ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 23-29 พ.ย. 2562: “ไล่เรียงไทม์ไลน์ ที่ดินปารีณา” และ “ฮ่องกงชุมนุมต่อ”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 23-29 พ.ย. 2562: “ไล่เรียงไทม์ไลน์ ที่ดินปารีณา” และ “ฮ่องกงชุมนุมต่อ”

30 พฤศจิกายน 2019


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 23-29 พ.ย. 2562

  • ไล่เรียงไทม์ไลน์ ที่ดินปารีณา
  • “โอ๊ค” รอด ศาลยกฟ้องคดีฟอกเงิน
  • 9 ธ.ค.เริ่มใช้บุหรี่ซองเรียบ
  • บ้านดีมีดาวน์ รัฐแจกของขวัญปีใหม่ ช่วยผ่อนดาวน์ หนุนคนมีบ้าน
  • ฮ่องกงชุมนุมต่อ

ไล่เรียงไทม์ไลน์ ที่ดินปารีณา

  • เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2562 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้พาชาวบ้าน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ยื่นหนังสือต่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอที่ดิน 500 ไร่คืนจากนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเอกสารสิทธิที่ถือครองไม่ใช่ น.ส.3 ก หรือ น.ส.3 เป็นที่ดินที่เข้าลักษณะป่าชุมชน แต่นางสมพรกลับเข้าไปครอบครองใช้ประโยชน์
  • แม้การทวงคืนครั้งนั้นจะจบลงที่นางสมพรชี้แจงว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการคืนพื้นที่ให้ชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่การทวงคืนพื้นที่ครั้งนี้กลับย้อนศรมาหาน.ส.ปารีณาเอง เพราะเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2562 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้ส่งเอกสารให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีบัญชีทรัพย์สินที่น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยื่นแจ้งต่อ ป.ป.ช.เมื่อปี พ.ศ. 2562 มีที่ดิน ภ.บ.ท. 5 อยู่ในครอบครอง 58 รายการ เนื้อที่ 1,706 ไร่ ที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ในตำบลเดียวกันกับที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่น.ส.ปารีณาพาชาวบ้านไปทวงคืนจากนางสมพรนั่นเอง
  • น.ส.ปารีณาเปิดเผยว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของกรมป่าไม้ ตนเพียงเข้าไปใช้ประโยชน์แต่ไม่ได้รับการจัดสรรมาให้ครอบครองแต่อย่างใด และเสียภาษีในการเข้าใช้ประโยชน์มาตลอด (ภ.บ.ท. 5) ส่วนที่การยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี พ.ศ. 2557 ไม่มีรายการที่ดินนี้แต่กลับมีในปี พ.ศ. 2562 ไม่ใช่เพราะได้รับการจัดสรรมาให้ครอบครอง แต่ ป.ป.ช.ขอความร่วมมือว่าถ้ามีการเข้าไปทำกินในที่ดินของกรมป่าไม้ให้แจ้งไปด้วย
  • ในทีแรก ร.อ. ธรรมนัส เปิดเผยว่า น.ส.ปารีณาไม่ได้บุกรุกเพราะครอบครองมาก่อน แต่ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว โดยให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นผู้ตรวจสอบ
  • วันที่ 20 พ.ย. 2562 ร.อ. ธรรมนัส ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน จ.ราชบุรี เข้าไปยังที่ดินของน.ส.ปารีณาเพื่อติดป้ายแสดงสิทธิในที่ดินของ ส.ป.ก. โดยห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า และให้ดำเนินการทางกฎหมาย ยึดคืนพื้นที่ รวมทั้งต้องหยุดกิจการด้วย
  • เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวที่ไปสังเกตการณ์บริเวณพื้นที่ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปรีณาพบว่า ทาง ส.ป.ก.ราชบุรีได้นำป้ายประกาศว่า “ที่ดินแปลงนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตามมาตรา 26 ทวิแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518” มีนายสุรินทร์ หาญมนัสเวทย์ ปฏิรูปที่ดิน จ.ราชบุรี ลงชื่อกำกับ มาติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้าทางเข้าฟาร์มไก่ แต่ต่อมาวันที่ 22 พ.ย. 2562 ป้ายดังกล่าวได้ถูกถอดออกไปแล้วโดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ถอดป้ายออกไป ส่วนฟาร์มไก่ยังคงเปิดทำการตามปกติยังไม่มีการหยุดกิจการใดๆ
  • วันที่ 23 พ.ย. 2562 เมื่อนักข่าวถาม น.ส.ปารีณาว่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินร่วมกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ น.ส.ปารีณาเก็บไมค์ลงแล้วตอบปากเปล่าว่า “ได้ทำเอ็มโอยูไว้กับนักข่าวแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ ไปลองถามเพื่อนๆ ดู” ผู้สื่อข่าวจึงถามกันเองว่า น.ส.ปารีณาได้ทำเอ็มโอยูกับใคร นักข่าวคนไหน แต่ก็ไม่มีนักข่าวคนใดตอบ เพราะไม่รู้เรื่องเอ็มโอยูที่ น.ส.ปารีณาอ้าง ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า หากมีเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจ สอบจะไปหรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบเพียงว่า “ดิฉันได้ทำเอ็มโอยูกับนักข่าวไว้แล้ว ทุกคนก็น่าจะรู้ อันนี้ก็ต้องขอความเห็นใจนะคะ” ทำให้ผู้สื่อข่าวพากันรุมถามจี้ว่า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และเมื่อคุณพยายามตรวจสอบพรรคฝ่ายค้าน แต่พอเป็นเรื่องของตัวเองกลับไม่ตอบหรือ น.ส.ปารีณาตอบว่า เรื่องนี้ก็ต้องขอความเห็นใจ ดิฉันทำเอ็มโอยูกับพี่ๆ นักข่าวไว้แล้ว กระทั่งนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ พยายามพูดแทรกว่า เป็นความลับ เป็นเรื่องของคดี ขอปิดเอาไว้ก่อน น.ส.ปารีณาไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการพยายามปกปิดเรื่องของตัวเองใช่หรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบว่า “ดิฉันขอความเห็นใจเถอะค่ะ” พร้อมยกมือไหว้
  • เอกสารข่าวที่ น.ส.ปารีณาแจกในเวลาต่อมา
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ข่าวสด (http://bit.ly/34w5DvN)
  • วันที่ 24 พ.ย. 2562 เจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ของ น.ส.ปารีณา และพบว่ามีพื้นที่ประกอบกิจการของ “เขาสนฟาร์ม 1” ซึ่งมีอยู่ 690 ไร่นั้นเป็นพื้นที่ สป.ก. ส่วนบริเวณที่เป็นฟาร์มไก่ใน “เขาสนฟาร์ม 2” ซึ่งมีพื้นที่ 46 ไร่นั้นอยู่ในเขตพื้นป่าสงวนแห่งชาติ
  • วันที่ 25 พ.ย. 2562 น.ส.ปารีณาได้เดินทางเข้าพบนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบที่ดินของตนใหม่
  • วันที่ 28 พ.ย. 2562 กรมป่าไม้และ สปก.ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อรังวัดที่ดินของ น.ส.ปารีณา แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้เนื่องจากทั้งสองหน่วยงานนั้นใช้แผนที่กันคนละฉบับ แต่ ส.ป.ก.ยืนยันว่าพื้นที่ส่วนที่เป็นฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณานั้นแม้จะอยู่นอกเขตพื้นที่ ส.ป.ก.แต่ล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง ทั้งนี้ ต้องทำการนังวัดให้ชัดเจนว่าพื้นที่ส่วนที่ล้ำเข้าไปนั้นมีกี่ไร่

