ThaiPublica > คนในข่าว > “ธาร์มาน ชานมุการัตนัม” ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 9 ของสิงคโปร์

“ธาร์มาน ชานมุการัตนัม” ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 9 ของสิงคโปร์

2 กันยายน 2023


ที่มาภาพ: https://www.straitstimes.com/singapore/politics/landslide-704-per-cent-victory-for-president-elect-tharman

ธาร์มาน ชานมูการัตนัม อดีตรัฐมนตรีอาวุโส คว้าชัยชนะอย่างทิ้งห่าง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในรอบ 12 ปีโดยได้รับคะแนนเสียง 70.4% ในการลงคะแนนเสียงเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ย.) ส่งผลให้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 9 ของสิงคโปร์

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในรอบ 12 ปีเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ย.) ธาร์มาน ชานมูการัตนัม อดีตรัฐมนตรีอาวุโส คว้าชัยชนะอย่างทิ้งห่างโดยได้รับคะแนนเสียง 70.4% ส่งผลให้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 9 ของสิงคโปร์

อึ้ง ก๊ก ซ่งอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ GIC(Government of Singapore Investment Corporation กองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลสิงคโปร์) ตามมาในอันดับที่ 2 ด้วยคะแนนเสียง 15.72% ขณะที่ตัน คิน เหลียน อดีตหัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ NTUC Income(สหกรณ์ประกันภัยยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลสิงคโปร์) ได้รับคะแนนเสียง 13.88%

ชาวสิงคโปร์มากกว่า 2.5 ล้านคนออกไปลงคะแนนเสียงเมื่อวันศุกร์ที่หน่วยเลือกตั้ง 1,264 แห่งทั่วประเทศ โดยมีผู้ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครทั้งสิ้น 2,480,760 เสียง ขณะที่มีผู้ลงคะแนน 50,152 เสียงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกเสียง คิดเป็น 1.98% ของคะแนนเสียงทั้งหมด ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งมีมากกว่า 93%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ชาวสิงคโปร์จำนวนมากตัดสินใจที่จะไปใช้สิทธิในวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดยาวตั้งแต่เช้าๆ โดยมีคิวยาวที่หน่วยเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 8.00 น. เนื่องจากบางคนประสบปัญหากับระบบลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีหลายหน่วยเลือกตั้งที่มีคิวประมาณ 200 คน ในช่วงหนึ่ง

การนับคะแนนเริ่มขึ้นหลังจากหน่วยเลือกตั้งปิดทำการเวลา 20.00 น. การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่ปี 2011 และเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 3 ของสิงคโปร์นับตั้งแต่พระราชบัญญัติปี 1991 ให้สิทธิประชาชนในการเลือก และนายธาร์มานจะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 9 ของประเทศ

ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ นายธาร์มานกล่าวว่า เขา ขอน้อมรับด้วยใจจริงต่อการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากชาวสิงคโปร์

“ผมเชื่อว่าการโหวตให้ผม และสิ่งที่ผมยืนหยัด คือ การโหวตด้วยความมั่นใจในสิงคโปร์” นายธาร์มานกล่าว “เป็นการลงคะแนนเสียงในทางบวกต่ออนาคตที่เราสามารถก้าวหน้าร่วมกันและสนับสนุนซึ่งกันและกันในฐานะชาวสิงคโปร์”

นอกจากนี้เขายังขอบคุณผู้สมัครลงเลือกตั้งที่ทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นการแข่งขันที่คู่ควร

นายธาร์มานพูดถึงอนาคตที่เขาวาดฝันไว้สำหรับสิงคโปร์ ว่าเป็นประเทศที่ผู้คนเคารพซึ่งกันและกันอย่างมาก และเป็นที่ซึ่งคนทุกรุ่นมั่นใจได้จากการรู้ว่าสิงคโปร์มีทุนสำรองที่จะช่วยเหลือผู้คนในอนาคต

“จะต้องเป็นอนาคตที่สิงคโปร์จะไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นประเทศเล็กๆ อีกประเทศหนึ่ง อนาคตที่เรามีความสำคัญต่อโลกนี้อย่างจริงจัง เราเป็นพันธมิตรที่ต้องเลือก และที่ซึ่งเราสามารถให้เหตุผลของเราในระดับสากล”

  • จับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสิงคโปร์
  • ในช่วงเวลา 22.00 น.ของคืนวันที่ 1 กันยายนในเขตจูร่ง ซึ่งเขาเป็นส.ส.ในเขตนี้มาเป็นเวลา 22 ปี นายธาร์มานเดินฝ่าผู้คนที่สนับสนุนอย่างคึกคักและมือถือสับปะรดไปอยู่ตรงกลาง

    ผู้คนพากันตะโกนว่า อ่องหลาย ong lai ในภาษาฮกเกี้ยน คือ สัปปะรด หมายถึง วาสนา บารมี โชคลาภ และคำว่า ฮวด อา huat ah รุ่งเรือง รุ่งเรือง ซึ่งสอดคล้องกับการหาเสียงของเขาที่ใช้สัปปะรดเป็นสัญญลักษณ์

    ที่มาภาพ: https://www.straitstimes.com/singapore/politics/landslide-704-per-cent-victory-for-president-elect-tharman

    ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่หลังการประกาศผลอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง กล่าวว่า เขาได้โทรหาธาร์มานเพื่อแสดงความยินดี และให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

    นายธาร์มานยังได้ประกาศถึงความตั้งใจที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล นายกรัฐมนตรีลี กล่าว

    นายกรัฐมนตรีลี กล่าวถึงประวัติการทำงานด้านบริการสาธารณะที่โดดเด่นและยาวนานของธาร์มานว่า เขามั่นใจทุกประการว่านายธาร์มานจะปฏิบัติหน้าที่ของในฐานะประธานาธิบดีด้วยความโดดเด่น

    “ชาวสิงคโปร์ได้เลือกนายธาร์มาน ชานมูการัตนัม ให้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของเราด้วยคะแนนเสียงที่ขาดลอย… ผมขอขอบคุณผู้สมัครทั้ง 3 คนที่ก้าวออกมาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้”

    นายกรัฐมนตรีลีกล่าวว่า เขาพอใจกับการที่ชาวสิงคโปร์สามารถใช้สิทธิลงคะแนนเสียงให้กับประธานาธิบดีคนใหม่ได้ และให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี

    “ตอนนี้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว เราก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในฐานะชาวสิงคโปร์ เพื่อรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า และสร้างประเทศที่แข็งแกร่งและเป็นเอกภาพมากขึ้น” นายกรัฐมนตรีลี กล่าว

    นายธาร์มาน ในวัย 66 ปี จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 14 กันยายน

    รองศาสตราจารย์ยูจีน ตัน จาก School of Law แห่ง Singapore Management University กล่าวว่า จากจำนวนผู้ที่มาลงคะแนนเสียงแสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองข้ามความแตกต่างทางการเมือง จึงลงคะแนนให้นายธาร์มานในการเลือกตั้งเมื่อวันศุกร์

    “เรามองว่า กว่า 2 ใน 3 ของชาวสิงคโปร์โหวตให้ธาร์มาน ซึ่งหมายความว่าเขาได้รับคะแนนเสียงจากผู้คนที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ต่างกัน แม้การเลือกตั้งนี้จะไม่ใช่การแข่งขันทางการเมืองก็ตาม ที่สำคัญกว่านั้นคือนี่คือความสามัคคีของชาวสิงคโปร์จริงๆ” รองศาสตราจารย์ตันกล่าวในรายการพิเศษการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทางสถานีโทรทัศน์ CNA

    รองศาสตราจารย์ ตัน กล่าวว่า มีการมองกันว่า นายธาร์มานเป็นบุคคลที่สามารถ จัดการกับความแตกแยกทางการเมือง ได้

    “แม้จะอยู่ในพรรครัฐบาล (ประมาณ 20 ปี) นายธาร์มานก็สามารถที่ให้ความเห็นที่บางครั้งอาจไม่สอดคล้องกับพรรครัฐบาลโดยสิ้นเชิง”

