หนึ่งในประเด็นที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ กรณีตั้งข้อหาทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นกับสื่อมวลชน ใจความว่าลูกหนี้สมาชิกสมทบหลายรายเป็นบริษัทที่ไม่ได้ดำเนินกิจการจริง หรือที่เรียกว่าเป็นบริษัทกระดาษ
เมื่อไม่มีกิจการจริงก็มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยให้กับสหกรณ์ฯ ได้ ประกอบกับรายงานประจำปี 2555 สหกรณ์มียอดดอกเบี้ยค้างรับสูงถึง 1,200 ล้านบาท หรือร้อยละ 70 ของดอกเบี้ยรับรวม ซึ่งถือว่าสูงผิดปกติไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินประเภทใดก็ตาม และมีแนวโน้มว่าดอกเบี้ยค้างรับก้อนดังกล่าวส่วนใหญ่จะมาจากลูกหนี้สมาชิกสมทบที่กู้เงินไปกว่า 12,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80 ของยอดเงินให้กู้รวม
สำนักข่าวไทยพับลิก้าได้ตรวจสอบรายงานประจำปีของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นตั้งแต่ปี 2552-2555 พบว่า ยอดให้กู้ยืมแก่สมาชิกสมทบเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปี 2552 และปี 2553 ในขณะที่ยอดให้กู้ยืมแก่สมาชิกสามัญเกือบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด 4 ปี และเมื่อตรวจสอบงบกำไรขาดทุนพบว่า ในช่วงปี 2551-2554 ซึ่งในช่วงนั้นนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ คลองจั่น ดอกเบี้ยค้างรับอยู่ในเกณฑ์คงที่ ประมาณร้อยละ 6 แม้ยอดดอกเบี้ยค้างรับจะสูงขึ้นตามยอดเงินให้กู้ที่สูงขึ้น ส่วนในปี 2555 นายมณฑล กันล้อม เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ คลองจั่น เป็นปีเดียวที่มีดอกเบี้ยค้างรับสูงผิดปกติ
ที่มา: สำนักข่าวไทยพับลิก้ารวบรวม
รายละเอียดเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับแต่ละปี
เงินให้กู้ยืม-สุทธิในปี 2551-2552 ดอกเบี้ยค้างรับ ปี 2551-2552
เงินให้กู้ยืม-สุทธิในปี 2553 ดอกเบี้ยค้างรับ ปี 2553
เงินให้กู้ยืม-สุทธิในปี 2554 ดอกเบี้ยค้างรับ ปี 2554
เงินให้กู้ยืม-สุทธิในปี 2555 ดอกเบี้ยค้างรับ ปี 2555
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสัญญากู้ยืมเงินของลูกหนี้สมาชิกสมทบ 27 ราย จากข่าว “เจาะสัญญาเงินกู้สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” กู้เอง-เซ็นอนุมัติเอง (1)” และข่าว “เจาะสัญญาเงินกู้สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” กู้เอง-เซ็นอนุมัติเอง (2)” พบว่าสัญญาเงินกู้ทุกฉบับระบุว่าให้ลูกหนี้ จ่ายดอกเบี้ยทุกหนึ่งเดือน นับจากวันที่สหกรณ์ฯ ออกหลักฐานและจ่ายเงินกู้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยมีตั้งแต่ร้อยละ 10 ถึงร้อยละ 13.5 ต่อปี
สำนักข่าวไทยพับลิก้าตรวจสอบใบเสร็จดอกเบี้ยรับทั้งหมด 24 รายการ จากลูกหนี้ 22 ราย ซึ่งทั้งหมดนำดอกเบี้ยมาจ่ายให้สหกรณ์ฯ คลองจั่นภายในวันเดียวกัน คือวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2554 เป็นจำนวนเงินรวม 1,038 ล้านบาท
ใบเสร็จรับเงินของแต่ละบริษัท
บริษัท อินเท็ลลิเจ็นท์ มาสเตอร์ โปรดักซ์ จำกัด
บริษัท ไรท์ ทอท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
สท.กลุ่มออมทรัพย์ธิติรดา
สท.กลุ่มออมทรัพย์ฐิตินันท์ ทอย
บริษัท ณัฐวดี เอส.พี. จำกัด
บริษัท รัตนะธรรมอินเตอร์ ซัพพลาย จำกัด
บริษัท ทวี เฮ้าส์ แอนด์ บิลดิ้ง คอนสตรัคชั่น จำกัด
บริษัท ทวี เฮ้าส์ แอนด์ บิลดิ้ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (2)
บริษัท ดี แอนด์ เจ โกลเด้น โซล่า เพาเวอร์(ประเทศไทย) จำกัด (เดิมชื่อ บริษัทโกลเด้น โซล่า จำกัด)
บริษัท ไทยปิโตรพลัส จำกัด
บริษัท ไทยปิโตรพลัส เอ็กซพลอเรชั่น แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
บริษัท ศรีศุภากร โฮลดิ้ง จำกัด
บริษัท ยูเนียนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
บริษัท คิวทีวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด
บริษัท แอนทาเรส คอร์เปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด
บริษัท อนันตศิลาบารมี จำกัด
ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุสราฤทธิ์
บริษัท ดรีม ธุรกิจ จำกัด กองทุนเพื่อการพัฒนา
บริษัท โอเชียน เวลธ์ กรุ๊ป จำกัด
บริษัท โอเชียน เวลธ์ แอร์เวย์ส จำกัด
บริษัท มงคลเศรษฐีเอสเตท จำกัด
ริษัท มงคลเศรษฐีเอสเตท จำกัด(2)
บริษัท แมเวอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด
ทั้งนี้ใบเสร็จรับดอกเบี้ยปรากฏว่า 1. ทุกใบเสร็จรับเงินของสหกรณ์ปรากฎลายเซ็นของเจ้าหน้าที่รับเงินเพียงคนเดียวทั้ง 24 รายการ แต่กลับไม่มีลายเซ็นของผู้จัดการหรือประธานเซ็นรับเงิน 2. ทุกใบเสร็จรับเงินปรากฏตราประทับของสหกรณ์ฯ คลองจั่น พร้อมระบุวันที่ทำธุรกรรมเป็นวันเดียวกันทั้งหมด 24 รายการ คือวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันสิ้นปี ทั้งราชการและสถาบันการเงินทุกแห่งปิดทำการ 3. ยอดรวมของดอกเบี้ยที่ 22 ลูกหนี้นำมาชำระ มีมูลค่า 1,038 ล้านบาท แต่ลูกหนี้ทุกรายพร้อมใจนำเงินสดมาชำระที่สหกรณ์ในวันที่สหกรณ์ปิดทำการ 4. ลูกหนี้เกือบทุกรายไม่มีทุนเรือนหุ้นสะสม 5. ลูกหนี้บางราย ชำระดอกเบี้ยต่อปีตํ่ากว่าที่ระบุในสัญญาเงินกู้
ความเคลื่อนไหวสถานการณ์สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น
สหกรณ์ฯ คลองจั่นเรียกประชุมสมาชิกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่อาคาร U-Tower นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น กล่าวว่าจะให้สมาชิกเริ่มเบิกถอนบางส่วนประมาณกลางเดือนสิงหาคม (สหกรณ์ส่ง sms เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมแจ้งสมาชิกให้ถอนได้ปกติวันที่ 1 สิงหาคม) พร้อมทั้งขอเวลา 3 เดือนแก้ปัญหาทั้งหมด (เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน) และยินดีลาออกหากแก้ปัญหาไม่ได้ ส่วนวิธีการนำเงินมาจะไปเร่งรัดให้ลูกหนี้สมาชิกสมทบ 27 ราย คืนเงินต้นร้อยละ 50 ก่อน ที่เหลือผ่อนชำระและกู้เงินจากต่างประเทศเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มสมาชิกรวบรวมรายชื่อสมาชิกสหกรณ์ เพื่อแนบหนังสือขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐให้เข้ามากำกับดูแลและปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่าแก่สหกรณ์ เพื่อแก้วิกฤติขาดสภาพคล่องในขณะนี้ ในช่วงท้ายของการประชุม นายชาญชัย ตั้งชู กรรมการสหกรณ์ฯ กล่าวบนเวทีว่า วันที่ 1 สิงหาคม จะให้สมาชิกถอนได้บางส่วน แต่พอถึงวันจริง กลับถอนไม่ได้ สร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกจำนวนมาก (ดูข่าวที่เกี่ยวข้อง)
นายสุรพล พงศ์เมธีอภิชัย เลขานุการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้เห็นหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนายศุภชัยในสหกรณ์และถอดถอนนายศุภชัยทันทีแล้ว ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์และผู้ตรวจราชการกระทรวงดำเนินการพิจารณาข้อกฎหมายที่จะนำมาใช้ แต่ไม่สามารถนำเรื่องที่นายศุภชัยและพวกถูกแจ้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาปลดนายศุภชัยและคณะกรรมการชุดที่ 29 ออกจากตำแหน่งได้ เพราะว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำในปี 2552 ไม่ใช่ในการดำรงตำแหน่งวาระปัจจุบัน โดยกรมส่งเสริมได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ มาตรา 22 (1) ทำการตักเตือนคณะกรรมการชุดที่ 29 พร้อมให้สหกรณ์ส่งแผนฟื้นฟูกิจการในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากคณะกรรมการชุดปัจจุบัน กระทำความผิดในปัจจุบันแล้วทำให้สหกรณ์เกิดการเสียหายก็ต้องมีการพิจารณากันอีกที
นายกิตติก้อง คณาจันทร์ ผู้อำนวนการศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม มีหนังสือให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาออกจากตำแหน่งในสหกรณ์ ส่วนสัปดาห์นี้จะทยอยเรียกลูกหนี้สมาชิกสมทบของสหกรณ์ฯ คลองจั่น 27 ราย มาสอบปากคำชี้แจงว่ามีการกู้เงินจริงหรือไม่
ด้านนายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการงานคดี 1 ปปง. กล่าวว่านายศุภชัยเดินทางมาที่ ปปง. เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เพื่อรับทราบข้อปฏิบัติแต่ไม่ได้ชี้แจงที่มาของทรัพย์สินที่ ปปง. ดำเนินการยึดและอายัดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม เนื่องจากนายศุภชัยแจ้งว่ามีธุระอื่นๆ ต้องทำ ส่วนการชี้แจงจะนัดมาในวันหลัง ด้านความคืบหน้าการสืบหาทรัพย์สินของนายศุภชัยและพวก นายนพดลกล่าวว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะพบทรัพย์สินทั้งหมดไม่เกินสิ้นเดือนนี้
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
