ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯสั่งสอบทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน – มติ ครม.รับทราบมาตรการป้องกันซื้อ-ขาย ยาเสพติดในเรือนจำ

นายกฯสั่งสอบทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน – มติ ครม.รับทราบมาตรการป้องกันซื้อ-ขาย ยาเสพติดในเรือนจำ

15 ธันวาคม 2020


พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงกลาโหม
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/

นายกฯ สั่งสอบทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” ตรวจเจอดำเนินคดีถึงที่สุด – ขอความร่วมมือ ปชช. ใช้ขนส่งสาธารณะ ลด PM2.5 – มติ ครม. รับทราบยอดหนี้สาธารณะ ยังต่ำกว่า 60% มั่นใจเอาอยู่ – “วิษณุ” เตือน รมต.ไม่ไปเลือกตั้ง อบจ. “พ้นจากตำแหน่ง–ห้ามเล่นการเมือง 2 ปี”

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาลมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีงดการตอบคำถามสื่อมวลชน ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังภารกิจตรวจเยี่ยมสถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ณ สถานีกลางบางซื่อ ถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และรับฟังแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณรอบสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทดลองการเดินขบวนรถไฟชานเมืองสายสีแดง ระหว่างสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีรังสิต

ขอความร่วมมือ ปชช.ใช้ขนส่งสาธารณะลด PM 2.5

พล.อ. ประยุทธ์ ตอบคำถามถึงการแก้ไขปัญหา PM2.5 ณ สถานีกลางบางซื่อ ว่า ทางแก้ที่สำคัญคือลดการใช้รถให้ได้โดยสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งมวลชนให้มากที่สุด อาจมีมาตรการให้ใช้รถวันคู่-วันคี่ ซึ่งทุกคนต้องรวมมือกัน ทั้งนี้ ตนยังเห็นว่าปัญหานี้ยังรับมือได้ โดยจะมีการเข้มงวดในการตรวจจับรถควันดำ งดการต่อใบอนุญาต เป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากจะกำชับไป

ในส่วนของการเผาวัชพืชต่างๆ ซึ่งรัฐบาลยังไม่สามารถจัดหาเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจต้องมีการทดสอบแนวทางการแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ เช่นที่หลายจังหวัดทำ คือ การไถกลบ ไถพรวน เป็นต้น โดยต้องหาวิธีในการจำกัดการเผาให้ได้ ไม่เช่นนั้นเกษตรกรก็จะเดือดร้อนอีกจึงต้องคิดให้ทุกมิติ ไม่ว่าจะฝุ่นละอองจากการจราจรหรือการก่อสร้าง กากอุตสาหกรรม และการควบคุมการเผาในที่โล่งจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ส่วนการปิด-เปิดโรงเรียนเป็นเรื่องที่โรงเรียนจะต้องพิจารณาอยู่แล้ว

“วันนี้ถ้ามองสถานการณ์ในประเทศเอาผมคิดว่าอากาศนั้นเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย วันไหนที่บอกว่าบ้านเราทำไมค่า PM2.5 ถึงส่งขนาดนี้อยากให้ไปดูค่าฝุ่นในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะอากาศหมุนไปหมุนมาทั้งหมด บางครั้งก็มาเติมเรา เราก็ไปเติมเขา จะต้องมีการแสวงหาความร่วมมือภายในอนุภูมิภาคของเราว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ผมได้พูดถึงข้อเสนอในเรื่องนี้ทุกครั้งเวลามีการประชุมในต่างประเทศ”

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้รัฐบาลได้มีการเร่งรัด ผลักดันให้มีการใช้น้ำมันบี 20 สนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าขนส่งสาธารณะเชื่อมโยงเครือข่ายรถ ราง เรือ แต่ทั้งนี้ ยอมรับว่ายังมีปัญหาคือการขนส่งทั้งหมดยังไม่เชื่อมโยงกัน

เล็งออกมาตรการจัดโซนงานปีใหม่-ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำเพื่อ ปชช.

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายหลังจากที่มีผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นผู้ติดเชื้อจนเกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ว่า วันนี้รัฐบาลเข้มงวดทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ตามก็สามารถติดตามเอามาตรวจสอบและรักษาได้ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ตื่นตระหนกกันมากนัก

“สิ่งสำคัญคือการรวมคนเข้ามาอยู่ในที่แคบๆ จำนวนมากไม่มีระยะห่าง ไม่มีการใส่หน้ากากอนามัยเหล่านี้อันตรายทั้งสิ้น โดยเฉพาะการรวมคนจำนวนมากในพื้นที่ไม่ว่าจะการจัดการละเล่นการแสดงต่างๆ การไม่ใส่หน้ากากอนามัยนั้นอันตรายที่สุด ฉะนั้นการจัดการแสดงใดๆ ก็ตามที่มีคนหลายๆ จังหวัดไปร่วมเที่ยวตรงนั้นถ้าไม่ควบคุมให้เข้มงวดก็จะเกิดปัญหาหากเกิดโรคระบาดจากตรงนั้นขึ้นมา ผู้ที่ไปชมการแสดงตรงนั้นแล้วกี่จังหวัดที่ไปก็จะมีการแพร่ไปยังจังหวัดอื่นๆ อีก แล้วขยายต่อนั่นแหละคือซูเปอร์สแปลซเดอร์”

