ดร.สุทธิ สุนทรานุรักษ์
ชิมก่อนปรุง Taste before seasoning
ช่วงเวลาแห่งการระบาดของ Covid-19 ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงโลกข้างหน้าว่าจะเดินไปในทิศทางใด จะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตของมวลมนุษยชาติ ปีที่ผ่านมาเริ่มมีหนังสือหลายเล่มทยอยออกมาทำนายถึงการปรับตัวของมนุษย์ในยุค Post-pandemic หนังสือเรื่อง Fareed Zakaria’ s Ten lessons for a post pandemic world นับเป็นหนังสืออีกเล่มที่น่าสนใจ โดยได้ถ่ายทอดมุมมองของฟารีด ซาคาเรีย (Fareed Zakaria) นักข่าวชื่อดังของ CNN และคอลัมนิสต์ที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในแวดวงสื่ออเมริกัน สิบบทเรียนที่ฟารีดถ่ายทอดออกมานั้นทำให้เรามองเห็นโลกข้างหน้าที่ชัดเจนขึ้น ตั้งแต่การเตรียมพร้อมต่อการปรับตัวสู่โลกใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลง
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ได้สะท้อนภาพการปรับตัวครั้งใหญ่ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก…ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา โลกาภิวัตน์และการปฏิวัติดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง
…การเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งการปรับตัวของทุกสังคม
นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มีนักคิด นักเขียน นักวิชาการหลายคนออกมาตั้งข้อสังเกตและพยายามทำนายอนาคตแบบนักอนาคตศาสตร์หลังการระบาดใหญ่ครั้งนี้หรือที่เรียกว่า post- pandemic
การตั้งคำถามต่อการรับมือของสังคมหรือรัฐบาลต่อยุค Next Normal นับเป็นอีกโจทย์ใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลกต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน
หนังสือเรื่อง Fareed Zakaria’s Ten lesson learns for a post-pandemic world นับเป็นหนังสือน่าสนใจอีกเล่มที่ถ่ายทอดจากมุมมองของนักข่าวชื่อดังจาก CNN รวมทั้งเป็นคอลัมนิสต์ที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
![](https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2021/05/pjimage-1-768x540-สิบบทเรียน-620x436.jpg)
…มารู้จัก ฟารีด ซาคาเรีย (Fareed Zakaria)
ฟารีด ซาคาเรีย เกิดที่มุมไบ อินเดีย ในครอบครัวมุสลิม พ่อของเขา ราฟิก ซาคาเรีย (Rafiq Zakaria) เป็นนักการเมืองอินเดีย ในวัยเด็กของฟารีด เขาเรียนหนังสือที่มุมไบ ก่อนจะไปจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา
ด้วยความเป็นนักกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียน ฟารีดรับตำแหน่งเป็นประธานชมรม Yale Political Union เป็นบรรณาธิการวารสารรายเดือนให้กับ Yale Political Monthly
ต่อมาฟารีดสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด โดยมีบรมครูอย่าง ซามูเอล ฮัลติงตัน (Samuel P. Huntington) และ สแตนลีย์ ฮอฟฟ์มานน์ (Stanley Hoffmann) เป็นผู้ดูแลงานวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก
![](https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2021/05/FRZ-Headshot-Yale-April-211-copy.jpg)
images/FRZ%20Headshot%20Yale%20April%2021%5B1%5D%20copy.jpg
ดร.ฟารีด ซาคาเรีย จึงคลุกคลีกับแวดวงวิชาการรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งสอนหนังสือ ทำวิจัย เป็นบรรณาธิการวารสารวิชาการ รวมทั้งเริ่มเขียนคอลัมน์ให้กับ New York Time และ Wall Street Journal
หนังสือเล่มน่าสนใจของเขา เช่น From Wealth to Power : The Unusual Origins of America’s World Role ตีพิมพ์เมื่อปี 1998 โดยสำนักพิมพ์ Princeton และเล่มที่น่าจะโด่งดังที่สุด คือ The Post America World เมื่อปี 2008
