ThaiPublica > Native Ad > “โออาร์ = โอกาส” ขอเติมเต็มและติดปีกให้คนตัวเล็ก เติบโตไปพร้อมกัน

“โออาร์ = โอกาส” ขอเติมเต็มและติดปีกให้คนตัวเล็ก เติบโตไปพร้อมกัน

11 พฤษภาคม 2022


“เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เป็นเป้าหมายร่วมกันของโลกที่มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยืน เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นคงให้กันและกัน ด้วยภาระที่ยิ่งใหญ่นี้ ประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่งไม่สามารถที่จะทำได้โดยลำพัง จำเป็นต้องจับมือและร่วมเดินเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ประกาศวิสัยทัศน์องค์กรพร้อมทิศทางการดำเนินธุรกิจ โดยมีหัวใจคือ ‘โอกาส’ ที่ว่า “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” หรือ “Empowering All toward Inclusive Growth” ซึ่งจะเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ โออาร์ รวมทั้งตั้งเป้าหมายในปี 2030 หรือ OR 2030 Goals 3 ด้าน คือ (1) คุณภาพชีวิต (Living Community) (2) สิ่งแวดล้อม (Healthy Environment) และ (3) การสร้างการเติบโต สร้างอาชีพ และการกระจายความมั่งคั่ง (Economic Prosperity) โออาร์ ได้ตั้งเป้าการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์การสร้าง ‘โอกาส’ ให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กได้เติบโตไปพร้อมกับ โออาร์

การเติบโตรูปแบบใหม่ของ โออาร์ จึงเป็นการเติบโตจากการร่วมมือกับพันธมิตร และเติมเต็มได้ด้วยศักยภาพที่บริษัทมีอยู่ด้วยการขยายธุรกิจให้เติบโตจากการบริหารงานแบบมืออาชีพของ โออาร์ พร้อมการขยายฐานลูกค้าและต่อยอดความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์

โออาร์ เชื่อในการเติบโตแบบ Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตร โดยธุรกิจต้องได้รับประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย

ดังนั้น การเลือกพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสเติบโตร่วมกันจะต้องสอดคล้องกับพันธกิจใดพันธกิจหนึ่งจากทั้งหมด 4 ด้าน คือ

(1) การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility)
(2) การสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles)
(3) การขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก (Global Market)
(4) การแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับของ โออาร์ (OR Innovation)

ตัวอย่างการสร้างโอกาสที่วิน-วิน ทั้ง โออาร์ และผู้ประกอบการเห็นได้ชัดจากการที่ โออาร์ ร่วมลงทุน 20% ในแบรนด์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง “โอ้กะจู๋” เพราะด้วยจุดเด่นเรื่องความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ และส่งตรงจากฟาร์มที่เชียงใหม่ ตลอดจนโอกาสเติบโต ทั้งการขยายสาขาในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และภาคเหนือ ซึ่งจะเปิดให้บริการครบ 30 สาขาเร็ว ๆ นี้ ตลอดจนเป็นแบรนด์ที่มีโอกาสเติบโตจากไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพรวมถึงมีวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและหันมาพร้อมรับประทาน

นอกจากโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจแล้ว การเข้าลงทุนในโอ้กะจู๋ ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกรผู้ปลูกผักในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการที่มีโอกาสเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ซึ่งมีจำนวนกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ และ ร้าน Café Amazon ซึ่งมีจำนวนสาขาถึงกว่า 3,600 สาขา

การลงทุนในโอ้กะจู๋สะท้อนถึงการสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนและสร้างผู้ประกอบการรายย่อย หรือ เอสเอ็มอี

ส่วนโอกาสที่โอ้กะจู๋ได้รับคือ เงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ อาทิ การนำเทคโนโลยี Smart Farm มาใช้ เพื่อทำให้ได้ผลผลิตที่สม่ำเสมอและมีคุณภาพ รวมถึงการสร้างครัวกลางที่จังหวัดเชียงใหม่ การสร้างศูนย์กระจายสินค้า เพื่อรองรับการขยายสาขาไปยังภูมิภาคต่าง ๆ

โออาร์ ยังมอบโอกาสไปยังสายสตาร์ทอัพ ด้วยการจัดตั้งกองทุน “ออร์ซอน เวนเจอร์ส” (ORZON Ventures) โดยร่วมกับกองทุน 500 TukTuks เพื่อแสวงหาและสนับสนุนสตาร์ทอัพใหม่ โดยมุ่งเน้นทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ โออาร์ และธุรกิจใหม่ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle

สตาร์ทอัพ 5 รายแรกที่ ORZON Ventures เข้าไปลงทุน ได้แก่ ‘freshket’ ‘Pomelo’ ‘GoWabi’ ‘Carsome’ และ ‘Protomate’ ทั้งหมดเป็นสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตของผู้บริโภค

เริ่มจาก freshket แพลตฟอร์มจำหน่ายวัตถุดิบครบวงจร สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง) และกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการระบบอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ปัจจุบัน freshket มีสินค้าทั้งของสดและของแห้งให้เลือกกว่า 7,000 รายการ มีผู้ใช้งาน HoReCa กว่า 10,000 ราย มีบริการจัดส่งที่รวดเร็ว และสามารถเลือกเวลาจัดส่งได้ตามสะดวก

ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ ยังมี GoWabi แพลตฟอร์มชั้นนำของไทยที่รวบรวมทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับบริการทางด้านความงามและสุขภาพไว้ในที่เดียว สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ โออาร์ ที่ช่วยเสริม Lifestyle Ecosystem ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ให้บริการบน GoWabi กว่า 1,000 รายสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

สตาร์ทอัพเหล่านี้มีจุดแข็งในเทคโนโลยี และมีความโดดเด่นในกลุ่มธุรกิจ และเมื่อ ORZON Ventures เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้แล้วจะยิ่งติดปีกให้องค์กรก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดนี้คือเจตนารมณ์ของ โออาร์ ที่มุ่งเติมเต็ม ‘โอกาส’ เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน โดยให้ความสำคัญกับ ‘คนตัวเล็ก’ ทั้งในรูปแบบของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และการลงทุนในเอสเอ็มอีหรือสตาร์ทอัพ เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์องค์กรที่ว่า “Empowering All toward Inclusive Growth”