ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ รายงาน

“การท่องเที่ยว” ดูเป็นสูตรสำเร็จสำหรับการแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของหลายประเทศ โดยเฉพาะเหล่าประเทศภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยความหลากหลายของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
ล่าสุด สปป.ลาว ที่ต้องเผชิญกับวิกฤติการเงินมาหลายเดือน จากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ค่าเงินกีบที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรง ก็เลือกแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการเปิดประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และจาก “ประเทศเพื่อนบ้าน”
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ลาวใช้ “ความใหม่” ของรถไฟลาว-จีน การอ่อนค่าของเงินกีบ วัฒนธรรม-ประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองมรดกโลก “หลวงพระบาง” เป็นแม่เหล็กดึงดูดชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ “คนไทย”
ภาพความคึกคักของนักท่องเที่ยวที่เดินจับจ่ายเต็มพื้นที่ถนนกลางเมืองในงานตลาดนัด “โละลาด” ภาพกองเชียร์ในการแข่งขันเจ็ตสกี และเรือยาว เต็ม 2 ฝั่งแม่น้ำโขงกับแม่น้ำคาน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งบอกได้ว่า การเลือกแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวของลาวได้ผลตอบรับกลับมา “ดี” พอสมควร
……
ลาวกลับมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายน 2565 หลังต้องปิดยาวมากว่า 2 ปี จากการระบาดของโควิด-19
วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ห้องว่าการแขวงหลวงพระบาง มีหนังสือแจ้งการเลขที่ 563/หวข.หลบ. แจ้งมติที่ประชุมคณะประจำพรรคประชาชนปฏิวัติลาวแขวงหลวงพระบาง ประจำเดือน 5/2022 เรื่องการจัดงานบุญประเพณีห่อข้าวประดับดิน และการแข่งเรือยาวเดือน 9 มีรายละเอียดดังนี้
1. เห็นชอบให้เตรียมจัดงานบุญห่อข้าวประดับดินตามประเพณี และกิจกรรมประกอบในงานบุญนี้อย่างเต็มรูปแบบ เหมือนที่เคยจัดมาก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19
2. เห็นชอบให้มีการจัดงานตลาดนัด “โละลาด” บนถนนใจกลางเมือง
3. เห็นชอบให้มีการจัดแข่งขันเรือยาวในแม่น้ำคาน
4. โฆษณา ประชาสัมพันธ์ให้แขกทั้งภายในและต่างประเทศรับรู้ เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว สร้างรายรับให้แก่ประชาชน
5. การจัดงานบุญดังกล่าว ต้องรับประกันความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ความสงบ และความปลอดภัยภายในสังคม
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2565 เพจ “นครหลวงพระบาง” เสนอภาพการตักบาตรข้าวเหนียว ประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของหลวงพระบาง ซึ่งเพิ่งเริ่มกลับมาจัดใหม่อีกครั้ง หลังต้องหยุดไปนานในช่วงปิดประเทศ