    “ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าชาวสิงคโปร์ยอมรับผลงานของเขา เขาเป็นหนึ่งใน (ไม่กี่คน) ที่สามารถก้าวข้ามความแตกแยกทางการเมือง และได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่มีจุดยืนด้านทางการเมืองต่างกัน”

    ในเวทีโลก ทั้งชัยชนะอย่างถล่มทลายและประสบการณ์ระดับนานาชาติของนายธาร์มาน จะช่วยให้เขาชูสิงคโปร์ให้สูงขึ้นได้” รองศาสตราจารย์ ตัน กล่าว

    “ผู้นำโลกจะยกย่องนายธาร์มานในฐานะผู้นำที่ได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่” รองศาสตราจารย์ ตัน กล่าว “เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ และความเห็นของเขาก็ได้รับการยกย่องและมีการรับฟังอย่างดี ดังนั้นเมื่อเขาเป็นตัวแทนของสิงคโปร์ในการประชุมระดับโลกในฐานะหัวหน้านักการทูตของเรา เสียงของสิงคโปร์ก็จะถูกตอกย้ำอย่างเด่นชัด”

    ที่มาภาพ: https://www.straitstimes.com/singapore/politics/landslide-704-per-cent-victory-for-president-elect-tharman

    นักวิเคราะห์กล่าวว่าชัยชนะอย่างถล่มทลายของนายธาร์มาน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโดยทั่วไปแล้วชาวสิงคโปร์ยังคงไว้วางใจพรรค People’s Action Party (PAP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

    “มันแสดงให้เห็นว่า PAP ยังคงเป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ตราบใดที่ผู้สมัครที่ถูกนำเสนอนั้นมีความน่าเชื่อถือ นายธาร์มานมีความน่าเชื่อถือเท่าที่ควร” วาลิด จุมบลัต อับดุลลาห์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง(Nanyang Technological University)กล่าว

    นายธาร์มานเป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยม โดยได้รับชัยชนะหลายครั้งในการเลือกตั้งรัฐสภา รวมถึงได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2020 ในฐานะสมาชิกพรรค PAP

    นายธาร์มานลาออกจากพรรคเมื่อต้นปีนี้ และเน้นย้ำถึงความเป็นอิสระในระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

    บทบาทของประธานาธิบดีส่วนใหญ่เป็นในด้านพิธีการในสิงคโปร์ แม้ถูกคาดหวังว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลรัฐบาลก็ตาม

    ประธานาธิบดีมีบทบาทสำคัญในทุนสำรองขนาดใหญ่แต่ไม่เปิดเผยของประเทศ โดยมีอำนาจยับยั้งงบประมาณหรือธุรกรรมเฉพาะใดๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะดึงเอาทุนสำรองเหล่านั้นไปใช้ แม้จะต้องหารือกับสภาที่ปรึกษาประธานาธิบดีก็ตาม

    ประธานาธิบดียังสามารถยับยั้งการแต่งตั้งหรือการถอดถอนเจ้าหน้าที่ของรัฐคนสำคัญได้ และสั่งให้สำนักงานต่อต้านการรับสินบนสอบสวนคดีต่างๆ แม้นายกรัฐมนตรีจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

    ที่มาภาพ:https://www.straitstimes.com/singapore/politics/landslide-704-per-cent-victory-for-president-elect-tharman

    นายธาร์มานเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสิงคโปร์และที่อื่นๆ เนื่องจากเขามีส่วนร่วมในงานด้านการบริการสาธารณะมาอย่างยาวนาน

  • ชีวิตส่วนตัว
  • นายธาร์มานแต่งงานกับ Jane Yumiko Ittogi ซึ่งมีเชื้อสายจีน-ญี่ปุ่น พวกเขามีลูกสาวหนึ่งคนและลูกชายสามคน

  • การศึกษา
  • นายธาร์มานเข้าเรียนที่โรงเรียนแองโกล-จีน(Anglo-Chinese School) จากนั้นสำเร็จการศึกษาจาก London School of Economics (LSE) ด้วยปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์ ต่อมา LSE ได้มอบตำแหน่งกิตติมศักดิ์ทางวิชาการในปี 2011

