สภาพสังคมที่กดดัน บีบคั้นประชาชนมากขึ้นทุกวัน จากความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ความอยุติธรรม การคอร์รัปชัน ที่เกาะกินประเทศไทยอยู่ เมื่อกฎระเบียบกติกาของบ้านเมืองถูกละเลยด้วยผู้ปกครองที่มีอำนาจ ทำให้ผู้ซึ่งไร้อำนาจเริ่มไม่ทนอีกต่อไป ซีรีส์คนไทยไม่ทนจึงขอเปิดพื้นที่ “ไม่ทน” เพื่อสะท้อนอาการของสังคมไทย
พระ 400 วัด สุดจะทน ร้องคณะกรรมาธิการการปกครอง ถูกป่าไม้เรียกเก็บค่าต่อสัญญาเช่าที่ดินป่าสงวนไร่ละ 10,960 บาท ค่าน้ำร้อนน้ำชาอีกไร่ละ 5,000 บาท ส่วนกรณีโรงไม้ถูกเรียกเก็บค่าใบอนุญาตค่าไม้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ล่าสุดกรมป่าไม้มีคำสั่งเด้งเจ้าหน้าที่ 4 ราย พร้อมตั้งกรรมการสอบ ด้าน กมธ. เตรียมสรุปผลสอบส่ง ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ
ภายหลังจากที่คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้รับจดหมายร้องเรียนจากวัดหลายแห่งในจังหวัดอุดรธานี ว่าถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมในการต่อสัญญาเช่าที่ดินป่าสงวน เกินจากที่กฎหมายกำหนดกว่า 200 เท่า รวมทั้งเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการพิเศษ ทางคณะกรรมาธิการฯ จึงมอบหมายให้ชมรมปริญญาเอกเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอุดรธานีอีก 2 คน เดินทางไปวัดถ้ำกกดู่ ตำบลโนนหวาย อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เพื่อสอบถามพระครูจำรัส ในฐานะที่ท่านเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่เคารพรักของชาวจังหวัดอุดรธานี ได้รับความไว้วางใจจากวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานประมาณ 400 แห่ง ให้เป็นตัวแทนในการให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ โดยพระครูจำรัสนั้นยินยอมให้บันทึกวีดีโอ และบันทึกเสียงขณะให้ปากคำ รวมทั้งโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เรียกเก็บเงินจากวัด 400 แห่ง ไว้เป็นหลักฐานส่งให้คณะกรรมาธิการฯ
พระครูจำรัสให้การว่า “ในฐานะอาตมาเป็นพระที่มีความรู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก เป็นเด็กวัดบวชเรียนเป็นศิษย์น้องสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ท่านประยุทธ์ ปยุตฺโต และสมเด็จเกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และเป็นศิษย์คนที่ 3 ของพระครูบวรธรรมรังษี จึงได้รับมอบหมายจากพระหลายวัดที่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกเงิน ซึ่งวัดถ้ำกกดู่ของอาตมาเข้าที่ดินป่าสงวนของกรมป่าไม้เนื้อที่ 15 ไร่ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมต่อสัญญาเช่าที่ดินไร่ละ 10,960 บาท รวมเป็นเงิน 164,400 บาท และยังถูกเรียกเก็บค่าดำเนินการพิเศษ เช่น ค่าถ่ายเอกสาร ค่าน้ำมันรถ อีก 5,000 บาท เฉพาะเงินค่าดำเนินการพิเศษนี้โดนกัน 400 วัด รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท จากปกติทุกวัดเสียค่าเช่าที่ดินป่าสงวนไร่ละ 50 บาทเท่านั้น ไม่เคยเสียค่าธรรมเนียม 10,960 บาท หรือค่าดำเนินการ 5,000 บาท อย่างที่วัดป่าเขาเหล็ก ตำบลนายาง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ หรือวัดในจังหวัดศรีสะเกษ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกเก็บเงินไร่ละ 10,960 บาท ไม่รู้ค่าอะไร ตามกฎหมายเก็บได้แค่ไร่ละ 50 บาทเท่านั้น”
“ในอดีตสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าท่านประสูติในวัง แต่ยอมสละราชสมบัติออกมาบวชและธุดงค์อยู่ในป่า จะเห็นว่าพระอยู่ในป่ามาตั้งแต่ในอดีต วัดจึงตั้งอยู่ในป่า ก่อนที่จะมีการออกกฎหมายกำหนดเขตพื้นที่ป่าสงวน หรือเขตวนอุทยาน เพื่อไม่ให้มีปัญหาวัดก็เลยต้องไปเช่าที่ดินกรมป่าไม้ พระก็ไม่เคยตัดไม้ไปขาย มีแต่ช่วยทางราชการรักษาผืนป่า เอาผ้าจีวร ผ้าสีไปผูกตามต้นไม้ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าตัดต้นไม้” พระครูจำรัสกล่าว
“ถ้าขอไปกินข้าวสักมื้อ หรือขอสนับสนุนเล็กน้อยๆ อย่างนี้ก็พอจะช่วยเหลือกันได้ ถือเป็นการให้ด้วยความเสน่หา แต่ไม่ใช่มากำหนดหรือขีดเส้นจะเอาเท่านั้นเท่านี้ พระจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้”
แหล่งข่าวจากคณะกรรมาธิการการปกครองกล่าวว่า สำหรับกรณีของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 6 อุดรธานี ที่ไปเรียกเก็บเงินค่าใบอนุญาตค้าไม้จากผู้ประกอบกิจการโรงไม้และชาวบ้านเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งโทรศัพท์ไปข่มขู่ให้พยานกลับคำให้การกับคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎรนั้น ล่าสุดกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 4 นายออกจากพื้นที่ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้ว ในส่วนของคณะกรรมาธิการการปกครองนั้นได้สรุปผลสอบ พร้อมรวบรวมหลักฐานเทปบันทึกเสียง ภาพถ่าย กล้องวงจรปิด ส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป