ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯอังกฤษประกาศยุบ “NHS England” เข้าอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข

นายกฯอังกฤษประกาศยุบ “NHS England” เข้าอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข

14 มีนาคม 2025


เซอร์ คีร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่มาภาพ: https://www.gov.uk/government/people/keir-starmer

เซอร์ คีร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่า NHS England องค์กรอิสระที่บริหารระบบสุขภาพแห่งชาติ(National Health Service) จะถูกยุบเลิกและนำไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง โดยพยายามลดขั้นตอนราชการและการทำงานซ้ำซ้อน

องค์กรที่บริหารระบบสุขภาพโดยอิสระจากรัฐบาลของประเทศจะถูกนำเข้าอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข และนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้จะช่วยให้มีเงินทุนเหลือสำหรับบริการด่านหน้า

รัฐบาลกล่าวว่าคาดว่าจะมีตำแหน่งงานประมาณ 50% ของ NHS England ซึ่งในเดือนธันวาคมมีพนักงาน 14,400 คน และกระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีเจ้าหน้าที่ 3,500 คน จะต้องปิดตัวลง

การประกาศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์ที่เกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐ ซึ่งเซอร์คีร์ อธิบายว่าเป็น “งานที่เกินความสามารถ” และ “ไม่ชัด”

“ทำงานเกินกำลัง ไม่ชัดเจน พยายามทำมากเกินไป ทำได้ไม่ดี” เซอร์คีร์กล่าวขณะเยือนเมืองฮัลล์ทางตะวันออกของอังกฤษ

“พูดตรงๆ ว่า ผมอธิบายให้คนอังกฤษฟังไม่ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องใช้เงินไปกับระบบราชการซ้ำซ้อน เงินจำนวนนั้นควรนำไปใช้จ่ายกับพยาบาล แพทย์ การผ่าตัด การนัดหมายกับแพทย์ทั่วไป” เขากล่าว

“ดังนั้น วันนี้ ผมจึงประกาศได้ว่า เราจะลดระบบราชการลง … รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับคนทำงานเป็นหลัก และจัดสรรเงินไปที่แนวหน้า”

“ดังนั้น ผมจึงกำลังนำการบริหารจัดการ NHS กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของประชาธิปไตยอีกครั้ง โดยยกเลิกองค์กรรัฐที่ทำงานอิสระอย่าง NHS England”

รัฐบาลกล่าวว่า การดำเนินการเพื่อคืนหน้าที่ปัจจุบันหลายอย่างของ NHS England ให้กับกระทรวงสาธารณสุขและดูแลทางสังคมจะเริ่มขึ้นทันที โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้กระบวนการนี้เสร็จสิ้นภายในสองปี

เซอร์คีร์กล่าว่า NHS จะหันมาให้ความสำคัญกับการลดเวลาการรอคอยเพื่อรับบริการของ NHS และตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อช่วยเร่งการปรับปรุงบริการด้านสุขภาพ

  • แม้รอคิวการรักษานาน 18 สัปดาห์ แต่ทำไมคนอังกฤษจึงรักและชื่นชม “บริการสาธารณสุขแห่งชาติ” (NHS)
  • NHS England ซึ่งรัฐบาลขนานนามว่าเป็น “องค์กร quango ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ทำหน้าที่ดูแลบริการด้านสุขภาพ โดยทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อตกลงเรื่องเงินทุนและลำดับความสำคัญ ตลอดจนติดตามประสิทธิภาพของบริการ NHS ในพื้นที่

    องค์กร quango ย่อมาจาก “quasi-autonomous non-governmental organization” หมายถึง องค์กรของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการ แต่ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล และสามารถทำงานได้อย่างมีอิสระ

    แอนดรูว์ แลนสลีย์ รัฐมนตรีสาธารณสุขจากพรรคอนุรักษ์นิยมในขณะนั้น ได้มอบอำนาจในตัดสินใจและการจัดการประเด็นต่าง ๆให้แก่ NHS ในปี 2555 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้องค์กรปลอดจากการแทรกแซงของนักการเมือง

    เวส สตรีทติ้ง รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะ “ปลดปล่อย” บุคลากรด่านหน้าจาก “การบัญชาการที่มากเกินไปและขัดแย้งกัน”

    ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ PM ของ BBC Radio 4 เขากล่าวว่าผลลัพธ์ที่ได้คือ “คุณค่าที่ดีขึ้นสำหรับผู้เสียภาษีและผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ป่วย เนื่องจากเงินหลายร้อยล้านปอนด์ที่เราสามารถประหยัดได้จะถูกจัดสรรไปยังบริการด่านหน้าเพื่อมอบการดูแลที่ดีกว่า”

    เคมี บาเดนอค ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม ยินดีกับการดำเนินการที่จะนำการบริหารจัดการบริการสุขภาพกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐมนตรี แต่เตือนว่าพรรคแรงงาน “ไม่สามารถหลบได้หากเกิดข้อผิดพลาด” เธอไม่ได้ “ตั้งความหวังไว้สูง” เนื่องจากพรรคแรงงานได้บริหาร NHS ในเวลส์อยู่แล้ว และนั่น “แย่กว่าที่อื่นๆ ของประเทศมาก”

    เซอร์เอ็ด ดาวีย์ ผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตยสนับสนุนแผนดังกล่าว แต่แย้งว่าแผนดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นหลักของ NHS ในการแก้ไขปัญหานี้ รัฐบาลจำเป็นต้องเน้นที่ “แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป(General Pratitioners: GPs) มีทันตแพทย์ NHS มากขึ้น มีเภสัชกรชุมชนมากขึ้น และการดูแลทางสังคมให้ได้ผลจริง” เขากล่าว

