เมื่อวาน (วันที่ 31 พฤษภาคม 2562) เป็นวันประกาศผลการแข่งขันว่าใครจะให้ผลประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ จากการให้สัมปทานธุรกิจดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะเวลา 10 ปี การคาดหวังครั้งนี้หมายถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้นหลายแสนล้านบาท ที่ประเทศจะนำมาใช้เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทย จากธุรกิจท่องเที่ยวและการให้บริการนักเดินทาง ที่มีประมาณ 35 ล้านคนต่อปี (ตัวเลข ณ ปี 2560)
แต่การประมูลครั้งนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” กลับกำหนดเงื่อนไขการประมูลโดยให้น้ำหนักด้านเทคนิค 80% ขณะที่ผลตอบแทนให้รัฐหรือซองราคาแค่ 20% เท่านั้น พร้อมระบุว่าหากผู้ประมูลรายใดให้ผลตอบแทนแก่รัฐสูงสุดก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ชนะการประมูล ต้องให้คณะกรรมการ ทอท.ชี้ขาดเท่านั้น และการประมูลครั้งนี้เป็นการประมูลแบบ “international bidding”
ที่ผ่านมา “คิงเพาเวอร์” ซึ่งเป็นผู้ได้สัมปทานดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงสุดท้ายให้ผลแทนรัฐ 20% ของรายได้จากยอดขายดิวตี้ฟรีเท่านั้น หากเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนแก่รัฐประมาณ 30-40%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ทอท.” นัดผู้ยื่นซองประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 กลุ่ม อันได้แก่ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด, กลุ่มกิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี และ กลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรี รอยัล ออคิด มาเปิดซองเสนอราคา พร้อมประกาศผลคะแนนสูงสุด ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท. ชั้น 7 อาคารสำนักงานใหญ่ ดอนเมือง
บรรยากาศในช่วงเช้าของวันนั้นมีตัวแทนจากกลุ่มผู้ยื่นซองเสนอราคาทั้ง 3 กลุ่ม ทยอยแลกบัตร เพื่อขึ้นไปฟังผลการให้คะแนนที่ห้องประชุมชั้น 7 โดยมีผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศจากหลายสำนัก มารอทำข่าว บริเวณห้องโถงชั้นล่าง อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท.
“ดูฟรี-รอยัล ออคิด” คาใจ เตรียมขอดูผลคะแนนแยกรายหัวข้อ
เวลาประมาณ 10.00 น. กลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรี รอยัล ออคิด และกลุ่มกิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี เดินออกมาจากลิฟต์ ยกเว้นตัวแทนจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ผู้สื่อข่าวจึงเดินเข้าไปสอบถามนายวิทวัส วิภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แกนนำกลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรี รอยัล ออคิด โดยนายวิทวัสกล่าวว่า หลังจากที่ฟังเจ้าหน้าที่ ทอท.อ่านผลการให้คะแนนเต็ม 100 คะแนน บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ได้รับคะแนนสูงสุด อันดับ 1 กว่า 90 คะแนน อันดับ 2 กลุ่มกิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี ได้คะแนนกว่า 80 ส่วนกลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรีฯ ได้คะแนนรวม 70 คะแนนเท่านั้น
นายวิทวัส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ตนรู้สึกเสียใจ เมื่อทราบผลการให้คะแนนของเจ้าหน้าที่ ทอท. และ เสียดายเราไม่ได้เป็นผู้ชนะการประมูลครั้งนี้ จึงไม่มีโอกาสได้นำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับประเทศไทย และ ทอท. โดยกลุ่มโรงแรมรอยัล ออคิดฯ ได้ไปชักชวนบริษัท ดิวตี้ฟรียักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลก เข้ามาเป็นพันธมิตรในการประมูลงานครั้งนี้ ส่วนรายละเอียดของผลการให้คะแนน วันนี้ ทอท.แจงให้ทราบเฉพาะผลคะแนนรวม ยังไม่ได้แจกแจงรายละเอียดการให้คะแนนตามหัวข้อ ทราบแต่ว่าผู้ประมูลได้คะแนนรวมเท่าไหร่ ซึ่งกลุ่มโรงแรมรอยัล ออคิดฯ คงต้องกลับไปหารือกับพันธมิตรก่อนที่จะทำหนังสือถึง ทอท. เพื่อขอดูผลการให้คะแนนอย่างละเอียด โดยเร็วที่สุด”
ไม่แจ้งราคา-คะแนนเทคนิคแต่ละรายการของผู้ประมูลแต่ละราย
แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัทที่เข้าร่วมประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีรายหนึ่ง กล่าวถึงบรรยากาศของการเปิดซองในห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท. ว่าหลังเจ้าหน้าที่ ทอท.เปิดซองเทคนิคและซองราคาของทุกรายแล้ว จากนั้นก็ประกาศผลคะแนนรวมให้ผู้ประมูลทุกรายรับทราบว่า แต่ละรายได้คะแนนรวมเท่าใด แต่ไม่ได้ประกาศแยกรายละเอียดคะแนนด้านเทคนิค และผลประโยชน์ตอบแทนที่ผู้ประมูลแต่ละรายเสนอให้กับ ทอท.เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
จากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ ทอท.ได้แจ้งต่อผู้ประมูลว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ได้คะแนนรวมสูงสุด พร้อมกับเชิญตัวแทนผู้ประมูล 2 ราย ที่ได้คะแนนอันดับ 2 และ 3 ออกจากห้องประชุม เพื่อเจรจาต่อรองราคากับ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ที่ได้คะแนนสูงสุด
ตามหลักการประมูลที่มีความโปร่งใสนั้น หลังประกาศผลคะแนนด้านเทคนิค เมื่อเปิดซองราคา เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ประมูลที่เข้าร่วมประมูลทราบว่า แต่ละรายเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท.เท่าไหร่
เป็นเหตุให้ผู้ประมูลเกิดข้อสงสัยและน่าจะมีการยื่นหนังสือขอให้ ทอท.เปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลของทุกรายให้สาธารณะชนได้ทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
แจ้ง “คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี” ให้ผลตอบแทนสูงกว่าทอท.เคยได้รับ
หลังจากผู้ประมูลเดินทางกลับไปแล้ว นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ทอท. ได้ลงมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ ทอท.ได้เปิดซองเสนอค่าตอบแทน และประกาศผลคะแนนสูงสุด ซึ่งเป็นผลรวมของคะแนนทางด้านเทคนิคและราคา โดย บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ประมูลที่ได้คะแนนสูงสุด เสนอผลตอบแทนให้กับ ทอท.สูงกว่าที่ ทอท.เคยได้รับ และสูงกว่าที่ ทอท.คาดหมาย แต่ยังไม่สามารถเปิดผลการให้คะแนนได้ในขณะนี้ เพราะต้องนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณารายได้ที่มีนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท เป็นประธานคณะกรรมการฯ พิจารณาอนุมัติในวันที่ 12 มิถุนายน 2562 และเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. (บอร์ดทอท.) ในวันที่ 19 มิถุนายน 2562 ผ่านความเห็นชอบก่อน จากนั้น ทอท.จะนำเสนอสื่อมวลชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทอท.ได้เจรจาต่อรองราคากับบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ จบแล้วหรือยัง นายวิชัยตอบว่า ล่าสุดเจรจาต่อรองราคากับจบแล้วครับ จากนี้ต่อไปไม่ต้องคุยกันเรื่องราคาแล้ว เพราะเจรจาต่อรองกันแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการพิจารณาผลการให้คะแนน จะต้องนำผลการเจรจาต่อรองเข้าที่ประชุมบอร์ด ทอท.ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ด้วย
ถามว่าการให้คะแนนมีหลักเกณฑ์อย่างไร นายวิชัยกล่าวว่า ตาม TOR ได้กำหนดสัดส่วนการให้คะแนนทางด้านเทคนิคมีน้ำหนักอยู่ที่ 80% และข้อเสนอด้านราคาให้น้ำหนัก 20% สำหรับการประเมินผลตอบแทนทางด้านราคา TOR กำหนดให้ผู้ประมูลต้องเสนอผลตอบแทนไม่น้อยกว่าที่ ทอท.เคยได้รับอยู่เดิม ทั้งในส่วนของการเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปี และเสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งปัจจุบัน ทอท.ได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปีจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีอยู่ 20% ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย ข้อเสนอด้านราคาเมื่อรวมกับผลคะแนนทางด้านเทคนิคแล้ว ทำให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ได้รับคะแนนรวมสูงสุดในการประมูลครั้งนี้