“โอ๊ค” รอด ศาลยกฟ้องคดีฟอกเงิน

เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 นายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 40 ปี บุตรชายคนโตของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พื่อฟังคำพิพากษาตามกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาในคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91

จากกรณีที่ นายพานทองแท้รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่งมีการกล่าวหาว่าเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกนายวิชัยและนายรัชฎา บุตรชาย คนละ 12 ปี ร่วมกับพวก โดยในส่วนของนายวิชัย, นายรัชฎา และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษดารวม 6 คนนั้น ก็ถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบด้วยเช่นกัน

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่านายพานทองแท้  จำเลย ได้รู้ที่มาของเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์  โอนเข้าบัญชีว่านายวิชัยได้มาจากการกระทำผิดทุจริตการปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย ซึ่งขณะที่การรับโอนเงินจำเลยมีอายุเพียง 26 ปีและขณะนั้นมีเงินรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้ว ถึง 4,000 ล้านบาทโดยเมื่อเทียบกับเงิน 10 ล้านบาท แล้วคิดเป็น 0.0025 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินดังกล่าว ขณะที่โจทก์นำสืบได้เพียงว่าขณะที่รับโอนหุ้นในพานทองแท้เป็นบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร และมีความสนิทสนมกับครอบครัวของนายวิชัยเพียงเท่านั้น

