ThaiPublica > เกาะกระแส > ASEAN Roundup สิงคโปร์เผยยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ พลิกโฉมประเทศปี 2030 กัมพูชาเตรียมห้ามพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ASEAN Roundup สิงคโปร์เผยยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ พลิกโฉมประเทศปี 2030 กัมพูชาเตรียมห้ามพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง

17 พฤศจิกายน 2019


ASEAN Roundup ประจำวันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2562

  • สิงคโปร์เผยยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ พลิกโฉมประเทศปี 2030
  • กัมพูชาเตรียมห้ามนำเข้า ผลิตพลาสติกใช้ครั้งเดียว
  • ลาวลดเป้าหมายผลผลิตข้าวเหลือ 3.5 ล้านตัน
  • มาเลเซียประชากร 32.63 ล้านคนไตรมาส 3

สิงคโปร์เผยยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ พลิกโฉมประเทศปี 2030

สิงคโปร์เผยแผนยุทธศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) แห่งชาติที่จะมีผลให้พลิกโฉมประเทศภายในปี 2030 จากการประกาศเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ของนาย เฮง สวี เคียต รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยกล่าวว่ายุทธศาสตร์ AI จะประกอบด้วยแผนการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยี AI

ยุทธศาสตร์ชาติด้าน AI ของสิงคโปร์ประกอบด้วยแผน 5 ด้านในช่วงเริ่มต้น ได้แก่ ด้านโลจิสติกส์ ด้านเฮลท์แคร์ ด้านความมั่นคงชายแดน ด้านบริหารที่อยู่อาศัยและด้านการจัดการการศึกษา ซึ่งทั้ง 5 ด้านนี้จะมีผลต่อสังคมและเศรษฐกิจ

สำนักงานสมาร์ทเนชั่นและรัฐบาลดิจิทัล (Smart Nation and Digital Government Office – SNDGO) เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า โครงการ AI นี้มีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจสิงคโปร์และยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมือง โดยจะเน้นไปที่การส่งมอบผลประโยชน์ที่จับต้องได้ให้กับประชาชนและภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยี AI

โครงการ AI จะวางแนวทางในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และสิงคโปร์จะเดินหน้าพิจารณาโครงการ AI อื่นที่สามารถสร้างผลการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อเนื่อง

สำหรับแผนงานใน 5 ด้านภายใต้ยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติประกอบด้วย
1) การวางแผนการขนส่งอัจฉริยะ จะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลทั่วไปขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจัดส่งผ่านการกำหนดเส้นทางอัจฉริยะและการกำหนดตารางเวลาของรถบรรทุก AI จะช่วยให้สามารถรวบรวมงานและมอบหมายงานแบบไดนามิกเพื่อเพิ่มผลผลิตและการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ นอกจากนี้การวางแผนการขนส่งในท่าเรือจะได้รับการปรับให้เหมาะสมผ่านแอปพลิเคชัน AI ซึ่งจะขยายไปสู่การดำเนินงานด้านการขนส่งทางอากาศและทางบกภายในปี 2030

2) ด้านการบริหารที่อยู่อาศัย SNDGO ระบุว่า การรายงานปัญหาของเทศบาลเป็นกระบวนการที่น่าเบื่อและใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาและอาจส่งผลกระทบมากกว่า 1 ล้านกรณีในแต่ละปี เพื่อแก้ไขประเด็นเหล่านี้จะมีการเปิดตัว AI chatbot ในปี 2022 เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้อยู่อาศัยเมื่อพวกเขารายงานปัญหา เช่น แจ้งหน่วยงานที่ถูกต้องเพื่อให้พวกเขารายงานปัญหา และแจ้งให้พวกเขาทราบรายละเอียดของคดีในทันที

ภายในปี 2025 ข้อมูลจะถูกรวบรวมและวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรอบการบำรุงรักษาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนช่วยหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาที่ประเมินไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น ใช้ในการทำนายลิฟต์เสีย

ภายในปี พ.ศ. 2030 ข้อมูลนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกสำหรับการวางแผนที่ดินและที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น ดังนั้นจะมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าเดิมและตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย

3) การประเมินและการจัดการโรคเรื้อรัง โปรแกรม AI สำหรับดวงตา (Singapore Eye Lesion Analyzer Plus – SELENA+) จะเปิดตัวในปี 2022 ใช้ในการสแกนและวิเคราะห์ภาพถ่ายจอประสาทตาเพื่อระบุสัญญาณของโรคตาเบาหวาน

SELENA+ เป็นระบบการเรียนรู้แบบเจาะลึก SNDGO อ้างว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคนได้ถึง 70% ซึ่งจะช่วยให้มีเวลามากขึ้นที่จะทุ่มเทให้กับผู้ป่วยกรณีซับซ้อนมากขึ้น

โปรแกรม AI ยังสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาแบบจำลองการประเมินความเสี่ยงเชิงทำนายสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากนี้เทคโนโลยี AI สามารถใช้ในการสร้างคะแนนความเสี่ยงส่วนบุคคลสำหรับโรคเรื้อรัง ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลทางคลินิก ภาพทางการแพทย์ และข้อมูลทางพันธุศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้แต่ละคนสามารถใช้มาตรการป้องกัน และมีการแทรกแซงที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ

4) การจัดการศึกษาแบบรายบุคคล ในปี 2020 ระบบการทำเครื่องหมายคะแนนอัตโนมัติสำหรับภาษาอังกฤษจะเปิดตัวในโรงเรียนนำร่องที่ผ่านการคัดเลือกทั้งระบบประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ระบบนี้จะประเมินผลการตอบสนองต่อคำถามแบบสั้นและการเขียนบทความ และสรุปผลการวัดผลงานของนักเรียนอย่างรวดเร็ว โครงการนี้จะขยายไปยังเป้าหมายอื่นต่อไปในปี 2030

ภายในปี 2025 ระบบการเรียนแบบปรับตัวและระบบการเรียนรู้แบบใหม่ (learning companion) จะเปิดตัวเพื่อรองรับความต้องการและความสามารถที่แตกต่างกันของนักเรียนแต่ละคน ระบบนี้จะใช้เทคโนโลยี machine learning เพื่อที่จะวัดการตอบสนองกับสื่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนแต่ละคน เพื่อที่จะให้คำแนะนำแนวทางที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน

ระบบ AI learning companion ยังช่วยให้นักเรียนตอบสนองกับประสบการณ์การเรียนและแนะนำกิจการการเรียนอื่นๆ ที่เหมาะสม

5) ระบบพิธีการผ่านแดน ระบบตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งมีการสแกนใบหน้าและม่านตา จะนำมาใช้กับนักเดินทางทั้งในและต่างประเทศในปี 2025 กระบวนการนี้จะลดความผิดพลาดที่เกิดจากคนลง และช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ประจำทำงานเคาน์เตอร์สามารถมุ่งไปที่งานสำคัญอื่นได้ เช่น มุ่งไปที่ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด

กัมพูชาเตรียมห้ามนำเข้าพลาสติกใช้ครั้งเดียว


กัมพูชาเตรียมที่จะห้ามนำเข้าและผลิตพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง โดยนายเนธ เพียกตรา โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชา เปิดเผยว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมกำลังจัดทำร่างหนังสือเวียนห้ามการนำเข้าและการผลิตพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากขยะพลาสติกในประเทศ

พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น หลอดดูด ช้อน และแก้วน้ำ จะต้องแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมให้ประชนใช้หลอดไม้ไผ่ หลอดกระดาษ หรือหลอดโลหะ แทนหลอดพลาสติก

กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งวิ่งแวดล้อม Trash Youth กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลจะช่วยลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก และยกระดับการใช้ชีวิตของครัวเรือน และเอื้อให้มีการผลิตหลอดดูดที่มาจากวัสดุอื่นที่ไม่ใช่พลาสติก เช่น กระดาษหรือไม้ไผ่

ปัจจุบันเมืองใหญ่ๆ ของกัมพูชากำลังมีปัญหามลพิษขยะพลาสติก โดยเฉลี่ย ผู้คนในเมืองใช้ถุงพลาสติก 2,000 ใบต่อคนในแต่ละปี

ลาวลดเป้าหมายผลผลิตข้าวเหลือ 3.5 ล้านตัน

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ปรับลดเป้าหมายผลผลิตข้าวปี 2019 ลง เนื่องจากประสบกับภาวะน้ำท่วมและการขาดแคลนน้ำ โดย ดร.เลียน ทิแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ เปิดเผยว่า จำเป็นต้องลดเป้าหมายการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวของปีลง เพราะภัยน้ำท่วมรุนแรงในวงกว้างที่เกิดขึ้นในปีนี้และปีที่แล้ว ขณะเดียวกันในเขตภาคเหนือประสบกับภัยแล้ง

ดร.เลียน ทิแก้ว ชี้แจงต่อการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 8 ในนครเวียงจันทน์ซึ่งจะมีขึ้นไปจนถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2562