  • ระบบสุขภาพถ้วนหน้า “NHS “ ของอังกฤษ จากความภาคภูมิใจ สู่ความล้มเหลว
  • “บริการสุขภาพแห่งชาติ” (NHS) ของอังกฤษ อายุครบ 75 ปี หนึ่งในระบบสาธารณสุขดีที่สุดของโลก
  • สถาบันวิจัยของมูลนิธิสุขภาพเตือนว่าการปรับโครงสร้างใหม่จะทำให้ผู้นำระดับสูงเขวได้

    และชารอน เกรแฮม หัวหน้าสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุด หรือ Unite กล่าวว่า “การเลิกจ้างพนักงานเหล่านี้เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ได้กลั่นกรองให้ดี ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้ายากที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่ได้รับเงินตรงเวลา ไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์พื้นฐาน หรือถูกกดดันให้ทำงานธุรการเพิ่มขึ้นแทนที่จะรักษาผู้ป่วย”

    การประกาศเรื่อง NHS England ของเซอร์คีร์มีขึ้นในขณะที่ผู้นำอังกฤษตั้งใจที่จะทำให้บริการสาธารณะของประเทศ “คล่องตัวมากขึ้น”

    จากข้อมูลของเซอร์คีร์ การใช้ปัญญาประดิษฐ์(AI) และการลดจำนวนข้าราชการพลเรือนของอังกฤษสามารถช่วยให้รัฐบาลประหยัดเงินได้ 45,000 ล้านปอนด์ (58,300 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 53,500 ล้านยูโร) ต่อปี

    จำนวนองค์กร quangos ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2010 แต่ยังคงมีอยู่มากกว่า 300 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร ซึ่งรวมถึงหน่วยงานกำกับดูแล สถาบันทางวัฒนธรรม และหน่วยงานที่ปรึกษา ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่เช่น NHS ไปจนถึงองค์กรขนาดเล็กเช่น หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจการพนัน(Gambling Commission) และ สถาบันภาพยนตร์แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ (British Film Institute)

    องค์กรกำกับดูแลการใช้น้ำ หรือ Ofwat อาจเป็นอีกหนึ่งในองค์กรquangos ของรัฐบาลอื่นๆ ที่จะถูกยุบเลิก

    บทบาทของ Ofwat ร่วมกับหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานตรวจสอบน้ำดื่ม และทรัพยากรธรรมชาติเวลส์ เป็นหนึ่งในองค์กรที่กำลังได้รับการพิจารณาในการตรวจสอบระบบน้ำทั้งหมดในอังกฤษและเวลส์ โดยคณะกรรมการน้ำอิสระที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

    รัฐบาลพรรคแรงงานชุดใหม่ได้จัดตั้งองค์กร quango ใหม่มากกว่า 20 แห่งนับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง

    องค์กรเหล่านี้ได้แก่ Great British Energy ซึ่งจะลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเพื่อช่วยบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดของรัฐบาล และ Skills England ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหางานทำ

    รัฐบาลยังได้เสนอให้ลดขนาดของข้าราชการพลเรือน ซึ่งมีจำนวนพนักงานมากกว่า 500,000 คน

    ที่มาภาพ: https://www.england.nhs.uk/

    NHS England คืออะไรและทำงานอย่างไร
    NHS Englandก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดย แอนดรูว์ แลนสลีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจากพรรคอนุรักษ์นิยม เพื่อให้ NHS ทำงานโดยอิสระและมีอำนาจในตัวมากขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายให้ NHS ดำเนินงานที่แยกออกจากรัฐบาล

    NHS ก่อตั้งขึ้นในฐานะองค์กรที่ได้รับเงินจากผู้เสียภาษีแต่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยตรงจากรัฐบาลกลาง และมีหน้าที่รับผิดชอบในการให้การดูแลที่มีคุณภาพสูง ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ และรับประกันความคุ้มค่า

    เว็บไซต์ระบุว่า NHS มี “หน้าที่ตามกฎหมาย ความรับผิดชอบ และอำนาจในการกำกับดูแลที่หลากหลาย” ซึ่งรวมถึงการทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อตกลงเรื่องเงินทุนและเรื่องสำคัญสำหรับ NHS และดูแลการให้บริการ NHS ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

    ปัจจุบัน NHS England มีพนักงานประมาณ 15,300 คน ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคม (Department for Health and Social care:DHSC) ซึ่งเป็นกระทรวงของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในการพัฒนาและดำเนินการตามนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและสังคมในอังกฤษ มีพนักงาน 3,300 คน

    เกิดอะไรขึ้นในช่วงการปรับเปลี่ยนระบบบริการสุขภาพของ NHS ครั้งล่าสุด

    ภายใต้รัฐบาลผสมระหว่างพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตยในปี 2555 ได้มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติสุขภาพและการดูแลทางสังคม(Health and Social Care Act)

    พระราชบัญญัตินี้ช่วยปฏิรูประบบบริการสุขภาพของ NHS อย่างมีนัยสำคัญ โดยจัดตั้ง Clinical Commissioning Groups ยกเลิกกองทุนการดูแลขั้นปฐมภูมิ(Primary Care Trust:PCT) กับ Strategic Health Authorities หน่วยงานด้านสุขภาพเชิงยุทธศาสตร์ และก่อตั้ง Public Health England

    รัฐบาลปัจจุบันวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการสร้างภาระให้กับระบบราชการหลายที่ซ้ำซ้อน โดยไม่มีเส้นแบ่งความรับผิดชอบที่ชัดเจน