมงที่จับได้เป็น 3.68 ล้านตัน

    รายได้จากการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯตลอดทั้งปี หรือ 92% ของแผนที่กำหนดไว้สำหรับปี 2566 ที่ 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

    ผลิตภัณฑ์ประมงที่สำคัญ ได้แก่ กุ้งที่มีมูลค่าการส่งออก 3.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ปลาสวาย 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และปลาทูน่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

    นายเดือง ลอง จิ รองเลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลแห่งเวียดนาม กล่าวว่าผลผลิตของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลส่งออกที่สำคัญ เช่น กุ้งและปลาสวาย เพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะรักษาปริมาณที่เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

    โดยอ้างถึงตัวเลขผลผลิตกุ้งที่เลี้ยงอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านตัน เทียบกับผลผลิตก่อนหน้าที่ 700,000 ตัน แต่มูลค่าการส่งออกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพียงประมาณ 3.5-4 พันล้านเหรียญาหรัฐฯเท่านั้น ดังนั้นต้องมีการเพิ่มการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าการส่งออก เข

    นายเหวียน วัน เจือง ผู้บริหารของ Fishing Vessel and Fisheries Logistics Service Facility Management Department กล่าวว่า ต้องมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์บันทึกประจำวันอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อติดตามแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ควบคู่ไปกับการเพิ่มการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ และข้อมูลดิจิทัลจะเป็นทางออกที่สำคัญในการปรับปรุงความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

    เจ้าหน้าที่และทหารตรวจสอบเอกสารของเจ้าของเรือประมง ที่มาภาพ:https://en.vietnamplus.vn/vietnam-building-sustainable-fisheries-sector/271811.vnp

    เวียดนามเดินหน้าหวังยกเลิก ‘ใบเหลือง’ ก่อน 30 เมษายน

    รองนายกรัฐมนตรี เจิ่น หลิ่ว กวาง ได้ขอให้กระทรวง หน่วยงาน และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้หลุดจาก “ใบเหลือง” ของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เกี่ยวกับการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ก่อนวันที่ 30 เมษายน 2567

    ในการทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 8 ของคณะกรรมการกำกับดูแลการป้องกันและควบคุมการทำประมง IUU แห่งชาติ(National Steering Committee on IUU Fishing Prevention and Control ) ในจังหวัดบ่าเหรี่ยะ – หวุงเต่า ทางตอนใต้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม รองนายกรัฐมนตรีชี้ว่า ควรดำเนินการให้มีการยกเลิกคำเตือนใบเหลืองก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาสหภาพยุโรปในปีหน้า

    การประชุมจัดขึ้นเพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของ EC หลังจากการตรวจสอบครั้งที่สี่ในเวียดนามในเดือนตุลาคม

    EC ได้แนะนำให้เวียดนามยกระดับมาตรการในการตรวจจับ ป้องกัน และดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนที่เกี่ยวข้องกับการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่จงใจตัดการเชื่อมต่อระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring Systems-VMS) ในบริเวณใกล้กับเขตเศรษฐกิจจำเพาะ

    นอกจากนี้ ยังขอให้มีการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเรือประมงที่ถูกถอนทะเบียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจกรรมประมง และรับประกันความถูกต้องของข้อมูลเกี่ยวกับเรือประมงในฐานข้อมูลประมงแห่งชาติ (VNFishbase) เวียดนามได้รับการร้องขอให้จัดทำแผนแม่บทเพื่อการพัฒนาประมงอย่างยั่งยืนต่อไปในช่วงปี 2593

    EC ยังเรียกร้องให้เวียดนามควบคุมและตรวจสอบท่าเรือประมงที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันและการรับรองแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด

    รองนายกรัฐมนตรีกวางกล่าวว่า จะมีการรณรงค์ปราบปรามการประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้หลุดใบเหลืองของ EC

    กระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้รับมอบหมายให้สืบสวนและดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการล่อเรือและชาวประมงเวียดนามให้จับปลาผิดกฎหมายในน่านน้ำต่างประเทศ

    ที่มาภาพ: https://en.vietnamplus.vn/vietnam-plans-sustainable-development-of-fisheries-sector/269458.vnp

    จี้ EU ยกเลิก IUU โดยเร็ว

    ในการประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม นายเลอ มิ่งห์ ฮวาน ในกรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส(Virginijus Sinkevicius) กรรมาธิการ EC ด้านสิ่งแวดล้อม มหาสมุทร และการประมง กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ตระหนักถึงความพยายามและความก้าวหน้าของเวียดนามในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะในการต่อสู้กับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และยืนยันความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับเวียดนามในการพัฒนาการประมงที่ยั่งยืน และบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวและหมุนเวียน

  • EU-IUU หลุมพรางการพัฒนาการทำประมงอย่างยั่งยืน: กรณีประเทศไทย (ตอนที่ 1)
  • EU-IUU หลุมพรางการพัฒนาการทำประมงอย่างยั่งยืน: กรณีประเทศไทย (ตอนที่ 2)
  • EU-IUU หลุมพรางการพัฒนาการทำประมงอย่างยั่งยืน: กรณีประเทศไทย (ตอนที่ 3)
  • EU-IUU หลุมพรางการพัฒนาการทำประมงอย่างยั่งยืน: กรณีประเทศไทย (ตอนจบ)

  • ผู้แทนของ EC ยังกล่าวอีกว่า EC ต้องการช่วยเหลือเวียดนามในการเป็นแบบอย่างของการพัฒนาประมงที่ยั่งยืน และในการรณรงค์ต่อต้านการทำประมง IUU ในโลก

    ในการประชุมนายฮวาน บอกกับนายซิงเควิชุส ว่า เวียดนามเห็นว่าใบเหลืองของ EC ไม่เพียงแต่เป็นความท้าทาย แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับภาคการประมงในประเทศที่จะเปลี่ยนจากอุตสาหกรรมขนาดเล็ก หลายภาคส่วน หลายชนิดมาเป็นอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน แผนงานที่ครอบคลุมโดยมีเป้าหมายและแนวทางแก้ไขเฉพาะได้มีการจัดทำและดำเนินการในทุกระดับ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของหน่วยงาน องค์กร ชุมชนประมง สมาคม และธุรกิจอาหารทะเล

    จนถึงขณะนี้ เวียดนามประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ในการดำเนินการตามบทบัญญัติทางกฎหมายและคำแนะนำของ EC เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการทำประมง IUU ในชุมชนประมง ธุรกิจ และสังคม

    นายฮวานกล่าวต่อไปว่า ได้มีการจัดทำกรอบกฎหมายที่ครอบคลุมในการจัดการประมงและแก้ไขการทำประมง IUU พร้อมกับการประกาศใช้กฎหมายประมง การจัดการเรือประมงได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการจัดตั้งและดำเนินการฐานข้อมูลระดับชาติสำหรับเรือประมง ปัจจุบันเรือประมงนอกชายฝั่งมากกว่า 97.65% (ที่มีความยาวตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป) ได้ติดตั้งอุปกรณ์ติดตามแล้ว ในขณะเดียวกัน ได้มีการนำระบบการติดตามแหล่งที่มาของอาหารทะเลมาใช้ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การควบคุมปริมาณที่ท่าเรือไปจนถึงการออกใบรับรองการส่งออก และการควบคุมวัตถุดิบที่โรงงานแปรรูป

    อุปกรณ์ติดตามในเรือ ที่มาภาพ:https://en.vietnamplus.vn/vietnam-building-sustainable-fisheries-sector/271811.vnp

    นอกจากนี้ยังมีการจัดทำฐานข้อมูลระดับชาติเกี่ยวกับการละเมิดการบริหารด้านการประมง โดยให้ข้อมูลแก่ชุมชนชายฝั่งทะเล กองกำลังรักษาชายแดน และชายฝั่งรวม 28 แห่ง ซึ่งช่วยลดการละเมิดน่านน้ำต่างประเทศได้อย่างดีนับตั้งแต่ปี 2558

    รัฐมนตรีเน้นย้ำว่า เวียดนามระบุอย่างชัดเจนว่าการพัฒนาประมงที่ยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการกับคำเตือนใบเหลืองของ EC ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเสนอให้สหภาพยุโรปยกเลิกคำเตือนสำหรับเวียดนามโดยเร็ว

    รัฐมนตรีฮวาน ยังขอให้สหภาพยุโรปจัดประเภทเวียดนามว่ามีความเสี่ยงต่ำ ในด้านการดำเนินการตามกฎระเบียบใหม่ของสหภาพยุโรปในการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า นอกจากนี้ยังขอให้สหภาพยุโรปส่งเสริมการค้าและการลงทุนในด้านการเกษตรของเวียดนามต่อไป และสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจหมุนเวียน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การยกระดับชีวิตชาวประมง และการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน

    รัฐมนตรีเวียดนามยังได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ Directorate-General for the Environment (DG Environment) และ Directorate-General for Maritime Affairs and Fisheries (DG MARE) ของ EC ในระหว่างการประชุม และได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลเวียดนามในการเปลี่ยนผ่านการเกษตรในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรที่โปร่งใส ในขณะที่ประเทศกำลังมุ่งสู่การเป็นซัพพลายเออร์หลักของผลิตภัณฑ์อาหารระดับโลก

  • 7 ปี ความดีใจกับการแก้ IUU fishing ของ “รัฐบาลประยุทธ์” บนซากศพชาวประมง