“เอไอเอส” ตอกย้ำ ‘เทคโนโลยีดิจิทัล’ ลดความเหลื่อมล้ำ สานพลัง “กรมควบคุมโรค” ใช้ ‘อสม.ออนไลน์’ ป้องกันความสูญเสียโรคไข้เลือดออก
บนความตั้งใจของ AIS กับภารกิจการสร้าง Social Inclusion หรือหลักประกันทางสังคม ถือว่าก้าวหน้าไปอีกขั้นจากความสำเร็จของแอปพลิเคชัน ‘อสม.ออนไลน์’ ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในมิติสาธารณสุขผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ตลอด 7 ปีของแอปพลิเคชันอสม.ออนไลน์ ได้ช่วยให้อสม.มากกว่า 1 ล้านคนได้ทำงานบนเทคโนโลยีที่สะดวกรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีอสม.ที่ใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 500,000 คน ขณะเดียวกันการทำงานด้วยแอปพลิเคชันซึ่งมาแทนที่กระดาษช่วยให้สถานการณ์สาธารณสุขในพื้นที่ต่างๆ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ประเด็นสาธารณสุขหนึ่งที่สะท้อนความสำเร็จของแอปฯ คือ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้สนับสนุนการใช้แอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ด้วยฟีเจอร์รายงานสำรวจลูกน้ำยุงลาย เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้เลือดออกในไทย
สำหรับฟีเจอร์รายงานสำรวจลูกน้ำยุงลายได้ถูกเพิ่มขึ้นบนแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ในปี 2562 โดยการทำงานตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีครัวเรือนที่ได้รับการสำรวจลูกน้ำยุงลายและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์แล้วกว่า 5 ล้านหลังคาเรือน โดยได้การสำรวจลูกน้ำยุงลายไปแล้วมากกว่า 1 ร้อยล้านครั้ง มีอสม.ที่ใช้ฟีเจอร์นี้เป็นประจำมากกว่า 280,000 คน โดยมีการให้คำแนะนำการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของบ้านให้ถูกสุขลักษณะ ทำให้สุขอนามัยของประชาชนดีขึ้น และเมื่อสภาพแวดล้อมชุมชนดีก็ทำให้สังคมดีไปด้วย
ล่าสุด เอไอเอส พร้อมด้วยกรมควบคุมโรค ได้ตอกย้ำความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อยกระดับรูปแบบการดูแลสุขภาพประชาชน รวมถึงมาตรฐานใหม่ในด้านสาธารณสุขพื้นฐานอย่างเท่าเทียม

ดร.พญ.ฉันทนา ผดุงทศ ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ทุกวันที่ 15 มิถุนายน ของทุกปีเป็น “วันไข้เลือดออกอาเซียน” ( ASEAN Dengue Day) ถือเป็น สำหรับในประเทศไทยโรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่ระบาดอย่างต่อเนื่องมากว่า 70 ปี โดยสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 8 มิถุนายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 3,386 ราย ซึ่งเมื่อเทียบในช่วงเดียวกันกับในปี 2564 พบว่ายอดผู้ป่วยสะสมลดลง 21% เสียชีวิต 5 ราย โดยในช่วงที่มีการระบาดจะเริ่มต้นในช่วงฤดูฝนหรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งโรคไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย
“การดําเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคไข้เลือดออก ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานเครือข่าย เข้ามามีส่วนร่วมในการดําเนินงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญในการขับเคลื่อนงานให้ประสบความสําเร็จ โดยเฉพาะ อสม. ซึ่งเป็นผู้นําในชุมชนให้ประชาชนดูแลตนเองและครอบครัวไม่ให้ป่วยด้วยโรคติดต่อนําโดยยุงลาย โดยใช้แอปพลิเคชั่นอสม.ออนไลน์ เข้ามาเป็นปัจจัยสําคัญช่วยในการเพิ่มทักษะดิจิทัลด้านสุขภาพ (Digital Health)”
ดร.พญ.ฉันทนา เล่าว่า หลังจากอสม.เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีในการทำงานทำให้การปฏิบัติหน้าที่คล่องตัวมากขึ้น สามารถเก็บข้อมูลการสำรวจลูกน้ำยุงลาย ทั้งจำนวนบ้าน ลูกน้ำ ภาชนะ รวมถึงค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายที่พบในชุมชนและในบ้าน เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในการสรุปผลและติดตามการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้อย่างใกล้ชิด
อสม.ออนไลน์ยังช่วยให้อสม.แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพราะภายในแอปฯ มีข้อมูลข่าวสารที่ได้จากการนําข้อมูลไปวิเคราะห์ร่วมกับจํานวนผู้ป่วยในพื้นที่ เพื่อคาดการณ์การเกิดการระบาดในพื้นที่ เพื่อแบ่งพื้นที่เสี่ยงสูง เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงต่ำ
อย่างไรก็ดีการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ยังก่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ด้านการบริหารจัดการข้อมูล โดยเฉพาะการนำข้อมูลจากการสำรวจลูกน้ำยุงลายในแอปฯ อสม.ออนไลน์มาวิเคราะห์ร่วมกันและจัดการการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆ จนสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกลดลงอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เป้าหมายเอไอเอสคือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างเท่าเทียม
นางสายชล กล่าวต่อว่า “วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเป็นเครื่องมือที่สำคัญให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างเท่าเทียมในทุกพื้นที่โดยเฉพาะในท้องถิ่น อไอเอสยังคงยืนยันที่พร้อมจะทำงานกับบุคลากรทุกภาคส่วนที่ต้องทำงานในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อสม. ให้สามารถมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาช่วยให้ภารกิจดูแลสุขภาพคนไทย ก้าวเดินต่อไปอย่างดีที่สุด”
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ฟีเจอร์รายงานสำรวจลูกน้ำยุงลายบนแอปฯ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการสาธารณสุขบนหลักการ ‘เตรียมการ’ ‘สื่อสาร’ และ ‘เตือนภัย’ และสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างประชาชนด้วยกันเองในการเฝ้าระวังปัญหาสาธารณสุข
สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า ความร่วมมือกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เอไอเอส และทีมอสม.เป็นตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ลงตัว ช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทำให้แอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในอนาคตกรมควบคุมโรควางแผนที่จะใช้ข้อมูลผลสํารวจลูกน้ำยุงลายจากแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ไปวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา เช่น ปริมาณน้ําฝน ความชื้น เป็นต้น เพื่อใช้ในการชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงของโรคไข้เลือดออกที่แม่นยํามากขึ้น