สทบ. โชว์ต้นแบบกองทุนหมู่บ้านฯ ผลิตข้าวถุงภายใต้แบรนด์ “ข้าว เท่ เท่ จาก กทบ.” ซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกองทุนฯทั่วประเทศ เพิ่มรายได้เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า นโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เป็นนโยบายสำคัญของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ที่เน้นการเสริมสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ ซึ่งจะส่งผลไปถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในประเทศ ทั้งนี้ สทบ.ได้เร่งดำเนินการภายใต้นโยบายดังกล่าว จึงได้เกิด “โครงการร่วมมือ เพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน” ณ กองทุนชุมชนเมือง หมู่ที่ 1 แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ที่ได้รวมกลุ่มและจัดตั้งโรงสีข้าว เพื่อรับซื้อข้าวเปลือกจากสมาชิกกองทุนฯ นำมาบรรจุถุงพร้อมจำหน่าย โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างแบรนด์สินค้าชุมชนภายใต้ยี่ห้อ “ข้าว เท่ เท่ จาก กทบ.” โดยนำข้าวสารมาแปรรูปเป็นข้าวถุง ซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนสินค้าของกองทุนหมู่บ้านอื่น ๆทั่วประเทศ อันเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เดินทางมารับซื้อข้าวสารจำนวน 500 ถุง เพื่อสนับสนุนสินค้ากองทุนหมู่บ้านฯ ให้เกิดรายได้เข้าสู่ชุมชน โดยกองทุนหมู่บ้านแห่งนี้ ถือเป็น “ชุมชนต้นแบบ” ที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอื่น ๆ ควรนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไป
ด้านนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์มี “โครงการธนารักษ์ประชารัฐ” และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการมาร่วม “โครงการเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน” กับ สทบ.ในครั้งนี้ ก็จะเป็นความเชื่อมโยงของโครงการที่มีประชาชนจากชุมชนในพื้นที่เป็นเป้าหมายที่สำคัญ อีกทั้งยังจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เปิดโอกาสให้กับประชาชนได้จำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในท้องถิ่น อันเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
“กรมธนารักษ์จะนำข้าวสารบรรจุถุงที่ซื้อจากกองทุนหมู่บ้านฯ ไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่เช่าพื้นที่ของที่ราชพัสดุ ในเขตกรุงเทพฯ รวม 3 ชุมชน โดยจะมอบไปพร้อมกับอาหารแห้งและของใช้จำเป็นอื่นๆ ต่อไป” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าว.
นายวิวัฒน์ นุ่มกำเนิด ประธานคณะกรรมการกองทุนชุมชนเมือง หมู่ที่ 1 แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าในกรุงเทพมหานคร อย่างเขตมีนบุรี หนองจอก จะมีเกษตรกรปลูกข้าวถึง 800 ไร่ เดิมทีบริเวณนี้ไม่มีโรงสีข้าว พอถึงช่วงเก็บเกี่ยวข้าวก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อข้าวของเกษตรกร ต่อมากองทุนชุมชนเมืองแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร จัดงบอุดหนุนภายใต้ “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ซื้อเครื่องสีข้าวมาให้สำนักงานกองทุนฯ เพื่อเปิดบริการสีข้าวแก่เกษตรกรฟรี แต่ต้องขอปลายข้าว รำ และแกลบ เป็นค่าบริหารจัดการภายในสำนักงานฯ ที่ผ่านมาก็จะมีเกษตรกรมาซื้อเพื่อนำไปใช้เป็นอาหารหมู หรือ เลี้ยงปลา นอกจากนี้ทางกองทุนชุมชนเมืองแห่งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านฯ ในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ (Packaging) รวมทั้งช่วยประสานงานด้านการจัดจำหน่ายข้าวสารให้กับกองทุนฯด้วย สำหรับข้าวสารของที่นี่ถ้าซีลศูนย์ญากาศแพ็กละ 1 กิโลกรัม ขาย 40 บาท แต่ถ้าไม่ซีลศูนย์ญากาศขายกิโลกรัมละ 35 บาท ซึ่งในวันนี้กรมธนารักษ์ก็มาซื้อข้าวสารจากที่นี่ไป 500 ถุง