ภายหลังศาลมีคำพิพากษานายพานทองแท้และกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามคุณหญิงพจมานว่ารู้สึกโล่งใจกับคดีนี้หรือไม่ คุณหญิงพจมานได้แต่พยักหน้าก่อนที่ครอบครัวจะขึ้นรถยนต์แล้วออกไปจากศาล ท่ามกลางกองเชียร์จำนวนหนึ่งที่มาให้กำลังใจ

9 ธ.ค.เริ่มใช้บุหรี่ซองเรียบ

วันที่ 27 พ.ย. 2562 เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2562 เป็นต้นไป บุหรี่ซิกาแรต ที่จะวางขายในไทยได้ ต้องเป็นซองบุหรี่ซิกาแรตรูปแบบใหม่เท่านั้น โดย คร.และพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จะลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีทันทีกับผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ขายรายใดที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากได้ประกาศให้ผู้ประกอบการรับทราบล่วงหน้าแล้วถึง 1 ปี เพื่อเตรียมการและปรับตัว

ทั้งนี้ หากพบการขายบุหรี่ซองรูปแบบเก่า ร้านค้าจะมีความผิดฐานขายผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ไม่ได้จัดให้มีหีบห่อตามที่กฎหมายกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ คร.ขอแจ้งเตือนไปยังร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ยกเลิกการจำหน่ายบุหรี่ซองรูปแบบเก่าตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.นี้ ในกรณีร้านค้าใดมีบุหรี่ซองรูปแบบเก่าคงค้าง หรือไม่สามารถขายได้ทันตามกำหนดเวลา ขอให้ติดต่อประสานไปยังบริษัทผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือตัวแทนค้าส่ง เพื่อเยียวยาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ผู้ผลิตและผู้นำเข้ามีสินค้าบุหรี่ซองรูปแบบใหม่ หรือซองบุหรี่แบบเรียบเพียงพอในการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกทั่วประเทศ สงสัยโทร.0-2590-3852

บ้านดีมีดาวน์ รัฐแจกของขวัญปีใหม่ ช่วยผ่อนดาวน์ หนุนคนมีบ้าน

เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2562 มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นของขวัญให้กับประชาชนในช่วงปลายปี 2562 โดย 1 ใน 3 โครงการที่ออกมาก็คือ “โครงการบ้านดีมีดาวน์” ที่ช่วยลดภาระค่าผ่อนเงินดาวน์ในการซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ภายใต้โครงการดังกล่าว ภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาท ต่อราย โดยผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี ผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จำนวน 100,000 ราย และผ่านเกณฑ์ ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 62 – 31 มี.ค. 2563 เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์ รัฐช่วยผ่อนบ้านดีมีดาวน์ วันที่ 11 ธค. 2562 เป็นต้นไป

โครงการบ้านดีมีดาวน์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 62 – 31 มี.ค. 2563 โดยต้องผ่านขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เข้าลงทะเบียนรับสิทธิ์ รัฐช่วยผ่อนบ้านดีมีดาวน์ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562 เป็นต้นไป สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ บ้านดีมีดาวน์.com โดยกรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องและยินยอมให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปตรววจคุณสมบัติกับกรมการปกครอง กรมสรรพากร NCB และ ITMX

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อมีการลงทะเบียนแล้ว ผู้ที่ผ่านจะได้รับ SMS แจ้งผลการตรวจสอบรอบแรก โดยกรมการปกครองจะทำการตรวจสอบตัวตนตามฐานข้อมูล และอยู่ในระบบฐานภาษีกรมสรรพากร มีรายได้ปีละไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

ขั้นตอนที่ 3 สถาบันการเงินพิจารณาคำขอกู้ อนุมัติเงินกู้และดำเนินการจดจำนองให้แล้วเสร็จ โดยสถาบันการเงินต้องรับผิดชอบ หากตรวจสอบภายหลังว่า ผู้ได้รับสิทธิมีการขอกู้ที่ผิดวัตถุประสงค์มาตรการ และเป็นผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดจำนองก่อนวันที่ 27 พ.ย. 2562

ขั้นตอนที่ 4 ระบบจะตรวจสอบข้อมูล จากสถาบันการเงินของผู้ร่วมมาตรการกับ NCB และ ITMX
เพื่อตรวจสอบวัตุประสงค์การกู้กับสถาบันการเงิน รวมถึงตรวจสอบวันจดจำนอง กับ NCB และตรวจสอบความถูกต้องของเลขที่ PROMPT PAY (ID card เท่านั้น) กับ ITMX

