ThaiPublica > สู่อาเซียน > ความสัมพันธ์ของ “ปฏิบัติการ 1027” กับการ “กวาดล้างจีนเทา” ชายแดนรัฐฉาน

ความสัมพันธ์ของ “ปฏิบัติการ 1027” กับการ “กวาดล้างจีนเทา” ชายแดนรัฐฉาน

20 พฤศจิกายน 2023


ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ รายงาน

การส่งมอบ 2 ผู้ต้องหาผู้เบื้องหลังแก๊งฉ้อโกงทางออนไลน์ในเขตปกครองตนเองโกก้าง ให้กับทางการจีน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ โดยสำนักงานตำรวจเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกหมายจับชาวจีนโกก้าง 4 คน ในข้อหาเป็นตัวการ ผู้กระทำ และผู้อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมหลากหลายประเภทที่เกิดขึ้นในพื้นที่พิเศษหมายเลข 1 เขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง ภาคเหนือของรัฐฉาน โดยเฉพาะในเมืองเล่าก์ก่าย เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองโกก้าง อาชญากรรมที่กลุ่มคนเหล่านี้ได้ร่วมกันทำตามที่ระบุไว้ในหมายจับ ประกอบด้วย การฉ้อโกงทางออนไลน์ การลักพาตัว การหลอกลวง หน่วงเหนี่ยวกักขัง ขู่กรรโชกฯลฯ

ผู้ถูกหมายจับทั้ง 4 เป็นคนใน “ตระกูลหมิง”ที่ได้ชื่อว่าเป็นตระกูลผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในเขตปกครองตนเองโกก้าง ได้แก่ Ming Xuechang , Ming Guoping หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Ming Xiaoping , Ming Julan และ Ming Zhenzhen

คนตระกูลหมิง 4 คน ที่ถูกทางการจีนออกหมายจับ ที่มาภาพ : The Global New Light of Myanmar

Ming Xuechang อายุ 69 ปี เป็นนักธุรกิจ อดีตผู้บริหารเขตปกครองตนเองโกก้าง และเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภาเมียนมา จากเขตปกครองตนเองโกก้าง สังกัดพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา(USDP : Union Solidarity and Development Party) ซึ่งเป็นพรรคที่ให้การสนับสนุนกองทัพพม่า

The Irrawaddy ระบุว่า Ming Xuechang เป็นเจ้าของ Crouching Tiger Villa แหล่งรวมที่ตั้งของอาชญากรรมฉ้อโกงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนการพนันออนไลน์ และเป็นสถานที่ซึ่งเพิ่งเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่คนงาน ส่วนใหญ่เป็นคนสัญชาติจีนมากกว่า 60 คน ที่พยายามหนีออกจากพื้นที่ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 โดยในกลุ่มผู้ที่ถูกสังหาร มีตำรวจลับของจีน 4 นาย ที่ได้ปลอมตัวเข้าไปสืบข่าวขององค์กรอาชญากรรมเหล่านี้ รวมถึงมีคนงานสัญชาติไทยอีกจำนวนหนึ่งร่วมอยู่ด้วย

ผู้ถูกออกหมายจับอีก 3 คน คือ Ming Guoping หรือ Ming Xiaoping ลูกชายของ Ming Xuechang เป็นผู้นำกองกำลังทหารอาสาประจำหมู่บ้าน Shiyuanzi ในเขตปกครองตนเองโกก้าง , Ming Julan ลูกสาวของ Ming Xuechang และ Ming Zhenzhen หลานสาวของ Ming Xuechang

ทางการจีนประกาศให้เงินรางวัลจำนวน 1-5 แสนหยวน หรือประมาณ 13,700-68,800 ดอลลาร์สหรัฐ แก่ผู้ที่สามารถให้ข้อมูล เบาะแส หรือบอกแหล่งที่ซ่อนแก่เจ้าหน้าที่ จนสามารถจับกุมกลุ่มคนทั้ง 4 ได้

Ming Guoping หรือ Ming Xiaoping ลูก ชายของ Ming Xuechang

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ศาลสูงสุดของเขตปกครองตนเองโกก้างออกหมายจับบุคคลทั้ง 4 ตามหมายจับของทางการจีน