“ก็ไม่อยากให้ไปถึงตรงนั้นไม่อยากให้กลับไปล็อคดาวน์เหมือนเดิมอีก เพราะฉะนั้นต้องอยู่ที่ความร่วมมือของเราระหว่างกันหากพูดให้ร้ายกันไปมาก็จะมีปัญหากันไปทั้งหมด ที่ผ่านมามีการจัดกุมดำเนินคดีก็ต้องนำเสนอเหล่านี้ไปบ้าง ไม่ใช่ว่าจับกุมเท่านี้แสดงว่ามีมากกว่านี้ นี่คิดต่อกันไปอีกแล้ว ถ้าเขียนดักหน้าดักหลังอยู่แบบนี้คนทำงานเขาก็มีปัญหา วันนี้ผมได้เพิ่มกำลังทหารชายแดนมากพอสมควรตลอดเส้นทางใช้ทั้งโดรน ทั้งคน ลวดหนามต่างๆ คิดสิว่าเขาทำงานกันหนักขนาดไหน”

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวตัดพ้อว่า ท่านเขียนหรือดักหน้าดักหลังกันไปมา ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริงๆ ถ้ามันจะเกิดมันต้องเกิด แต่มันต้องแก้ไขให้ได้ ซึ่งช่วงนี้กำลังเดินหน้าเข้าสู่ปีใหม่เป็นปีแห่งความสุข ตนไม่อยากให้กลับไปสู่ความทุกข์แบบเดิมคือการล็อกดาวน์ ฉะนั้นต้องช่วยกันตอนนี้ รักษาระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากาก ต้องเตือนกัน บางคนก็กลัวบางคนก็ไม่กลัว เพราะเห็นไม่ติดก็เลยไม่กลัวมันเกิดขึ้นได้ทุกโอกาสต้องระวังอย่างที่สุด

นายกรัฐานตรีกล่าวถึงมาตรการในการจัดงานปีใหม่ว่า ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้จัดการอย่างไรจัดเป็นโซนได้หรือไม่ให้คนจำนวนน้อยเข้ามาในพื้นที่ไม่ใช่เข้ามาในพื้นที่เดียวกันซึ่งการวางแผนนี้จะใช้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอยากจะกราบเรียนให้บรรดาผู้ที่จัดงานรับทราบว่าจะแบ่งพื้นที่เป็นหลายโซนด้วยกันและต้องมีมาตรการที่รัดกุมในการตรวจการเข้าออก แสดงปริมาณคนที่เข้าไปในพื้นที่ได้และมีระบบติดตามทางโทรศัพท์ เพื่อจะได้ติดตามตัวได้ถูก

พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณทั้งประชาชนโดยทั่วไปและส่วนราชการราชการ ถ้าไม่ร่วมมือกันมาตั้งแต่ต้นวันนี้ไม่เป็นอย่างนี้ แต่จะหนักกว่านี้ ซึ่งการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องสุขภาพของท่านเองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นเลย ดังนั้นขอให้แยกแยะให้ออก

“ผมอยากให้การเริ่มสูงปีใหม่ของเราเต็มไปด้วยความสุข ประชาชนมีความสุขรัฐบาลก็มีความสุข ประชาชนมีความทุกข์รัฐบาลของผมทุกยิ่งกว่า จำคำพูดของผมไว้ผมทำทุกอย่างดังนั้นกรุณาช่วยเหลือกันบ้างสร้างความรับรู้สร้างความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ได้เกิดเมื่อวานแต่เกิดมาเกือบ 10 ปีแล้วนี่คือการเดินหน้ามาตั้งแต่วันแรกจากรัฐบาลก่อนหน้านี้จนถึงรัฐบาลนี้จนประสบความสำเร็จ”

เตรียมพัฒนา “แซนด์บ็อกซ์” เพื่อคนรุ่นใหม่

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวไปถึงการพัฒนาแซนด์บ็อกซ์ เพื่อเป็นช่องทางให้กับคนรุ่นใหม่ที่เป็นสตาร์ทอัป เหมือนที่ต่างประเทศทำ จะเห็นว่าเรื่องเหล่านี้ต้องมีคนทำ คนดูให้ คนรุ่นใหม่จะเริ่มกนเองทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ วันนี้อยู่ด้วยกันคนไทยหลายวัยด้วยกันจะต้องเสริมกันความสงบสุข ความรัก ความสามัคคีสำคัญที่สุดกับประเทศไทยในเวลานี้

“ผมคาดหวังว่าในปีหน้าถ้าวัคซีนสำเร็จจริง ถ้าเราไม่มีการซูเปอร์สเปรดเดอร์ก่อน ประเทศเราจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ เพราะเรามีความพร้อม”

ซึ่งตนยอมรับว่าด้านการท่องเที่ยวประเทศไทยได้รับผลกระทบนักท่องเที่ยวลดลงจาก 40 ล้านคน เหลือเพียง 8 ล้านคน เมื่อรวมคนในประเทสแล้ว แต่ในหลายประเทศก็ลดลงเช่นกัน หากล้มต้องประคองกันให้ลุกและไปต่อให้ไว ตนไม่ต้องการให้เรื่องอื่นมาเป็นปัญหากับรัฐบาลหรือประชาชน

“ผมไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งกันยิ่งเกิดความขัดแย้งกันประเทศชาติก็เสียโอกาส ผมก็เสียใจ ดังนั้นเราต้องรวมใจไทยสร้างชาติให้ได้ไปในทิศทางที่ลดความขัดแย้งเข้าสู่ความสงบได้โดยเร็วและเคารพกฎหมายผมขอแค่นั้น ผมทำงานให้ท่านจนตายเธอทุ่มเททุกคนพรุ่งนี้กันหมดท่านก็ให้กำลังใจเขาสักหน่อย ของผมไม่ต้องให้ก็ได้ยังไงผมก็ต้องให้ท่านอยู่แล้ว แต่ผมอาจจะเป็นเป้าใหญ่”

ศกพ.คาด PM 2.5อยู่ถึง ก.พ.ปีหน้า สั่งตรวจควันดำ-งดเผา-ฉีดน้ำลดฝุ่น

ทั้งนี้ ก่อนการแถลงผลการประชุม ครม. ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้แถลงถึงคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และการแก้ไขปัญหาบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5

โดยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหามลพิษทางอากาศไฟป่าและหมอกควันเป็นวาระแห่งชาติ และมีการตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันไปแล้ว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการกำหนดแนวทางเฉพาะกิจในการแห้ไขปัญหาหมอกควัน 12 ประการ และมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการสื่อสารแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้มาโดยตลอด

“ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้พยายามประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่น PM2.5 แล้ว แต่เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศปิด มวลอากาศหนักทำงให้เพดานอากาศต่ำ และลมไม่พัด ทำให้ฝุ่นกองอยู่กับที่และก่อให้เกิดการสะสมของ PM2.5 จึงได้มีการปรับแผนเพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการระยะสั้นที่สอดคล้องกับมาตรการระยะยาวที่ได้วางไว้ หากดำเนการทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะมีโอกาสที่ PM2.5 จะหายไป อาจไม่ใช่ในปีสองปีนี้ เช่นเดียวกับที่เคยแก้ปัญหาสารตะกั่ว และคาร์บอนมอนนอกไซด์ในอากาศ”

ซึ่งปัญหาฝุ่น PM2.5 นั้นสาเหตุหลักมาจากรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล รัฐบาลมีจึงแคมเปญให้ผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลเติมน้ำมันที่มีกำมะถันต่ำ ซึ่งได้มีการหารือกับผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในประเทศไทย 2 ราย ที่จะผลิตและคงราคาน้ำมันกำมะถันต่ำให้ขายในราคาปกติในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างเดือนธันวาคม 2563 – กุมภาพันธ์ 2564 เป็นการช่วยลดการเกิดควันและช่วยให้ลด PM2.5 ได้ถึง 24%

นอกจากนี้ได้มีการประสานงานกับค่ายรถยนต์ทุกค่ายในการลดราคาตรวจสภาพรถที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป อีกโครงการหนึ่ง เพื่อช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย และผู้ใช้รถเก่าแต่ไม่มีความสามารถให้เข้าถึงการตรวจสภาพรถได้มากขึ้น และ ศกพ. ได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควบคุมไม่ให้มีการเผาวัสดุทางการเกษตร ในที่โล่งในเขตปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานคร ในช่วงวันที่ 14-17 ธันวาคมนี้ และขอให้พี่น้องประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

ด้านร.ต.อ. พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันที่ 13 ธันวาคม พบค่า PM2.5 อยู่ระหว่าง 33-93 มคก./ลบ.ม. วันที่ 14 ธันวาคม พบค่า PM2.5 อยู่ระหว่าง 36-87 มคก./ลบ.ม. และวันที่ 15 ธันวาคม พบค่า PM2.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ระหว่าง 36-119 มคก./ลบ.ม. ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เริ่มมาตรการในการป้องกัน PM2.5 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เช่น การกำกับดูแลพื้นที่ก่อสร้างไม่ให้ทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น การงดกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่โรงเรียน การกวดขันการจราจรในพื้นที่โดยเฉพาะเขตรอบนอก กทม. การล้างถนน การฉีดละอองน้ำจากอาคารสูง และการเปิดคลินิกมลพิษ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ร.ต.อ. พงศกร ได้กล่าวถึงการฉีดน้ำให้ถูกวิธีเพื่อช่วยบรรเทาฝุ่นละออง และลด PM2.5 ดังนี้

  1. การพ่นละอองน้ำใส่ต้นไม้ ใบไม้ เพื่อชำระล้างฝุ่นที่มาเกาะใบไม้ที่จะไปลดทอนประสิทธิภาพในการกรองอากาศของต้นไม้
  2. การพ่นล้างถนน ให้ฝุ่นลงสู่ท่อระบายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นที่เกาะตามพื้นถนนกระจายกลับมาเป็นฝุ่นได้อีก
  3. การฉีดพ่นน้ำในพื้นที่ก่อสร้าง
  4. การฉีดน้ำบนอาคารสูงโดยใช้น้ำละออกละเอียดปริมาณมาก เพื่อดักจับ PM 10 ก่อนที่จะเป็น MP 2.5