คำบรรยายเขียนเนื้อหาไว้น่าสนใจว่า…
…บรรยากาศตอนเช้าวันที่ 25/06/2022 ตามเส้นทางหลวงหน้าวัดสีบุนเรือง วัดสีมงคล วัดสิบ วัดแสน โรงเรียนหลวง มีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยมาใส่บาตรพระสงฆ์ สามเณร เป็นจำนวนมาก หลังจากลาวเราเปิดประเทศ แขวงหลวงพระบางก็เริ่มมีแขก โดยเฉพาะแขกจากพี่น้องเมืองไทย เดินทางมาโดยรถไฟลาว-จีน จากนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่ง 40-50% เป็นผู้โดยสารจากประเทศไทย ทำให้หลวงพระบางมีความครึกครื้น รวมถึงเมืองวังเวียง หนองเขียว เมืองงอบ ก็ครึกครื้นขึ้นกว่าเดิม
แต่คนเมืองหลวงพระบางเรา ก็ต้องเป็นเจ้าภาพในการปกปักรักษาฮีตคองประเพณี แนะนำแขก นักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามฮีตคองประเพณีของลาวเรา เช่น เวลาใส่บาตร ห้ามสวมรองเท้า ห้ามถืออาวุธ ถอดหมวก และสำรวม ผู้หญิงต้องนั่งพื้น หรือม้านั่งต่ำๆ นุ่งซิ่นหรือกระโปรงยาว (แต่งกายสุภาพ ไม่เซ็กซี่เกินควร) ใส่ผ้าเบี่ยงขวา…เพราะนักท่องเที่ยวบางคนก็ไม่รู้จักฮีตคองของบ้านเรา ดังนั้น พวกเราจึงต้องเป็นเจ้าภาพ บอกแขกทั้งหลายให้รู้จัก จึงจะทำให้วิถีชีวิตของบ้านเมืองเรายั่งยืนนานตลอดไป…
หลังลาวเปิดประเทศ ภาพความคึกคักที่มองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม คือจำนวนผู้โดยสารรถไฟลาว-จีนที่เพิ่มสูงขึ้น
วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 บริษัทรถไฟลาว-จีน ประกาศเพิ่มเที่ยวรถที่วิ่งให้บริการระหว่างสถานีนครหลวงเวียงจันทน์-หลวงพระบาง ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 อีกวันละ 1 เที่ยว (ไป-กลับ) ระบุว่า…
…บริษัทรถไฟลาว-จีน คำนึงถึงความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร เพื่อให้มีรถไฟเพียงพอในการขนส่งผู้โดยสารภายใน และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวลาว ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 พวกเราจึงได้เปิดให้บริการรถไฟขนส่งผู้โดยสาร EMU ขบวนที่ C92/1 โดย
รถไฟ EMU ขบวน C92 ออกจากสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 08.30 น. ถึงสถานีหลวงพระบาง เวลา 10.20 น.
รถไฟ EMU ขบวน C91 ออกจากสถานีหลวงพระบาง เวลา 10.50 น. ถึงสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 13.05 น….
ตามปกติ การเดินทางโดยรถไฟจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังหลวงพระบาง มีรถไฟ EMU ขบวนที่ C84/3 วิ่งให้บริการอยู่แล้ว วันละ 1 เที่ยว โดยขบวนที่ C84 ออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 15.05 น. ถึงหลวงพระบาง เวลา 17.10 น. และขบวนที่ C83 ออกจากหลวงพระบาง เวลา 18.20 น. ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 20.13 น.
นอกจากนี้ ยังมีรถไฟ EMU ขบวนที่ C82/1 วิ่งระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น โดยแวะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีหลวงพระบางด้วย อีกวันละ 1 เที่ยว โดยขบวนที่ C82 ออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 07.30 น. ถึงหลวงพระบาง เวลา 09.23 น. และเที่ยวกลับ ขบวนที่ 81 ออกจากบ่อเต็น เวลา 12.15 น. แวะรับ-ส่งผู้โดยสารที่หลวงพระบาง เวลา 13.45 น. ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 15.45 น.
รวมถึงมีรถไฟธรรมดา ขบวนที่ K12/11 วิ่งระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น อีกวันละ 1 เที่ยว โดยขบวนนที่ K12 ออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 08.00 น. ถึงหลวงพระบาง เวลา 10.43 น. และเที่ยวกลับ ขบวนที่ K11 ออกจากบ่อเต็น เวลา 14.00 น. แวะรับ-ส่งผู้โดยสารที่หลวงพระบาง เวลา 15.10 น. ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เวลา 19.10 น.
ก่อนหน้านั้น บริษัทรถไฟลาว-จีน เคยต้องเพิ่มขบวนรถในเส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์-หลวงพระบาง มาแล้วครั้งหนึ่ง ในช่วงบุญปีใหม่ลาวหรือเทศกาลสงกรานต์ ที่เพิ่งอนุญาตให้มีการเล่นน้ำกันได้ใหม่อีกครั้งในปีนี้
ผู้ที่นั่งรถไฟไปเที่ยวหลวงพระบางช่วงสงกรานต์ ส่วนใหญ่เป็นคนลาว กับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในลาวอยู่แล้วอีกส่วนหนึ่ง เพราะในตอนนั้นลาวยังไม่เปิดประเทศ
การเพิ่มขบวนรถช่วงวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 จึงเป็นการเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางของผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะ ตามแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลลาว
หลังจากวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 บริษัทรถไฟลาว-จีน ยังมีการเพิ่มเที่ยวรถเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางในเส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์-หลวงพระบางที่สูงขึ้นอีก 3 ครั้ง ได้แก่
การเพิ่มเที่ยวรถในเส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์-หลวงพระบางข้างต้น สะท้อนชัดเจนว่านักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่อยากนั่งรถไฟไปเที่ยวหลวงพระบาง มาจากประเทศใด
……
เช้าวันที่ 25 สิงหาคม 2565 สมสะหวาด เล่งสะหวัด ที่ปรึกษาคณะบริหารศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว อดีตรองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นประธานเปิดงานตลาดนัด “โละลาด” เนื่องในเทศกาลบุญห่อข้าวประดับดิน และการแข่งเรือยาวเดือน 9 ประจำปี 2565
“โละลาด” เป็นตลาดนัดมวลชนที่เคยถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันแรม 13 ค่ำ เดือน 9 ก่อนวันทำบุญห่อข้าวประดับดิน 1 วัน โดยมีพ่อค้าแม่ค้านำผลิตภัณฑ์ของตนมาวางจำหน่ายตลอดแนว 2 ฟากถนนสีสะหว่างวง หรือถนนกลางเมือง ตั้งแต่สามแยกบ้านจู้มค้องถึงสามแยกแผนกโยธาธิการและขนส่งแขวง
ตลาดนัดโละลาดถูกงดจัดตั้งแต่ปี 2563 หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อกลับมาจัดอีกครั้งหลังหยุดไป 2 ปี จึงมีนักท่องเที่ยวมาเดินจับจ่าย หาซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก…
อีกกิจกรรมหนึ่งที่ถูกเสริมเข้ามาในช่วงบุญห่อข้าวประดับดินที่เมืองหลวงพระบางปีนี้ คือการแข่งขันเจ็ตสกี ในแม่น้ำโขง ซึ่งจัดขึ้นที่ ดอนทรายมงคล ฝั่งบ้านเชียงแมน เมืองจอมเพ็ด ตรงข้ามกับตัวเมืองหลวงพระบาง ในวันที่ 25 สิงหาคม 2565 วันเดียวกับการจัดตลาดนัดโละลาด
สมสะหวาด เล่งสะหวัด อดีตรองนายกรัฐมนตรี หลังจากได้เป็นประธานตีฆ้องเปิดตลาดนัดโละลาดแล้ว ก็ได้เดินทางไปชมการแข่งขันเจ็ตสกี ร่วมกับคำขัน จันทะวิสุก เจ้าแขวงหลวงพระบาง ด้วย