รุ่งขึ้น วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าและร่วมกับตำรวจโกก้างได้บุกเข้าจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 3 คน ในสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองเล่าก์ก่าย ได้แก่ Ming Xuechang และ Ming Guoping กับ Ming Zhenzhen ลูกชายและหลานสาวของ Ming Xuechang ส่วน Ming Julan ลูกสาวของ Ming Xuechang สามารถหลบหนีไปได้

The Global New Light of Myanmar สื่อของทางการเมียนมา รายงานว่า ระหว่างการบุกเข้าจับกุมบุคคลทั้ง 3 ตามหมายจับ Ming Xuechang ได้ใช้ปืนพกของตนยิงตัวเองหวังฆ่าตัวตาย ตำรวจรีบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำเมืองเล่าก์ก่าย แต่ Ming Xuechang ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

Ming Zhenzhen หลานสาวของ Ming Xuechang

เวลาประมาณ 13.50 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ตำรวจพม่าควบคุมตัว Ming Guoping กับ Ming Zhenzhen ลูกชายและหลานสาวของ Ming Xuechang ซึ่งถูกจับได้ นำส่งให้กับตำรวจฝ่ายปฏิบัติการพิเศษของจีน ที่จุดผ่านแดนหย่านโหล่งเกง ที่เชื่อมเมืองเล่าก์ก่ายกับเขตปกครองตนเองชนชาติไตและว้า กึ่งม้า จังหวัดหลินชาง ของจีน เพื่อนำตัวกลับไปดำเนินคดีและรับโทษในจีน

ส่วนร่างของ Ming Xuechang ยังถูกเก็บไว้อยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากทางการจีนต้องการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมให้ครบถ้วนเสียก่อน…

“ตระกูลหมิง” เป็นตระกูลผู้มีอิทธพลมากที่สุดตระกูลหนึ่งของเขตปกครองตนเองโกก้าง มีรายงานว่า ไม่กี่ปีมานี้ Ming Xuechang ได้ร่วมมือกับกลุ่มอาชญากรชาวจีนที่หนีการจับกุมจากในประเทศจีน หรือพวกจีนเทา มาสร้างเครือข่ายธุรกิจสีเทาในพื้นที่เมืองเล่าก์ก่าย มีทั้งโรงแรม สถานบันเทิง ร้านคาราโอเกะ บ่อนกาสิโน รวมถึงธุรกิจฉ้อโกงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น คอลเซ็นเตอร์ และบ่อนการพนันออนไลน์ จากนั้นขยายธุรกิจต่อไปอีกหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนรัฐฉาน-จีน ตั้งแต่เมืองหมู่เจ้ เมืองชิงส่วยเหอ ลงไปถึงเมืองป๊อกที่อยู่ในพื้นที่พิเศษหมายเลข 2 เขตปกครองตนเองชนชาติว้า

ข่าวการบุกเข้าจับกุม Ming Xuechang , Ming Guoping และ Ming Zhenzhen ในหนังสือพิมพ์ The Global New Light of Myanmar ฉบับวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ระบุว่า Ming Xuechang ยิงตัวเองตายระหว่างการจับกุม

ธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนรัฐฉาน-จีนเหล่านี้ นำไปสู่อาชญากรรมต่อเนื่องอีกหลายประเภท ทั้งเรื่องการค้ามนุษย์ ยาเสพติด ไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย ทรมาน และฆาตกรรม มีการหลอกลวงหญิงสาวหน้าตาดีจากประเทศต่างๆ รวมถึงหญิงไทยหลายร้อยคน ให้ลักลอบเดินทางออกนอกประเทศไปทำงานกับธุรกิจสีเทาในพื้นที่เหล่านี้ โดยใช้ตัวเลขผลตอบแทนสูงมากเป็นสิ่งล่อใจ

ผลประโยชน์จำนวนมหาศาลจากธุรกิจสีเทาที่กระจายอยู่ตามแนวชายแดนรัฐฉาน-จีน ในภาคเหนือของรัฐฉาน ถูกกระจายต่อไปยังผู้นำกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่ม ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นำทหาร ตำรวจพม่า ผู้บริหารเขตปกครองตนเอง และผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน(BGF) ของแต่ละพื้นที่