“วันนี้สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรงจึงมีการยกระดับเพิ่มขึ้น เช่น การบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ที่มีการเผาอย่างเข้มข้นขึ้น โดยประสารงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับเขตต่างๆ ให้ไปตรวจดู ให้งดการเผาเด็ดขาด ในกิจกรรมก่อสร้างอาคารใหญ่ รถไฟฟ้า ฯลฯ ให้งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นมาก เช่น การขุด เจาะ การขนดิน ถมเดิน ในช่วง 2-3 วันนี้ ส่วนการปิดโรงเรียนตอนนี้ผู้อำนวยการเขตต่างๆ ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มีการพิจารณาบางโรงเรียนที่ต้องปิดก่อน หรือบางพื้นที่ที่ไม่พร้อมเนื่องจากไม่มีเครื่องกรองอากาศ ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ดีมีค่า PM2.5 เกินกว่า 50-100 มคก./ลบ.ม. ต่อเนื่อง จะมีการยกระดับเป็นระดับ 3 ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระดับ 2 และกาสถานการณ์ดีขึ้นจะลดระดับลงมา”

ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แน่นอน เพราะรถเมล์ใช้ระบบไฟฟ้าไม่ทำให้เกิดมลพิษ เราก็พยายามดำเนินการในส่วนที่กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯมีความเห็นต่อเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. อย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นายกฯ ก็สั่งการให้เร่งรัดในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ในส่วนการแก้ปัญหา PM2.5 ตนได้เรียนว่ากระทรวงคมนาคมได้ให้กรมขนส่งทางบกตรวจสอบเรื่องสภาพรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กรมเจ้าท่าก็กำลังพัฒนาเรือขนส่งในแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นระบบไฟฟ้า ส่วนเรื่องขสมก.ดำเนิการอยู่แล้ว เพราะรถเมล์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 จึงต้องปรับปรุงรถเมล์

“จะเห็นว่าในช่วงโควิดฯ ที่มีการชัตดาวน์ ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 เราไม่ได้ห้ามให้ใช้รถยนต์ แต่ต้องดูแลไม่ให้เกิดมลภาระ อย่างไรก็ตามพี่น้องประชาชนก็ต้องช่วยกันทั้งหมดก็เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้”

มติ ครม. มีดังนี้

ผศ. ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ซ้าย-ขวา)

รับทราบยอดหนี้สาธารณะ ยังต่ำกว่า 60% มั่นใจเอาอยู่

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ณ 30 กันยายน 2563 หรือวันสิ้นปีงบประมาณ 2563 ดังนี้

  • สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ร้อยละ 49.34
  • สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ ร้อยละ 38
  • สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด ร้อยละ 78
  • สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ร้อยละ 01

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังได้รายงานเพิ่มเติมว่า หนี้ที่เป็นภาระต่องบประมาณโดยตรง จำนวน 6,267,230.04 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 79.86 ของหนี้สาธารณะทั้งหมด เป็นหนี้เงินกู้ที่เป็นภาระตามกฎหมาย สัญญา มติคณะรัฐมนตรี หรือข้อตกลงที่รัฐบาลต้องชำระคืนเมื่อถึงกำหนด ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกัน ขณะที่ 1,580,925.84 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.14 ของหนี้สาธารณะทั้งหมดเป็นหนี้ของหน่วยงาน ซึ่งจะไม่เป็นภาระ ต่องบประมาณ ทั้งนี้ แผนการกู้เงินและการชำระหนี้ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดไว้

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า สัดส่วนหนี้สาธารณะ 7,848,155.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 49.34 ของ GDP ยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนดไม่เกินร้อยละ 60 ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่เกิดจากรัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสร้างขีดความสามารถของประเทศผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มั่นใจว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้น การลงทุนของรัฐบาลจะขับเคลื่อนให้ระบบเศรษฐกิจไทยสามารถกลับเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็จะเป็นผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะลดน้อยลงในอนาคต

เตรียมแถลงของขวัญปีใหม่สัปดาห์หน้า

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุม ครม. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการติดตามเรื่องของขวัญปีใหม่ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงไปจัดเตรียมของขวัญปีใหม่ มอบให้กับประชาชนในปี 2564 ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการติดตาม และเชื่อว่าในสัปดาห์หน้าจะได้รวบรวมทั้งหมดมารายงานให้ประชาชนได้รับทราบ

ส่วนเรื่องการจัดกิจกรรมบันเทิงในช่วงปีใหม่ รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดดกั้นในการจัดกิจกรรมสังสรรค์หรือ งานบันเทิงต่างๆ แต่ขอเพียงอย่างเดียว ให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของภาครัฐกำหนด โดยผู้จัดงานต่างๆ จะต้องจัดทำแผนเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อประจำจังหวัด เมื่อแผนได้รับการอนุมัติ ก็จะต้องปฏิบัติให้ได้ตามแผน ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามได้เสนอขออนุมัติ และที่สำคัญขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามาตรการสาธารณสุข ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มีดำริให้มีการจัดบิ๊กครีนนิ่งก่อนที่จะมีการจัดกิจกรรมใหญ่ๆ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาร่วมงานว่าเรามีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยตั้งแต่ช่วงก่อนจัดงานและระหว่างการจัดงานและหลังการจัดงานก็จะมีการทำความสะอาด