“เป้าหมายที่จะผลิตข้าวให้ได้ 4.4 ล้านตัน มาจากแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ที่จัดทำบนพื้นฐานสถานการณ์ปกติ แต่โชคไม่ดีที่ในช่วง 2 ปีนี้ เราประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนัก” ดร.เลียนกล่าว

น้ำท่วมหนักสร้างความเสียหายในวงกว้างให้กับพื้นที่ปลูกข้าวหลัก ทำให้ไม่สามารถผลิตข้าวได้ตามเป้าหมายที่แผนพัฒนาฯ วางไว้ได้

เป้าหมายการผลิตข่าวในปีนี้จึงลดลงจาก 4.4 ล้านตัน เป็น 3.5 ล้านตัน ซึ่งที่ประชุมสภาแห่งชาติได้ตั้งคำถามว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะเกรงว่าผลผลิตข้าวที่น้อยลงจะส่งผลให้ราคาข้าวซึ่งเป็นสินค้าบริโภคที่จำเป็นของประชาชนสูงขึ้น

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติมีข้อมูลบ่งชี้ว่าราคาข้าวได้เพิ่มขึ้น 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

ส่วนการดำเนินการเพื่อจัดหาน้ำให้เกษตรนั้น ดร.เลียนกล่าวว่า กระทรวงได้ของบจำนวน 84 ล้านกีบจากรัฐบาลเป็นกองทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมระบบชลประทานที่เสียหายทั่วประเทศ รวมทั้งสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเกษตรกรรมบางส่วน นอกจากนี้ กระทรวงได้ส่งเสริมให้เกษตรหันมาปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน เพราะอาจจะประสบกับภัยแล้งรุนแรงในปีนี้

ที่ประชุมยังสอบถามเรื่องการร่วมมือกับภาคส่วนอื่นในการส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรในตลาดโลก ซึ่ง ดร.เลียนกล่าวว่า กระทรวงและพันธมิตรต่างประเทศได้ร่วมกันกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรบางประเภท เพื่อใช้อ้างอิงในการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรก่อนส่งออกไปยังจีน ซึ่งหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการส่งออกไปจีนได้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้

ดร.เลียนกล่าวว่า เพื่อส่งเสริมธุรกิจการเกษตรให้มากขึ้น ต้องนำมาตรการสิทธิประโยชน์จูงใจ เช่น เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ การรับประกันราคา มาใช้เพื่อให้เกษตรปลูกพืชเพื่อการค้ามากขึ้น

มาเลเซียประชากร 32.63 ล้านคนไตรมาส 3

สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซียเปิดเผยว่า จำนวนประชากรสิ้นไตรมาส 3 ปีนี้เพิ่มขึ้น 0.06% เป็น 32.63 ล้านคน โดยที่ประชากรในวัย 65 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

ดาโต๊ะ ศรี ดร.โมฮัมหมัด อูซีร์ มาฮิดิน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติมาเลเซีย เปิดเผยว่า ในจำนวนประชากร 32.63 ล้านคนนั้น จำนวน 29.84 ล้านคนหรือ 90.3% เป็นพลเมืองมาเลเซีย อีก 23.18% ไม่ใช่พลเมืองมาเลเซีย

จำนวนประชากรชายเพิ่มขึ้นจาก 16.74 ล้านคนงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 16.85 ล้านคน ส่วนประชากรหญิงเพิ่มจาก 15.69 ล้านคนเป็น 15.78 ล้านคน อัตราส่วนประชากรชายต่อประชากรหญิงยังคงอยู่ที่ 107 ต่อ 100

รัฐเซลังงอร์ยังเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด ด้วยจำนวนประชากร 6.54 ล้านคน ขณะที่ลาบวนมีประชากรน้อยที่สุดเพียง 99,400 คน

ประชากรในวัย 0-1 ปีลดลงเล็กน้อย แต่จำนวนประชากรในวัยทำงานอายุ 15-24 ปีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 22.64 ล้านคนเป็น 22.85 ล้านคน นอกจากนี้สัดส่วนประชากรในวัย 0-14 ปีลดลงจาก 7.68 ล้านคนเป็น 7.57 ล้านคน ขณะที่ประชาชนในวัย 65 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่า จาก 2.12 ล้านคนเป็น 2.21 ล้านคน ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วที่เข้าสู่สังคมสูงวัย

ในไตรมาสสามมีเด็กเกิดใหม่จำนวน 124,150 คน ลดลง 3% จากระยะเดียวกันของปีก่อน เป็นเด็กชาย 64,028 คนเด็กหญิง 60,122 คน

ที่มาภาพ: https://www.dosm.gov.my