ปลายปี 2565 ทางการจีนมีนโยบายชัดเจนว่าต้องการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนให้ราบคาบ จึงได้กดดันฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา รวมถึงผู้บริหารของเขตปกครองตนเองหลายแห่ง ให้ปราบปรามธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนรัฐฉาน-จีน อย่างจริงจัง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นมา เริ่มมีการจับกุมอาชญากรชาวจีนนับพันคนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีในจีนหลายระลอก พื้นที่ซึ่งพวกจีนเทาเหล่านี้ถูกจับได้ มีทั้งจากในเมืองป๊อก เขตปกครองตนเองชนชาติว้า เมืองชิงส่วยเหอ เล่าก์ก่าย เขตปกครองตนเองโกก้าง และเมืองหมู่เจ้

การกวาดล้างธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนรัฐฉาน-จีนอย่างเอาจริงเอาจัง เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้กองกำลังติดอาวุธ 3 กลุ่ม ซึ่งรวมตัวกันในนาม “พันธมิตรภาคเหนือ” นำโดย กองทัพโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army : MNDAA) , กองทัพตะอั้ง(Ta’ang National Liberation Army : TNLA) และกองทัพอาระกัน(Arakan Army : AA) ซึ่งมีกำลังพลรวมประมาณ 15,000 นาย ต้องเปิดปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า “ปฏิบัติการ 1027” ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 โดยบุกโจมตีฐานที่มั่นของทหาร ตำรวจพม่า และกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หลายจุด หลายเมืองในภาคเหนือของรัฐฉาน ได้แก่ เมืองชิงส่วยเหอ เล่าก์ก่าย หมู่เจ้ ป่างซาย เมืองโก แสนหวี ล่าเสี้ยว จ๊อกแม และหนองเขียว รวมถึงตัดการคมนาคมบนทางหลวงหมายเลข 3 และ 34 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าที่จีนและเมียนมาซื้อขายกันผ่านด่านชายแดนหมู่เจ้และชิงส่วยเหอ จนกลายเป็นสงครามยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้

  • “ปฏิบัติการ 1027” เขย่า “ระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา!”
  • พันธมิตรภาคเหนืออ้างเหตุผลที่ต้องมีปฏิบัติการ 1027 ว่า เพื่อจัดการกับธุรกิจผิดกฏหมาย อาชญากรรมที่กระจายตัวอยู่ในหลายเมืองตลอดแนวชายแดนรัฐฉาน-จีน ซึ่งมีนายทหารระดับสูงของกองทัพพม่าหลายคน ได้รับผลประโยชน์ร่วมอยู่ด้วย จนทำให้กองทัพพม่าไม่สามารถจัดการกับธุรกิจผิดกฏหมายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    อย่างไรก็ตาม แม้เหตุผลที่พันธมิตรภาคเหนือนำมาอ้าง เป็นเรื่องความต้องการกวาดล้างธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนรัฐฉานเหมือนกัน แต่มุมมองของพันธมิตรภาคเหนือ เป็นในทิศทางตรงข้ามกับของกองทัพพม่า?

    สภาความมั่นคงแห่งชาติเมียนมา หรือก่าโหล่ง เรียกประชุมด่วนเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 เพื่อพิจารณาสถานการณ์ในภาคเหนือของรัฐฉาน จากปฏิบัติการ 1027 ที่มาภาพ : Popular News Journal

    บ่ายวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2566 วันหลังเริ่มมีปฏิบัติการ 1027 ไปแล้ว 10 วัน สภาความมั่นคงแห่งชาติเมียนมา หรือ”ก่าโหล่ง” ได้จัดประชุมครั้งที่ 3/2023 ขึ้นที่สำนักงานประธานสภาบริหารแห่งรัฐ(SAC) ในกรุงเนปิดอ เป็นการเรียกประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อพิจารณาสถานการณ์สู้รบรุนแรงซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในภาคเหนือของรัฐฉาน

    ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย อู มิ่นส่วย รักษาการประธานาธิบดี , อู เฮนรี่ วาน เทียว รองประธานาธิบดี , อู ตี่ขุ่นเมียต ประธานสภาผู้แทนราษฎร(Pyithu Hluttaw) , พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ในฐานะผู้บัญชาการทหารสุงสุด กองทัพพม่า , พล.อ.อาวุโส โซวิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด , พล.ร.อ.ติ่นอ่องซาน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม , พล.ท.หย่าปญิ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย , อู ตานส่วย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ , พล.ท.ทูนทูนหน่อง รัฐมนตรีกระทรวงกิจการชายแดน