“จุรินทร์” ชงคมนาคมลดค่าบริการตู้คอนเทนเนอร์ 6 เดือน

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ไปลงพื้นที่ร่วมกับภาคเอกชนที่ท่าเรือคลองเตย เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนตู้ส่งสินค้าหรือตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชนหรือภาครัฐ หาแนวทางแก้ไข ทำอย่างไรถึงจะมีตู้ส่งสินค้าให้เพียงพอ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เกิดขึ้นทั่วโลกสาเหตุส่วนหนึ่งคือตู้คอนเทนเนอร์ไปตกค้างอยู่ที่สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก เพราะติดเป็นหาโควิดฯ และยังมีจีนและเวียดนามเก็บตู้เปล่า

แต่ก็มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม นายจุรินทร์ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. คือ ได้รับจ้างจากผู้ประกอบการว่าค่าบริการภายในประเทศ หรือ local charge หากการท่าเรือแห่งประเทศไทย สามารถปรับลดค่าบริการในส่วนนี้ได้บ้างจะช่วยลดต้นทุนให้ภาคการขนส่งได้มาก คือ อยากให้การท่าเรือแห่งประเทศปรับลดค่าบริการที่เรียกเก็บจากบริการตู้คอนเทนเนอร์เฉลี่ย 20 ฟุต ที่เรียกเก็บอยู่ที่ 1,000 บาทต่อตู้ หากลดในส่วนนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน ก็จะบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้บ้าง หากผ่านพ้นวิกฤตโควิดฯไปแล้วค่อยกลับมาใช้อัตราเดิม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับไปพิจารณา เพื่อหาแนวทางแก้ไข

ขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินฯ 3 จว. ชายแดนใต้ 3 เดือน

นางสาวรัชดา กล่าวว่า วันนี้ ครม. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อำเภอแม่ลาน อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อำเภอสุไหงโกลก อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2564

รับทราบผลหารือแก้ปัญหากลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ครม. ได้รับทราบผลการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น ตามที่รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเสนอ ซึ่งข้อเสนอของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นประกอบด้วยประเด็นหลักๆ ดังนี้

    1. เสนอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ทุกฉบับ และให้คณะกรรมการผังเมืองและกรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกกระบวนการแก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดสงขลา พ.ศ. 2559 รวมถึงหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เป็นเจ้าของโครงการ ภายใต้โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมฯ จะต้องไม่ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ

    2. เสนอให้จัดให้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในระดับยุทธศาสตร์ (SEA) จังหวัดสงขลา โดยแต่งตั้งคณะทำงาน ที่มีสัดส่วนของภาคประชาชนและนักวิชาการที่เหมาะสม ตามที่ภาคประชาชนเสนอ เพื่อร่วมวางกรอบการศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับยุทธศาสตร์ ซึ่งการคัดเลือกผู้ดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย อีกทั้งกระบวนการตรวจสอบและการให้ความเห็นชอบต่อรายงานการศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและนักวิชาการด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมรับรายงานผลการหารือฯ ดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนโดยด่วน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

ออกกฎกระทรวงบังคับอาคารขนาดใหญ่-โรงแรม ทำประกัน

นางสาวรัชดากล่าวว่า ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิด หรือ ประเภทของอาคาร หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และจำนวนเงินเอาประกันภัย ที่เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ดำเนินการ ต้องจัดให้มีการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และจำนวนเงินเอาประกันภัย ที่เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครอง หรือผู้ดำเนินการ ต้องทำประกันภัย เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน อันเนื่องมาจากการก่อสร้างอาคาร สภาพอาคาร การบำรุงรักษาอาคาร หรือการใช้อาคาร โดยยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดชนิดหรือประเภทของอาคารที่เจ้าของอาคารฯ ต้องทำการประกันภัยฯ พ.ศ. 2548 สาระสำคัญร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่มีดังนี้

    1. กำหนดให้การก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้าย รื้อถอน หรือการใช้อาคารของเอกชน ต้องทำประกันภัยต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งอาคารของเอกชน ได้แก่ (1) อาคารขนาดใหญ่ (2) อาคารขนาดใหญ่พิเศษ (3) อาคารสูงของเอกชน (4) อาคารชุมนุมคน (5)โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมที่มีห้องพักในอาคารหลังเดียวตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป (6) สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป (7) ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดตั้งป้ายที่สูงจากพื้นดินตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป หรือป้ายที่ติดหรือตั้งบนหลังคาหรือดาดฟ้าของอาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป
    2. กำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล ไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาทต่อครั้ง และคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก ไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งการได้รับค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว ไม่เป็นการตัดสิทธิ์ผู้เสียหายที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือกฎหมายอื่น
    3. เมื่อเจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารที่ทำประกันภัยแล้ว จะต้องแสดงสำเนากรมธรรม์ประกันภัยไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ชัดเจนภายในอาคารนั้นด้วย
    4. อาคารที่มีอยู่ก่อนที่กฎกระทรวงบังคับใช้ จะต้องทำประกันภัย โดยยื่นหลักฐานการทำประกันภัยต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้บังคับใช้ และให้ยื่นหลักฐานการทำประกันภัยทุกปีระหว่างการใช้อาคารนั้น ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น

ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฯ จะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 60 วัน