ขั้นตอนที่ 5 ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทำการโอนเงิน 50,000 บาท เข้าบัญชี PROMPT PAY ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้กู้หลักที่ได้รับสิทธิ์ได้รับเงินโอน ซึ่งมีจำนวน 1 แสนรายเท่านั้น

ฮ่องกงชุมนุมต่อ

ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/99/190616_HK_Protest_Incendo_03.jpg/1440px-190616_HK_Protest_Incendo_03.jpg

เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 ทางการฮ่องกงเปิด “ครอสส์ฮาร์เบอร์ ทันเนิล” อุโมงค์หลักเชื่อมเกาะฮ่องกงกับแผ่นดินอื่นๆของฮ่องกงให้ยานพาหนะผ่านได้อีกครั้ง หลังถูกปิดมา 2 สัปดาห์เพราะกลุ่มผู้ประท้วงปิดทางเข้าอุโมงค์ ทุบทำลายป้อมเก็บเงินค่าผ่านทาง จุดไฟเผาสิ่งของและตั้งเครื่องกีดขวางถนนทางเข้าอุโมงค์ ขณะปะทะกับตำรวจ

ตำรวจยังบุกเข้าตรวจค้นในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง (โพลียู) มหาวิทยาลัยแห่งสุดท้ายใน 5 แห่งที่ผู้ประท้วงใช้เป็นที่มั่นต่อสู้กับตำรวจมา 1 สัปดาห์ โดยทั้งขว้างระเบิดเพลิง ก้อนอิฐ ยิงธนูและหนังสติ๊กใส่ตำรวจ ซึ่งใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงตอบโต้ ทำให้โพลียูเสียหายอย่างหนัก มีผู้ประท้วงถูกจับแล้วราว 1,100 คน ส่วนการตรวจค้นเมื่อ 27 พ.ย. 2562 พบว่าโพลียูว่างเปล่า หลังพบเพียงสตรี 1 คนอยู่ในสภาพอิดโรยเมื่อ 26 พ.ย. 2562 ด้าน ดร.มิรันดา ลู รองประธานบริหารโพลียูเผยว่าจะเร่งฟื้นฟูบูรณะและหวังว่าจะเปิดโพลียูได้ในเร็วๆนี้

รัฐบาลฮ่องกงยังหวังว่าความสงบช่วงสั้นๆ ในช่วงการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นซึ่งมีขึ้นเมื่อ 24 พ.ย.จะดำเนินต่อไป แต่ผู้ประท้วงยังมีแผนชุมนุมต่อในช่วงสุดสัปดาห์ รวมทั้งเดินขบวนต่อต้านไม่ให้ตำรวจใช้แก๊สน้ำตากับเด็กๆ ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าฝ่ายเชิดชูประชาธิปไตยชนะเหนือฝ่ายรัฐบาลฮ่องกงที่ฝักใฝ่จีนถล่มทลาย ได้ที่นั่งสมาชิกสภาเขตถึง 89% หรือ 347 ที่นั่ง จากทั้งหมด 452 ที่นั่ง และ ยึดสภาเขตได้ 17 เขต จากทั้งหมด 18 เขต ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการประท้วงที่ยืดเยื้อมา 6 เดือน แม้จะมีความรุนแรงจนฮ่องกงเป็นอัมพาต

ผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้นางแคร์รี แลม ผู้นำฮ่องกงลาออก แต่นางแลมยังไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ แม้จะยกเลิกร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งเป็นชนวนเหตุประท้วงไปแล้ว โดยนางแลมเผยเพียงว่าจะเร่งเปิดการเจรจาสาธารณะและหาวิธีแก้ความขุ่นข้องใจต่างๆของสังคม เธอยังเผยว่ารัฐบาลจีนไม่ได้กล่าวโทษเธอที่แพ้การเลือกตั้ง

นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่ารัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ประท้วงในฮ่องกง แต่จะรับมืออย่างระมัดระวัง ส่วนหนึ่งเพราะหวั่นกระทบการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยจีนยังเน้นถึงความจำเป็นต้องยุติความรุนแรงและเร่งฟื้นฟูระเบียบกฎหมาย ในฮ่องกง สำนักงานกระทรวงกิจการต่างประเทศของจีนในฮ่องกงยังปฏิเสธข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ว่าจีนได้ตั้งศูนย์บัญชาการวิกฤติที่นครเสิ่นเจิ้นตรงข้ามพรมแดนฮ่องกงเพื่อรับมือการประท้วงในฮ่องกงว่าไม่เป็นความจริง