    นอกจากนี้ ยังมีผู้รับเชิญพิเศษให้เข้าร่วมประชุมอีก 3 คน ได้แก่ พล.ท.อ่องลินดวย เลขานุการสภาบริหารแห่งรัฐ(SAC) พล.ท.แยวินอู เลขานุการร่วม สภาบริหารแห่งรัฐ และ อู มิ่นส่วย ประธานเขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง

    ในที่ประชุม พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้อธิบายที่มาของสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของรัฐฉานที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 อย่างละเอียด โดยได้ท้าวความย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 14 ปีก่อน ตั้งแต่ครั้งที่มีสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพโกก้างเมื่อเดือนสิงหาคม 2552

    พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย บอกว่า สงครามครั้งนั้น เป็นปฏิบัติการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดและทลายโรงงานผลิตอาวุธที่ตั้งอยู่ในเมืองเล่าก์ก่าย ซึ่งดำเนินการโดย เผิง จาเซิง อดีตประธานเขตปกครองตนเองโกก้าง และผู้บัญชาการกองทัพโกก้าง ในขณะนั้น โดย พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ที่ในตอนนั้นยังครองยศพลโทเป็นผู้นำปฏิบัติการด้วยตัวเอง

    พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย บอกว่า ช่วงนั้น หลายพื้นที่ในเขตปกครองตนเองโกก้างเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา กองทัพพม่าสามารถจับกุมขบวนการค้าและขนส่งยาเสพติดได้ถึง 82 ครั้ง เป็นการจับกุมและยึดของกลางล๊อตใหญ่ได้ถึง 18 กรณี รวมมูลค่ายาเสพติดที่จับกุมได้สูงถึง 17.59 พันล้านจั๊ต มีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 140 คน

    ผลของสงครามในเดือนสิงหาคม 2552 กองทัพพม่าได้รับชัยชนะ สามารถกวาดล้างการค้ายาเสพติดและการผลิตอาวุธในเขตปกครองตนเองโกก้างลงไปได้ และยังสามารถผลักดันให้เผิง จาเซิงและพวก ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ส่วนกองทัพโกก้างต้องถอนกำลังออกจากเมืองเล่าก์ก่ายขึ้นไปสร้างฐานที่มั่นอยู่ในเมืองโก ชายแดนรัฐฉาน-จีน ในจังหวัดหมู่เจ้ โดย มีเผิง ต้าซุน ลูกชายของเผิง จาเซิง ขึ้นเป็นผู้บัญชาการแทน แต่เผิง ต้าซุน ยังคงเดินหน้าผลิตยาเสพติด และนำรายได้จากการค้ายาเสพติดมาสร้างความแข็งแกร่งแก่กองทัพของพวกเขา

    หลังจากถูกกวาดล้างครั้งใหญ่ไปแล้ว แต่กลุ่มของเผิง จาเซิง และกองทัพโกก้าง ยังต้องการกลับมามีอำนาจในเมืองเล่าก์ก่าย และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กลับมาบริหารเขตปกครองตนเองโกก้างอยู่ตลอดเวลา(เผิง จาเซิง เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ปัจจุบัน เผิง ต้าซุน ลูกชายของเขา ได้ขึ้นเป็นผู้นำกองทัพโกก้างต่ออย่างเป็นทางการ)

    พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย เล่าว่า หลังปี 2560 การค้ายาเสพติดกลับมาคึกคักในเขตปกครองตนเองโกก้างอีกครั้ง ตามมาด้วยกลุ่มอาชญากรชาวจีนที่เคลื่อนย้ายเงินลงทุน ข้ามมาทำธุรกิจผิดกฏหมายหลากหลายประเภทในเมืองเล่าก์ก่าย โดยเฉพาะบ่อนคาสิโน ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา มีการก่อสร้างอาคารสูง 12-13 ชั้นขึ้นหลายแห่ง และเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 บ่อนคาสิโนในเขตปกครองตนเองโกก้างได้แปรสภาพเป็นบ่อนการพนันออนไลน์

    พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพพม่า ชี้แจงรายละเอียดต้นตอของปฏิบัติการ 1027 ที่มาภาพ : Popular News Journal