กำหนดลักษณะงานที่ห้ามนำกลับไปทำที่บ้าน

นางสาวรัชดากล่าวว่า ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะหรือประเภทของงาน ที่ห้ามผู้จ้างงานจ้างผู้รับงานไปทำที่บ้านทำงาน พ.ศ. …. เพื่อเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะ หรือ ประเภทงานที่ห้ามผู้จ้างงานจ้างผู้รับงานไปทำที่บ้าน ประกอบด้วย 1. งานเกี่ยวกับความร้อนจัดอันอาจเป็นอันตราย ได้แก่ ลักษณะงานเกี่ยวกับความร้อน ซึ่งทำให้ระดับความร้อนภายในสถานที่ทำงานของผู้รับงานไปทำที่บ้าน เกินค่าเฉลี่ยอุณหภูมิเวตบัลบ์โกลบ 34 องศาเซลเซียส ในเวลาทำงาน 2 ชั่วโมงติดต่อกัน (อุณหภูมิเวตบัลบ์โกลบ (Wet Bulb Globe Temperature: WBGT) เป็นดัชนีวัดสภาพความร้อนในสิ่งแวดล้อมการทำงาน) 2. งานอื่นที่อาจกระทบต่อสุขภาพ ความปลอดภัย หรือคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้แก่ งานที่เกี่ยวกับเลื่อยสายพาน ลักษณะงานที่ก่อให้เกิดเสียงดังที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านสัมผัสระดับเสียงเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงาน 8 ชั่วโมงเกินกว่า 85 เดซิเบล (เอ)

ทั้งนี้ ในลำดับต่อไปจะส่งร่างกฎกระทรวงฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

เห็นชอบร่างความร่วมมือ 21 ประเทศสมาชิก IORA รับมือโควิด19

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ครม. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย (India Ocean Rim Association Council of Ministers – IORA COM) ครั้งที่ 20 จัดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีอาหรับเอมิเรตส์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย มีสมาชิกรวม 22 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บังกลาเทศ โคมอรอส อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน เคนยา มาดากัสการ์ มาเลเซีย มัลดีฟส์ มอริเชียส โมซัมบิก โอมาน เซเชลส์ สิงคโปร์ โซมาเลีย แอฟริกาใต้ ศรีลังกา แทนซาเนีย ไทย อาหรับเอมิเรตส์ และเยเมน

ในการประชุมครั้งนี้ จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์เอมิเรตส์ ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกในการขับเคลื่อนความร่วมมือในภูมิภาค สาระสำคัญที่จะมีการแสดงจตนารมณ์ร่วมกัน เช่น

    1. ความร่วมมือและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการรับมือโรคโควิด-19 และการให้ ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และการสนับสนุนความพยายามของภูมิภาคในการรับมือกับโรคระบาด
    2. จัดตั้งคณะทำงานใหม่ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และจัดตั้งกลุ่มขับเคลื่อนการจัดการด้านประมง
    3. ส่งเสริมสร้างความร่วมมือและประสานงานสำหรับปฏิบัติการด้านการค้นหาและช่วยเหลือในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย
    4. เพิ่มสาขาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ซึ่งเป็นความร่วมมือใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
    5. ส่งเสริมบทบาทสตรีในประเทศรอบมหาสมุทรอินเดีย เพื่อสร้างบริบทที่เหมาะสมกับการส่งเสริมบทบาทสตรีด้านเศรษฐกิจ ทั้งในภาครัฐและเอกชน
    6. สร้างความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียนระหว่างสมาคมฯ กับ ทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ
    7. ร่วมแสดงความยินดีกับฝรั่งเศส ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ลำดับที่ 23 ของสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย

นายกฯ สั่งสอบทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” ตรวจเจอดำเนินคดีถึงที่สุด

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุม ครม. หลังจากได้รับรายงานถึงการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบของโรงแรมที่ได้รับสิทธิในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน และดำเนินการขั้นเด็ดขาด

“ได้มีข้อสั่งการให้ตรวจสอบให้เจอว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้คือใคร เป็นโรงแรมที่ไหน และให้จัดการขั้นเด็ดขาด โดยการฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นแบบอย่างไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในโครงการอื่นๆ ของรัฐบาล”

ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าการกระทำครั้งนี้ น่าจะเป็นการฮั้วกัน ระหว่าง โรงแรม ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ได้รับสิทธิ์ท่องเที่ยว ดังนั้นหากมีหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดจะต้องฟ้องร้องทั้งอาญา และแพ่ง และจะต้องยึดใบอนุญาตประกอบการ และสำคัญที่วุดต้องแบล็คลิสต์ ไม่ให้ร่วมโครงการของรัฐอีกต่อไป

สำหรับการกระทำผิดทุจริตเกี่ยวกับ โครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ จะต้องใช้กฏหมายเกียวกับ การจำนำข้าว กรณี ทุจริตโครงการรัฐหรือไม่ อย่างไรต้องหารือนักกฏหมายก่อน

อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เองได้นัดประชุมด่วนในช่วงบ่ายวันที่ 15 ธันวาคม 2563 กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยว และฝ่ายกฎหมาย เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและแนวทางการจัดการ อย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด

“วิษณุ”เตือน รมต. ไม่ไปเลือกตั้ง อบจ. “พ้นจากตำแหน่ง-ห้ามเล่นการเมือง 2 ปี”

นอกจากนี้ ก่อนการเลิกประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงและย้ำเตือนในที่ประชุมถึงการเลือกตั้งสมาชิกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สภา อบจ.) ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563

“เพราะหากรัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองท่านใดที่มีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันดังกล่าว จะทำให้หลุดพ้นจากตำแหน่งได้ทันที และไม่สมารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้ 2 ปี ดังนั้น อย่าลืมไปเลือกตั้ง อบจ. ในยันที่ 20 ธันวาคมนี้”

เห็นชอบ “วิทยุการบิน” คุมจราจรทางอากาศถาวร

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ครม. เห็นชอบนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศเกี่ยวกับการมอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจทำหน้าที่เป็นหน่วยงานในการให้บริการการจัดการจราจรทางอากาศและบริการการเดินอากาศที่เกี่ยวเนื่องสำหรับการบินพลเรือนของประเทศไทยรวม 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านบริการการจัดการจราจรทางอากาศ ด้านบริการระบบการสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศและระบบติดตามอากาศยาน และด้านบริการการออกแบบวิธีปฏิบัติการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน โดยให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำกับดูแลการให้บริการของ บวท.

ซึ่งที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของ บวท. ในการควบคุมจราจรทางอากาศ การสื่อสารการบิน และการบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติการบินตามความต้องการของผู้ประกอบการขนส่งทางอากาศ และมาตรฐานและข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ให้เป็นไปด้วยความปลอดภัย สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพนั้นไม่มีลักษณะถาวร และต้องดำเนินการต่ออายุ ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2528 และได้ต่ออายุสัญญาจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ประกอบกับเนื้อความในหนังสือสัญญามีความล้าสมัยไม่ตรงตามบริบทในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เพื่อให้ทิศทางแนวทาง และนโยบายการประกอบกิจการจราจรทางอากาศของประเทศไทยมีความชัดเจนและมีเสถียรภาพ สอดคล้องกับนโยบายห้วงอากาศแห่งชาติ และแนวทางสากลในการให้บริการจราจรทางอากาศตามมาตรฐาน ICAO จึงต้องขอความเห็นชอบจาก ครม. ในครั้งนี้ เพื่อให้รัฐบาลมอบหมายงานการให้บริการจราจรทางอากาศให้บวท.เป็นการถาวร และจะทำให้กระบวนการกำกับดูแลมีความครบถ้วนตามแนวทางสากล

ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุปีใหม่-พื้นที่สีแดงไม่ต่ำกว่า 5%

นางสาวไตรศุลีกล่าวว่า ครม. รับทราบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ในชื่อการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้งควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยทหารในพื้นที่และภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชุมชน หมู่บ้าน อาสาสมัครต่างๆ และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด

โดย มีตัวชี้วัดคือ จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงให้เหลือน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง และจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุในระดับจังหวัดและอำเภอเสี่ยงที่เป็นสีแดง ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วงเทศกาลปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง

ส่วนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมี 5 มาตรการประกอบด้วย

  1. มาตรการด้านการบริหารจัดการ เช่น จัดตั้งศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ระดับส่วนกลาง จังหวัด อำเภอ และอปท.
  2. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม เช่น การสำรวจตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ และดำเนินการให้มีความปลอดภัย ส่วนจุดตัดทางรถไฟ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมกับอปท. กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาบริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย เช่น จัดทำป้ายให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสังเกตเห็นได้ชัดเจน
  3. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ เช่น ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับจังหวัด กำกับ ควบคุม ดูแล รถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับรถโดยสาร และพนักงานประจำรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบอย่างเคร่งครัด ให้กระทรวงคมนาคม จังหวัด และ กทม. ขอความร่วมมือกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกหยุดประกอบกิจการหรือหลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในการประกอบกิจการช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดกับรถตู้ส่วนบุคคล หรือรถเช่าของผู้ประกอบการธุรกิจให้มีมาตรฐานด้านความปลอดอภัย
  4. มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เช่น ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ อย่างเข้มข้น
  5. มาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบการติดต่อสื่อสาร การสั่งการและประสานงาน และการเตรียมความพร้อมของหน่วยกู้ชีพและกู้ภัย

กำหนดมาตรการป้องกันลักลอบซื้อ-ขาย ยาเสพติดในเรือนจำ

นางสาวไตรศุลีกล่าวว่า ที่ประชุม ครม. รับทราบมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอ

โดยปัญหาดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเครื่องมือสื่อสาร และจะเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมดูแบความสงบเรียบร้อยภายในเรือนจำกระทำทุจริตเป็นสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจและรับผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ด้วยกันไม่กล้ารายงานเนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นผู้มีตำแหน่งหน้าที่สูงกว่า ดังนั้น ป.ป.ช. จึงเสนอมาตรการ ดังนี้

