ThaiPublica > คอลัมน์ > 7 ปี ความดีใจกับการแก้ IUU fishing ของ “รัฐบาลประยุทธ์” บนซากศพชาวประมง

7 ปี ความดีใจกับการแก้ IUU fishing ของ “รัฐบาลประยุทธ์” บนซากศพชาวประมง

2 พฤษภาคม 2022


วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์

21 เมษายน 2558 สหภาพยุโรป ให้ “ใบเหลือง” ประเทศไทย และกล่าวหาว่า “การประมงทะเลของไทยเป็นการทำประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (illegal, unreported and unregulated fishing : IUU Fishing)” และให้รัฐบาลไทย (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในขณะนั้น) เสนอแผนในการแก้ไขปัญหา IUU Fishing “ภายในเวลา 6 เดือน” มิฉะนั้น จะให้ “ใบแดง” (ห้ามส่งสินค้าสัตว์น้ำเข้าไปขายในสหภาพยุโรป)

รัฐบาลไทย (คสช.) เข้าใจว่า หากเราได้ “ใบแดง” จะกระทบการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของไทยที่มีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท จึงต้องการแก้ไขปัญหา “ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 6 เดือน” ด้วยการตั้ง “คณะบุคคลที่ไม่มีความรู้เรื่องประมงทะเลเลยสักคน” มาแก้ปัญหา โดยไม่ฟังเสียงประชาชนชาวประมง

แต่ข้อเท็จจริงคือ เขาให้เราเสนอแผนแก้ปัญหาในเวลา 6 เดือน และ ถ้าเราโดน “ใบแดง” จริง ความเสียหายจากการส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปไม่ได้ จะมีมูลค่าเพียงปีละไม่เกิน 8,000 ล้านบาท

ในการแก้ปัญหา IUU Fishing รัฐบาล (คสช.) ออกกฎหมายและมาตรการต่างๆ ที่ขัดหลักการของกฎหมาย ขัดอนุสัญญาระหว่างประเทศ ขัดรัฐธรรมนูญของประเทศ และขาดมนุษยธรรม พร้อมกับบทลงโทษสูงสุดนับตั้งแต่มีการออกกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม

การดำเนินการต่างๆ ส่งผลกระทบต่อความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศ ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวประมงล่มสลาย ทำให้เรือประมงนับพันลำต้องจอด ลูกเรือตกงาน เจ้าของเรือขาดรายได้ ขาดอาชีพ ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว มีหนี้สินล้นพ้นตัว ล้มละลาย และกระทำอัตวินิบาตกรรม จนอุตสาหกรรมประมงของประเทศ Ship-หาย ทั้งหมด อย่างไม่เคยมีมาก่อน

ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างบ้าระห่ำ

ใช้เวลา 3 ปี 8 เดือน 9 วัน สหภาพยุโรป ยก “ใบเหลือง” เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 รัฐบาลไทยชื่นชมยินดี

เป็นหนึ่งในผลงานที่อวดอ้าง คือ “การปลดใบเหลือง”

สหภาพยุโรปปลดใบเหลือง : ท่านยินดี แต่ให้รู้ไว้เถิดว่า : ท่านดีใจบนซากศพชาวประมง

ความภูมิใจของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหา IUU Fishing จนได้รับความชมเชยจากสหภาพยุโรป

แต่ภาพเหล่านี้ สะท้อน “ความ “Ship-หาย” ของบ้านเมือง” ที่เกิดจากการแก้ไขปัญหาของรัฐบนความไม่รู้และอคติ

3 ปี แห่งความภาคภูมิใจที่ปลด “ใบเหลือง” เหตุไฉน “ความ Ship-หาย” จึงยังไม่สิ้นสุด

8 มกราคม 2562 – 8 มกราคม 2565 จงรู้ไว้เถิดว่า สิ่งที่พวกท่านทำนั้น เกิดจากการกลัดกระดุม (เม็ดแรก) “ผิดเม็ด”

15 พฤษภาคม 2563 นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว อย่างที่ไม่มีนายกฯ คนอื่นทำมาก่อน ทว่า ท่าน “ฟัง” แต่ไม่ได้ยิน

ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของชาติ

1. เสียโอกาสในการใช้ทรัพยากรที่ลดลงปีละ 6,000 ล้านบาท
2. มีการส่งออกที่ลดลงปีละ 18,700 ล้านบาท
3. มีการนำเข้าสินค้าประมงเพิ่มขึ้นปีละ 23,500 ล้านบาท
4. เจ้าของเรือในน่านน้ำไทยเสียหายปีละ 42,300 ล้านบาท
5. การประมงนอกน่านน้ำเสียหายปีละ 41,500 ล้านบาท
6. ธุรกิจประมงและธุรกิจต่อเนื่องเสียหายปีละ 38,000 ล้านบาท
7. ลูกเรือและลูกจ้างในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเสียหายปีละ 16,000 ล้านบาท

รวมความเสียหายปีละ 186,000 ล้านบาท

วันนี้จึงอยากบอกผู้บริหารประเทศว่าสิ่งที่ท่านพยายามรักษาตลาดส่งออกสัตว์น้ำไปสหภาพยุโรปที่มีมูลค่าเพียง 8,000 ล้านบาท/ปี ด้วยการแลกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศถึง 186,000 ล้านบาท/ปี

หรือ 7 ปี ที่ผ่านมา เกิดความ “Ship-หาย” ไปแล้ว 1,302,000 ล้านบาท

และจะเกิดความ “Ship-หาย” ต่อเนื่องต่อไปทุกปีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด (ถ้าท่านยังไม่ฟังเสียงชาวประมง)

  • “วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์” เล่าวิถีประมงทะเล กรณี IUU (ตอนที่ 1) : ฟันธงรัฐบาลแก้โจทย์ผิด
  • “วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์” เล่าวิถีประมงทะเลกรณี IUU (ตอนที่ 2): วิกฤติแรงงานประมงทะเล มีแต่ “ต่างด้าว-ป.4” บริหารเรือ 50 ล้าน
  • 6 ปีกับการแก้ปัญหา IUU Fishing (ตอน 1): ความภาคภูมิใจของรัฐบนความ “Ship-หาย”ของบ้านเมือง
  • 6 ปีกับการแก้ปัญหา IUU Fishing (ตอน 2): ปลดใบเหลืองแล้วไง ประเทศไทยมาถูกทางแล้วหรือไม่!!
  • 6 ปีกับการแก้ IUU Fishing จน “Ship-หาย” (ตอน 3): ข้อเท็จจริงคำวินิจฉัย (ใบเหลือง) ที่รัฐบาลไทยไม่บอกความจริงกับสังคม
  • 6 ปีกับการแก้ IUU Fishing จน “Ship-หาย” (ตอน 4): ก่อน EU จะให้ใบเหลือง ประมงไทยไม่ชอบด้วย กม. จริงหรือ!
  • นอกจากความ “Ship-หาย” ทางเศรษฐกิจแล้ว ผู้ถืออำนาจของประเทศนี้ยัง

    1. เอาเอกราชและอธิปไตยของชาติไปเป็นทาสสหภาพยุโรป ยอมให้เขาก้าวล่วงอำนาจ “บริหาร (จัดการเรื่องประมง) นิติบัญญัติ (ออกกฎหมายประมง) และตุลาการ (พิจารณาคดีประมง)” ของประเทศไทย เสมือนเป็นเมืองขึ้น

    2. ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนสถานะจากการเป็นผู้ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำสุทธิ เป็นประเทศผู้นำเข้าสัตว์น้ำเพื่อการบริโภคปีละหลายแสนตัน

    3. ทำให้กองเรือนอกน่านน้ำไทยนับพันลำต้องสูญพันธุ์ (เหลือเพียง 2 ลำ)

    4. ด้อยค่าเรือ ซึ่งเป็นทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของเรือ ฯลฯ

    จงรู้ไว้เถิดว่า 7 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจและอุตสาหกรรมการประมงของประเทศล่มสลายและยากที่จะฟื้นฟูให้กลับมารุ่งเรือง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้อีกในอนาคตอันใกล้ ตราบใดที่คนที่สร้างความ Ship-หาย เหล่านั้น ยังครองอำนาจรัฐอยู่ต่อไป

    ผมขอ “สาปแช่ง” ครับ