สำนักข่าว ไทยพับลิก้าได้เกาะติดวิกฤติสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ซึ่งในขณะนี้สหกรณ์ฯมีปัญหาการขาดสภาพคล่อง
รวมทั้งมีการดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพวก ผู้บริหารสหกรณ์ในข้อหายักยอกเงิน
ล่าสุด นายกิตติก้อง คณาจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ประธานกลุ่มบริษัทรัฐประชา และประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนรัฐประชา ซึ่งถูกระบุว่าเป็นลูกหนี้สมาชิกสมทบของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ตามที่สำนักข่าวไทยพับลิก้าได้นำเสนอก่อนหน้านี้ (เจาะ 27 ลูกหนี้สมทบ ความผิดปกติเงินกู้หมื่นล้าน (2) -แกะรอย”รัฐประชา” ใช้เครือข่ายเดียวกันกู้กว่า 1,700 ล้าน) ได้ติดต่อดีเอสไอเพื่อเข้าชี้แจงในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เข้าชี้แจงกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แล้ว

ทั้งนี้ได้ยืนยันในเบื้องต้นว่าไม่ได้กู้เงินจากสหกรณ์ฯ คลองจั่น แต่ถูกสหกรณ์ฯ คลองจั่นปลอมลายเซ็นและเอกสารกู้เงิน ซึ่งสอดคล้องกับคดีที่ยื่นฟ้องสหกรณ์ฯ คลองจั่นและนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ที่ศาลอาญา เป็นคดีดำ อ.2645/2556 ฟ้องที่ศาลอาญาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 โดยโจทก์คือบริษัทรัฐประชา โดยนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ส่วนจำเลยมี 5 คน ได้แก่ 1. สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น 2. นายศุภชัย ศรีศุภอักษร 3. นายลภัส โสมคำ 4. นายธนากร นำบัณฑิต 5. นายกฤษฎา มีบุญมาก ด้วยข้อกล่าวหาปลอมเอกสาร, ใช้เอกสารปลอม ซึ่งคำฟ้องจำเลยที่ 1 ถึง 5 ปลอมหนังสือสัญญากู้เงิน โดยปลอมลายมือชื่อของนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ในช่องผู้กู้อันเป็นความเท็จ โดยจำเลยที่ 1-3 ร่วมกันลงลายมือชื่อในฐานะผู้ให้กู้ และจำเลยที่ 4-5 ลงชื่อในฐานะพยาน และเผยแพร่เอกสารดังกล่าวแก่สื่อมวลชน โดยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 ศาลอาญามีคำพิพากษา ให้โอนคดีดังกล่าวไปยังศาลแขวงพระนครเหนือเพื่อพิจารณาคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังมีคดีที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานีฟ้องเรียกเงินฝากคืนจากสหกรณ์ฯ คลองจั่น ซึ่งสหกรณ์ฯ ปทุมฯ นับเป็นสหกรณ์ฯ แรกที่ฟ้องร้องคดีดำเลขที่ 3127/2556 ที่ศาลแพ่งเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 เพื่อทรัพย์คืน จำนวน 811.14 ล้านบาท โดยมีโจทก์คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี จำกัด จำเลยคือสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด
นายสมมาตร ชิตญาติ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานีกล่าวว่า สหกรณ์ฯ ปทุมฯ มีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษกับสหกรณ์ฯ คลองจั่นจำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ฯ ปทุมฯ เคยส่งเจ้าหน้าที่และทนายความไปขอถอนเงินทั้งจำนวนกับสหกรณ์ฯ คลองจั่นถึง 3 ครั้งแล้ว แต่สหกรณ์ฯ คลองจั่นอ้างว่าไม่มีเงินให้ถอนจึงต้องฟ้องร้องขอคืนเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างจ่ายอยู่เพื่อให้มีการไกล่เกลี่ยในศาลต่อไป

ส่วนความเคลื่อนไหวในกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่น ได้มีการดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก นำโดยนายศุภกิจ แก้วทรง ได้จัดสัมมนาระดมความคิดร่างแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น และนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดที่ 29 ซึ่งมีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการ โดยเบื้องต้นนายชาญชัย ตั้งชู รับแผนฟื้นฟูไปพิจารณาและนำเสนอ (บางส่วน) แก่สมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมประชุมในวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา (แผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นฉบับเต็ม)
นอกจากนี้ นายเผด็จ มุ่งธัญญา แกนนำเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น กล่าวว่า เนื่องจากมีสมาชิกจำนวนมากติดต่อมาขอคำปรึกษา เพราะรู้สึกกังวลใจกับภาวะไม่มีทางเลือกและไม่มีทางออก จึงจัดเสวนาหัวข้อ “จะรักษาสหกรณ์ฯ คลองจั่นไว้ได้อย่างไร?” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 9.00-12.00 น. ที่สโมสรหมู่บ้านสหกรณ์คลองกุ่ม โดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านสหกรณ์ได้แก่ นายพีระพันธ์ เหมะรัตน์ เลขานุการชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนียนแห่งประเทศไทย และนายวรเทพ ไวทยาวิโรจน์ นักสหกรณ์แห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2545 มาให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ และให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นเพื่อลงมติว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป