ThaiPublica > เกาะกระแส > สทบ. จัด “ผลไม้ปราจีนบุรี แลก ข้าวหอมมะลิหนองคาย” หนุนกทบ.ค้าขายกันเอง

สทบ. จัด “ผลไม้ปราจีนบุรี แลก ข้าวหอมมะลิหนองคาย” หนุนกทบ.ค้าขายกันเอง

20 พฤษภาคม 2020


เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดโครงการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ณ ร้านค้าประชารัฐบ้านหนองขวาก หมู่ที่ 7 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

สทบ. จัด “ผลไม้ปราจีนบุรี แลก ข้าวหอมมะลิหนองคาย” หนุนเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านค้าขายกันเอง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ

นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (สทบ.) กล่าวว่า ตามที่ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ได้มอบนโยบาย ให้สทบ.เน้นการเสริมสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ โดยพยายามรณรงค์ให้เกิดกิจกรรมการซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกองทุนหมู่บ้านและชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เช่น โครงการแลกเปลี่ยนข้าวสารของจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับอาหารทะเลของจังหวัดสมุทรสาคร หรือ โครงการแลกเปลี่ยนข้าวหอมมะลิของจังหวัดหนองคายกับอาหารทะเลของจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดชุมพร และในวันนี้ คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านจังหวัดหนองคายได้นำข้าวหอมมะลิมูลค่า 50,000 บาท มาแลกเปลี่ยนกับผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ทุเรียน มังคุด กะท้อน หน่อไม้ ของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านหนองขวาก หมู่ที่ 7 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เพื่อบรรเทาปัญหาผลไม้ล้นตลาด

  • กองทุนหมู่บ้านฯจัดข้าวหอมมะลิหนองคาย แลกอาหารทะเลเมืองเพชร-ชุมพร
  • กองทุนหมู่บ้านฯปั้นแบรนด์ “ข้าว เท่ เท่ จาก กทบ.” เพิ่มรายได้เศรษฐกิจฐานราก
  • “หาก สทบ.รณรงค์ให้เกิดกิจกรรมการซื้อ – ขาย แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศได้สำเร็จ ต่อไปสมาชิกกองทุนหมู่บ้านก็จะเจรจาสั่งซื้อสินค้ากันเองผ่านทางออนไลน์ หรือ โทรศัพท์ โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้กับกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 79,000 แห่ง พร้อมสมาชิกอีก 12.9 ล้านครัวเรือนแล้ว ยังจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศที่สำคัญ หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตโควิด – 19 ผมจะพยายามรณรงค์ให้เกิดกิจกรรมดังกล่าวให้มากกว่านี้” นายรักษ์พงษ์ กล่าว

    ด้านนายทิวา วรวิทย์วัฒนะ ประธานกองทุนหมู่บ้านหนองขวาก กล่าวว่า หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อสมาชิกกองทุนฯ หลายครัวเรือนมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกษตรลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลิตผลทางการเกษตร เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ฯลฯ เพื่อมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาสินค้าล้นตลาด ทาง สทบ.จึงเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรม “ผลไม้ปราจีนบุรี แลก ข้าวหอมมะลิหนองคาย” ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดีมาก เปรียบเสมือน “เพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง” เพราะนอกจากจะส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกองทุนฯกันเองแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านด้วย

    นายทิวา วรวิทย์วัฒนะ ประธานกองทุนหมู่บ้านหนองขวาก

    “สำหรับกองทุนหมู่บ้านหนองขวากจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2544 ด้วยทุนประเดิม 1 ล้านบาท มีคณะกรรมการกองทุน 15 คน สมาชิก 114 คน มีทุนหมุนเวียนบัญชีที่ 1 จำนวน 2,415,000 บาท และเงินทุนหมุนเวียนบัญชีที่ 2 จำนวน 1,768,000 บาท ต่อมาในปี 2559 กองทุนหมู่บ้านหนองขวาก ได้รับจัดสรรงบประมาณ 1 ล้านบาทจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อดำเนินโครงการร้านค้าประชารัฐบ้านหนองขวาก ผลประกอบการมีรายได้เฉลี่ย 200,000 บาทต่อเดือน รายได้สุทธิ 2,000,000 บาทต่อปี และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 กองทุนหมู่บ้านหนองขวากได้รับการจัดสรรงบประมาณจากโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีก 200,000 บาท ที่ประชุมสมาชิกกองทุนฯ มีมติให้ดำเนินการต่อยอดโครงการเดิม” นายทิวา กล่าวว่า