    ปี 2565 อาชญากรรมฉ้อโกงผ่านทางออนไลน์ “บูม” มากในเขตปกครองตนเองโกก้าง ผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจสีเทาเหล่านี้ คือบรรดาเจ้าของโรงแรมที่เปิดอยู่หลายแห่งในหลายพื้นที่ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ให้ข้อมูลว่า ในเมืองเล่าก์ก่ายกับชิงส่วยเหอ มีโรงแรมเปิดใหม่ถึง 153 แห่ง ในนี้มีเพียง 12 โรงแรมที่สร้างโดยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการลงทุนเมียนมา(MIC : Myanmar Investment Commission) ที่เหลืออีก 141 แห่ง สร้างโดยได้ไฟเขียวจากคณะกรรมการบริหารเมืองเล่าก์ก่าย ไม่ผ่านการพิจารณาจากส่วนกลาง เจ้าของโรงแรมเกือบทุกแห่ง เป็นนักลงทุนจีน

    พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย บอกว่า รัฐบาลจีนและเมียนมาได้ตกลงจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ที่อยู่ตามแนวชายแดนรัฐฉาน-จีน ช่วงเวลา 1 ปีมานี้ มีการบุกจับแก๊งฉ้อโกงทางออนไลน์ที่เปิดอยู่ตามโรงแรมในเมืองเล่าก์ก่ายและชิงส่วยเหอหลายครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ถึง 7,789 คน ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ในนี้มีถึง 7,395 คน ที่เป็นชาวจีน ที่เหลือเป็นคนไทย 162 คน มาเลเซีย 32 คน เวียดนาม 18 คน อีก 2 คนเป็นชาวลาว ผู้ต้องหาชาวจีน 6,892 คน ได้ถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีและรับโทษในจีนแล้ว

    การกวาดล้างอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ตามแนวชายแดนรัฐฉาน-จีนอย่างจริงจัง กดดันให้พันธมิตรภาคเหนือ นำโดยกองทัพโกก้าง ต้องวางแผนเปิดปฏิบัติการ 1027 ขึ้นเพื่อตอบโต้ โดยมีเป้าหมายโจมตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจร่วมของจีนกับเมียนมา ได้แก่ ด่านการค้าชายแดนในเมืองหมู่เจ้และชิงส่วยเหอ ตลอดจนพื้นที่ตามแนวทางหลวงหมายเลข 3 และ 34 หวังสร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเมียนมา(อ่านคำชี้แจงโดยละเอียด ของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย)

    ……

    สถานการณ์ในภาคเหนือของรัฐฉานขณะนี้ยังไม่สงบ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 กองทัพพม่าได้ประกาศใช้กฏอัยการศึกใน 8 เมือง ในภาคเหนือของรัฐฉาน ได้แก่ หมู่เจ้ น้ำคำ ก๊ตขาย โกงจาน เล่าก์ก่าย กุ๋นโหลง ล่าเสี้ยว และแสนหวี ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียใดๆกับความขัดแย้งครั้งนี้ เกิดความหวาดกลัว พากันหาทางหลบหนีออกจากเมืองเพราะเกรงว่ากองทัพพม่าจะใช้อาวุธหนักยิงถล่มเข้ามาในตัวเมือง

    วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ในรายงานข่าวการส่งตัวคนในตระกูลหมิง 2 คน ที่เป็นผู้ต้องหาสำคัญในอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ในเขตปกครองตนเองโกก้างให้กับตำรวจจีน ที่ สำนักข่าว Tai TV Online สำนักข่าวภาษาไทใหญ่นำเสนอ เนื้อความในช่วงสุดท้ายของข่าว Tai TV Online เขียนไว้ว่า

    พันธมิตรภาคเหนืออ้างเหตุผลว่าต้องการกวาดล้างอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ตามชายแดน ทำให้ต้องบุกยึดพื้นที่สำคัญหลายแห่งในภาคเหนือของรัฐฉานไว้ ถึงตอนนี้ ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคนสำคัญที่สุดที่อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมเหล่านี้ได้ และส่งตัวให้กับทางการจีนไปแล้ว

    จากนี้ไป คงต้องเฝ้าติดตามดูว่า สถานการณ์สู้รบในภาคเหนือของรัฐฉานจะสงบลงหรือไม่…