    หลังจากนั้น เขาได้รับปริญญาโทสาขาปรัชญาสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์จาก Kennedy School of Government แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเขาได้รับรางวัล Lucius N Littauer Fellow ด้วยผลงานที่โดดเด่นและศักยภาพในการเป็นผู้นำ

  • เข้าสู่การเมือง
  • นายธาร์มานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ด้วยพื้นฐานทางวิชาชีพ ได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2001 ในเขตเลือกตั้ง Jurong GRC หลังจากที่ทีม PAP ได้รับคะแนนเสียง 79.75% ตั้งแต่นั้นมา เขาได้รับการเลือกตั้งใหม่ 4 ครั้ง นายธาร์มานเป็นตัวแทนในเขต Taman Jurong

  • เส้นทางอาชีพทางการเมือง
  • นายธาร์มานดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอาวุโสตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 หลังจากดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาหลายปี ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีเขายังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานนโยบายสังคม และเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ

    นอกจากนี้เขายังเป็นประธานของ Monetary Authority of Singapore และรองประธาน Government of Singapore Investment Corporation ซึ่งยังทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการกลยุทธ์การลงทุนอีกด้วย

    นายธาร์มานยังดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาระหว่างประเทศของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ(Economic Development Board’s International Advisory Council)มาตั้งแต่ปี 2014

    นายธาร์มานทำงานด้านบริการสาธารณะ โดยเน้นบทบาทที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก

    นอกจากดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี (2011-2019) แล้ว เขายังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประสานงานด้านนโยบายเศรษฐกิจและสังคม (2011-2015) นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นเวลาเก้าปี (2007-2015) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นเวลา 5 ปี (2003-2008)

  • ผลงานด้านการบริการสาธารณะ
  • ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นายธาร์มานได้นำเสนอการปฏิรูปการศึกษาที่สำคัญโดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีระบบคุณธรรมที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นมากขึ้น

    นายธาร์มานดูแลการลงทุนใน KidSTART รวมทั้งการขยายและการยกระดับการศึกษาก่อนวัยเรียน และต่อมาได้เป็นผู้นำโครงการ SkillsFuture ซึ่งเปิดตัวในปี 2014 เพื่อช่วยในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการยกระดับทักษะของชาวสิงคโปร์

    ในช่วงวิกฤติโควิด-19 นายธาร์มานเป็นประธานสภาภารกิจแห่งชาติ(National Jobs Council) ซึ่งดูแลการดำเนินการในการสนับสนุนและสร้างงานใหม่ให้กับชาวสิงคโปร์

    นอกจากนี้ยังดูแลการเพิ่มรายได้ของคนงานที่มีค่าแรงต่ำ ผ่านโมเดลค่าจ้างแบบก้าวหน้า ตลอดจนการยกระดับสถานะของนักสังคมสงเคราะห์และขีดความสามารถของสำนักงานบริการสังคม

  • บทบาทอื่นๆ
  • นอกเหนือจากบทบาทในรัฐบาลแล้ว นายธาร์มานยังเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ Singapore Indian Development Association ซึ่งมุ่งมั่นที่จะยกระดับการศึกษาและความยืดหยุ่นทางสังคมในชุมชนชาวอินเดียสิงคโปร์

    นายธาร์มานเป็นผู้นำสภาระหว่างประเทศหลายแห่ง โดยเฉพาะในด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งรวมถึงการเป็นประธานกลุ่ม Group of Thirty (G30) ซึ่งเป็นสภาผู้นำทางเศรษฐกิจและการเงินระดับโลกที่เป็นอิสระจากภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2022 และเป็นประธานเอเชียคนแรกของคณะกรรมการการเงินและการเงินระหว่างประเทศ(International Monetary and Financial Committee) ตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2014

    ปัจจุบันเขาอยู่ในกลุ่มที่ปรึกษาภายนอก ของกรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(International Monetary Fund) และคณะกรรมการมูลนิธิของ World Economic Forum