มีเจ็ตสกีเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ 10 ลำ แบ่งการแข่งขันเป็น 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 700 ซีซี, 1,100 ซีซี และ 1,800 ซีซี
วัตถุประสงค์ที่มีการบรรจุการแข่งขันเจ็ตสกีไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยวช่วงบุญห่อข้าวประดับดินด้วยนั้น เพจ “ข่าวสารหลวงพระบาง” ระบุว่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเพิ่มกิจกรรมให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวจะได้พบกับความสนุกสนาน “ม่วนซื่น” มากขึ้น…

เช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2565 พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นประธานเปิดการแข่งขันเรือยาว ประจำเดือน 9 ในแม่น้ำคาน โดยมีแขกรับเชิญระดับประเทศ เช่น กงสุลจีน กงสุลเวียดนาม เจ้าแขวงหลวงพระบาง เจ้าแขวงไซยะบูลี เจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ ฯลฯ รวมรับชมการแข่งขัน
แม้ในวันนั้น ที่หลวงพระบางมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำคานซึ่งถูกจัดพื้นที่เป็นลักษณะอัฒจันทร์ มีนักท่องเที่ยวและกองเชียร์มานั่งชมอยู่เต็มทั้ง 2 ฟาก
มีเรือยาวเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ 23 ลำ จัดการแข่งขันรวม 15 รอบ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศทางสถานีโทรทัศน์ลาวสตาร์ และยังมีสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจากประเทศไทย ที่ส่งทีมงานไปทำข่าวและถ่ายทอดสดบางช่วงของการแข่งขันกลับมายังประเทศไทยด้วย
ผลการแข่งขัน เรือของบริษัทแสงเพ็ด เก็บกู้วัตถุระเบิด จากนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นฝ่ายชนะเลิศ ได้รางวัลเป็นถ้วยและเงินสด 17 ล้านกีบ เรือของกลุ่มพันธมิตร จากแขวงไซยะบูลี เป็นอันดับ 2 ได้รางวัลเป็นถ้วยและเงินสด 16 ล้านกีบ เรือของธนาคารพัฒนาลาว เป็นอันดับที่ 3 ได้รางวัลเป็นถ้วยและเงินสด 15 ล้านกีบ


……
นับแต่โควิด-19 ระบาดเข้ามาในลาวในเดือนมีนาคม 2563 มาถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ลาว โดยเฉพาะแขวงหลวงพระบาง จำเป็นต้องงดการจัดงานประเพณีที่เคยเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวแทบทุกประเภท เช่น งาน “แห่ช้างเรียงเกย” ในช่วงวันบุญปีใหม่ลาว หรือการเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงงานบุญห่อข้าวประดับดิน ตลาดนัดโละลาด และการแข่งเรือยาว ประจำเดือน 9 ฯลฯ
การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้ประเพณีเหล่านี้ได้ถูกฟื้นขึ้นมาจัดกันใหม่อีกครั้ง
จำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขึ้นรถไฟไปเที่ยวหลวงพระบาง จนบริษัทรถไฟลาว-จีน ต้องเพิ่มขบวนรถที่ให้บริการ
ภาพผู้คนจำนวนมากนั่งรอใส่บาตรพระสงฆ์ ตามประเพณีตักบาตรข้าวเหนียวในตอนเช้าตรู่
ล่าสุด ความคึกคักของนักท่องเที่ยวที่ไปร่วมกิจกรรมอันหลากหลายในงานบุญห่อข้าวประดับดิน และการแข่งขันเรือยาวของหลวงพระบางในสัปดาห์ที่แล้ว
สะท้อนผลตอบรับแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของลาวด้วยการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ที่ดีในระดับหนึ่ง
แต่จะยั่งยืนหรือยาวนานเพียงใด เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าติดตามต่อไปอีก…