  1. กรณีผู้ต้องขังเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงิน สามารถติดต่อสั่งการซื้อยาเสพติดได้อย่างอิสระกับเครือข่ายนอกเรือนจำ ให้เรือนจำทั่วประเทศห้ามเจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์สื่อสารใดๆ ในเรือนจำ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกับผู้ให้บริการเครือข่ายในการตรวจจับสัญญาณการโทรออกเป็นรายวัน โดยส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานรัฐบาล เพื่อให้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบและรายงานให้ราชทัณฑ์ทราบ และหากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที
  2. กรณีตรวจพบยาเสพติดในเรือนจำ ให้กรมราชทัณฑ์เปิดเผยผลการตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายให้สาธารณชนได้รับทราบ โดยเปิดเผยผลการดำเนินงานเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลย และให้มีการลักลอบซื้อขายยาเสพติด
  3. กรณีผู้ต้องขังให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ให้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต ทำให้เกิดการซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกาศกำหนดตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้กรมราชทัณฑ์จัดทำแนวทางในการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินคดีอาญาและลงโทษทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิด ต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
  4. กรณีผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงิน สามารถสั่งการให้เครือข่ายค้ายาเสพติดข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมมือทำงานเป็นการถาวร มีการสังเกตการณ์ควบคุมดูแลผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายใหญ่ที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ความมั่นคงสูงสุดเป็นการพิเศษโดยรัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องรวมถึงรับเรื่องร้องทุกข์ที่เกี่ยวข้องโดยให้กรมราชทัณฑ์เป็นเจ้าภาพ และรัฐบาลได้มอบหมายให้รองนายการัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแล

อย่างไรก็ตามเนื่องจากบางกรณีเจ้าหน้าที่อาจถูกบีบบังคับจากผู้มีอิทธิพล เมื่อร้องเรียนตามกระบวนการแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ ให้เจ้าหน้าที่ร้องเรียนต่อชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

ปรับท่าเทีบบเรือเกาะล้านเป็นท่าเทียบเรือลอยน้ำสำเร็จรูป

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ครม. อนุมัติให้เมืองพัทยา เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และเป้าหมายการดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเกาะล้านเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จาก “ท่าเทียบเรือคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมทางขึ้น-ลงเรือ บริเวณท่าเทียบเรือหน้าบ้าน เกาะล้าน” เป็น “การติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำสำเร็จรูปจำนวน 3 แห่ง บนพื้นที่เกาะล้าน เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี”

ทั้งนี้ เนื่อจากในการประชุมการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้มีการพิจารณาแบบแปลนก่อสร้างท่าเทียบเรือที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ออกแบบไว้ โดยแบบแปลนดังกล่าวได้รับคำทักท้วงจากผู้เชี่ยวชาญของกรมเจ้าท่าในประเด็นเรื่องสะพานท่าเทียบเรือเดิมที่จะไม่ทำการทุบโครงสร้างสะพานทิ้งโดยมีลักษณะโครงสร้างที่กีดขวางทิศทางการไหลของกระแสน้ำ ซึ่งขัดต่อกฎกระทรวง เป็นผลให้เมืองพัทยาต้องปรับปรุงแก้ไขแบบแปลนให้ถูกต้องก่อนยื่นขออนุมัติรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประกอบกับสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้เมืองพัทยาไม่สามารถดำเนินการปรับปรุงท่าเรือหน้าบ้านได้และหากรอให้โครงการได้รับความเห็นชอบรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็จะทำให้ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันสิ้นปีงบประมาณ 2563

ดังนั้นเมืองพัทยาจึงได้พิจารณาโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนลำดับรองลงมาที่จะต้องดำเนินการรวม 3 โครงการ ซึ่งอยู่ภายใต้แผนงานและผลผลิตของโครงการเดิม วงเงิน 127.50 ล้านบาทดังนี้ 1. ก่อสร้างท่าเทียบเรือโดยสารปรับระดับบริเวณท่าเทียบเรือหน้าบ้านแบบติดตั้งทุ่นลอยน้ำ ใช้งบประมาณ 38.02 ล้านบาท 2. ปรับปรุงสะพานของศูนย์แพทย์ชุมชนบ้านเกาะล้านแบบติดตั้งท่าเรือลอยน้ำ ใช้งบประมาณ 41.48 ล้านบาท และ 3. ปรับปรุงท่าเทียบเรือปรับระดับหาดแสมแบบติดตั้งทุ่นลอยน้ำใช้งบประมาณ 48 ล้านบาท

ตั้ง “อภิรัฐ” นั่งอธิบดีกรมท่าอากาศยาน – “กิตติพันธ์” คุมกรมรางฯ

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง หลายตำแหน่ง อาทิ

  1. ครม. มีมติอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายศรายุทธ ทองกูล ที่ปรึกษาด้านข่าวกรองความมั่นคงและสถาบันหลัก (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหารสูง) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
  2. ครม. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
  3. ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 5 ราย ดังนี้
    • นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดี (นักบริหารระดับต้น) กรมเจ้าท่า ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    • นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดี (นักบริหารระดับต้น) กรมการขนส่งทางบก ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    • นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รองอธิบดี (นักบริหารระดับต้น) กรมทางหลวง ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมท่าอากาศยาน
    • นายปัญญา ชูพานิช รองผู้อำนวยการ (นักบริหารระดับต้น) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
    • นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ รองอธิบดี (นักบริหารระดับต้น) กรมทางหลวง ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมการขนส่งทางราง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

  1. ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน 3 ราย ดังนี้
    • นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ณ นครเจนีวา สำนักงานปลัดกระทรวง
    • นางสาวสุนันทา กังวานกุลกิจ เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ณ นครเจนีวา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
    • นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

  1. ครม. มีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าว ครบ 4 ปี ในวันที่ 25 มกราคม 2564 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 25 มกราคม 2565

อ่านมติ ครม. ประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2563เพิ่มเติม