![](https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2021/05/51rKArW6ZKL.jpg)
ฟารีดผันตัวมาทำงานเบื้องหน้าในฐานะนักวิเคราะห์การเมือง อ่านสถานการณ์โลกในช่องข่าว CNN โดยจัดรายการชื่อ Fareed Zakaria GPS (Global Public Squares) ตั้งแต่ปี 2008
ด้วยความรอบรู้เกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศทำให้มุมมองของเขามีความน่าสนใจและแหลมคมยิ่งนัก
หนังสือเล่มล่าสุดของเขา คือ Fareed Zakaria ‘s Ten lesson learns for a post-pandemic world พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว (2020) ปีที่เต็มไปด้วยความโกลาหลจากการระบาดของโควิด-19
สาระสำคัญของหนังสือเล่มนี้ คือ การกล่าวถึงผลพวงของการระบาดโควิด-19 และการรับมือต่อจากนี้ไปในยุคหลังโควิด
ฟารีดได้เขียนถ่ายทอดออกมาเป็นสิบบทเรียนที่ได้จากการตั้งข้อสังเกตต่อวิกฤติการระบาดใหญ่ การรับมือของรัฐบาลประเทศต่างๆ โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาสมัยโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งมองไปอนาคตข้างหน้าว่า หลังการระบาดแล้ว มนุษยชาติจะอยู่กันอย่างไร และรับมือด้วยวิธีใด
…บทเรียนแรก buckle up รัดเข็มขัดให้พร้อม
คำว่า buckle หรือ หัวเข็มขัด มักใช้กับตอนที่เราคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนออกรถ โดยฟารีดเปรียบเทียบให้เห็นว่าอภิมหาวิกฤติครั้งนี้เกิดจากผลพวงของการสูบใช้ทรัพยากรกันแบบไม่บันยะบันยังจนเป็นเหตุให้เกิดภัยธรรมชาติ ปัญหาโลกร้อน จนถึงโรคระบาดใหญ่
ฟารีดเริ่มต้นบทเรียนแรกแบบนักสัจนิยม คือ มองโลกตามความเป็นจริงว่า โลกที่เชื่อมต่อกันทุกด้านในทุกวันนี้ด้วยพลังโลกาภิวัตน์ทั้งการค้า การลงทุน การปฏิวัติดิจิทัล ล้วนเป็นเหตุปัจจัยทำให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ต้นทุนการพัฒนาแลกมาด้วยการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการบริโภคแบบไม่สนใจเรื่องความยั่งยืน
…จนท้ายที่สุด ธรรมชาติจึงเริ่มเอาคืน ฟารีดใช้คำว่า nature’s revenge
…บทเรียนที่สอง ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะมีรัฐบาลใหญ่โตแค่ไหน สำคัญแค่ว่ามีรัฐบาล “คุณภาพ” ก็พอแล้ว
เนื้อหาของบทนี้ “ตบหน้า” รัฐบาลทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีพอ
… รัฐบาลควรมีการเตรียมความพร้อมที่ดีอันแสดงให้เห็นถึง “คุณภาพของรัฐบาล” มากกว่าที่จะเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจมาก มีขนาดใหญ่โต แต่ไร้ซึ่งคุณภาพ
การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เรามองเห็นคุณภาพรัฐบาลประเทศต่างๆ ในการรับมือ จัดการกับปัญหาการระบาด ซึ่งฟารีดยกตัวอย่างกลุ่มประเทศที่จัดการปัญหาโควิด-19 ได้ดี ไล่ตั้งแต่ นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน เยอรมนี ออสเตรีย ออสเตรเลีย เดนมาร์ก แคนาดา ฟินแลนด์ สิงคโปร์
กลุ่มประเทศเหล่านี้สะท้อนคุณภาพรัฐบาลในการบริหารจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีทิศทางจนทำให้ประชาชนประคองชีวิตผ่านไปได้ในช่วงวิกฤติแบบเจ็บตัวน้อยที่สุด
…บทเรียนที่สาม กลไกตลาดอาจไม่เพียงพอต่อไปแล้ว
เนื้อหาของบทนี้สะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำชัดเจนโดยเฉพาะการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประเทศต่างๆ ที่เผชิญวิกฤติ…คนจนทั่วโลกลำบากจากวิกฤติ ขณะที่คนรวย ผู้มีอำนาจยังสามารถใช้พลังเงินและเส้นสายในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้
ในบทเรียนนี้ ฟารีดยกตัวอย่างเดนมาร์กที่เป็นประเทศที่แม้จะเก็บภาษีสูง แต่บริการสาธารณสุข การศึกษาและสาธารณูปโภคต่างๆ ล้วนทั่วถึง และมีคุณภาพ…สิ่งเหล่านี้จะแสดงออกมาชัดเจนมากขึ้นในช่วงภาวะวิกฤติว่ารัฐบาลแต่ละประเทศสามารถจัดการความเหลื่อมล้ำได้ดีมากน้อยเพียงใด
โปรดติดตามตอนจบ