ขณะที่แหล่งข่าวจากระดับสูงจาก ทอท. เปิดเผยคะแนนประมูลสิทธิในสัมปทานดิวตี้ฟรี ว่า อันดับ 1 คือ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ได้คะแนนรวม 94 คะแนน (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) อันดับ 2 กลุ่มกิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี ได้คะแนนรวม 83 คะแนน และอันดับ 3 กลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรี รอยัล ออคิด ได้คะแนนรวม 78 คะแนน ส่วนการประมูลสิทธิในสัมปทานบริการจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ อันดับ 1 คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ได้คะแนนรวม 95 คะแนน (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) อันดับ 2 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ได้คะแนนรวม 80 คะแนน
“คิง เพาเวอร์” ชนะ “เซ็นทรัล” คว้าสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ สุวรรณภูมิ
ช่วงเวลา 15.30 น. นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. แถลงถึงผลการเปิดซองเสนอราคา และประกาศผลคะแนนสูงสุด ของผู้ยื่นซองประมูลสิทธิในการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุด คือ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เป็นผู้ชนะเสนอผลตอบแทนสูงกว่า ที่ทอท.เคยได้รับอยู่เดิม และสูงกว่าที่ทอท.คาดหมาย ส่วนบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 ทั้งนี้ ทอท.จะนำผลการคัดเลือกเสนอคณะกรรมการพิจารณารายได้ในวันที่ 12 มิถุนายน 2562 และบอร์ด ทอท.ในวันที่ 19 มิถุนายน 2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติ และแถลงรายละเอียดต่อสื่อมวลชนต่อไป
อนึ่ง การประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีที่สนามบินสุวรรณภูมิรอบนี้ เป็นที่จับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีบริษัท ดิวตี้ฟรียักษ์ใหญ่ของโลก 2 ราย เข้าประมูลงานแข่งกับบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีอันดับหนึ่งใหญ่ของเมืองไทยด้วย คือ กลุ่มแรก คือ “กลุ่มกิจการร่วมค้า ดูฟรี รอยัล ออคิด” (Dufry ROH) ที่มีโรงแรมรอยัล ออคิดฯ เป็นแกนนำ พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจอย่างบริษัท เอ็มไพร์ เอเชีย และ เวิลด์ ดิวตี้ฟรี กรุ๊ป (WDFG UK) บริษัทในเครือดูฟรี (Dufry) ซึ่งเป็นบริษัทดิวตี้ฟรียักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลก มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจด้านนี้มานานกว่า 60 ปี มีเครือข่ายร้านค้าปลอดอากรกว่า 2,200 แห่ง กระจายอยู่ตามสนามบินต่างๆ 292 แห่ง ใน 64 ประเทศทั่วโลก ปี 2560 “ดูฟรี กรุ๊ป” มีรายได้จากการขายสินค้าปลอดอากร 8,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 267,000 ล้านบาท มีมาตรฐานการจัดการที่ทันสมัย เรียลไทม์ ขณะที่บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย มีรายได้ 35,600 ล้านบาท ส่วนบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีรายได้จากการทำธุรกิจดิวตี้ฟรีในเมือง 56,000 ล้านบาท เทียบขนาดกันแล้ว ดูฟรี กรุ๊ป มีขนาดใหญ่กว่าคิง เพาเวอร์ เกือบ 3 เท่า
กลุ่มนี้นอกจากจะเสนองานทางด้านเทคนิค และเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงินให้กับทอท.แล้ว ยังนำเสนอแผนงานโปรโมทการท่องเที่ยวของไทย และช่วยสนับสนุนสินค้า OTOP ที่มีมาตรฐานไปวางขายผ่านร้านค้าปลอดอากรในเครือข่ายร้านค้าของดูฟรีกว่า 2,200 แห่งใน 64 ประเทศทั่วโลกด้วย
กลุ่มที่ 2 กลุ่มกิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี มี นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของสายการบิน “บางกอกแอร์เวย์” เป็นแกนนำ จับมือกับบริษัท ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี ประเทศเกาหลีใต้ บริษัท ดิวตี้ฟรียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่มียอดขายเป็นอันดับ 2 ของโลก (จัดอันดับปี 2017) โดยล็อตเต้ ตั้งเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2020 โดยเร่งขยายเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ อาทิ สนามบินบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เวียดนาม และล่าสุดในต้นเดือนพฤษภาคม 2019 ล็อตเต้ดิวตี้ฟรี แถลงยืนยันว่าได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับสายการบินกรุงเทพ เข้าร่วมประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีที่สนามบินสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ หาดใหญ่และภูเก็ต
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
