ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 7-13 ต.ค. 2560
นายกฯ ประกาศ พ.ย. 2561 ได้เลือกตั้ง
ที่มาภาพ: www.thaigov.go.th
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุม คสช. มีการรับทราบการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 (พ.ร.ป.) ซึ่ง คสช. จะพิจารณาช่วงเวลาในการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมตามความจำเป็น ยืนยันไม่ได้ต้องการหน่วงเวลาไว้แต่อย่างใด
“ในเดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนแห่งความโศกเศร้า อยากให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบก่อน คาดว่าจะมีการประกาศวันเลือกตั้งในช่วงเดือนมิถุนายน 2561 และพร้อมที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ตอนนี้ขอให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอให้ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน อย่าให้เกิดความขัดแย้ง” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ด้าน พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม คสช. พล.อ. ประยุทธ์ ได้รับแจ้งจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีเวลาเขียนกฎหมายลูกทั้งหมด 240 วัน จากนั้นจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาอีก 60 วัน ซึ่งหากมีการแก้ไขก็จะยืดเวลาไปอีก แต่ทั้งนี้ คาดว่ากฎหมายลูกทั้งหมดจะประกาศใช้ในเดือนมิถุนายน 2561 และเมื่อนับไปอีก 150 วัน การเลือกตั้งจึงจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561
ส่วนการปลดล็อกพรรคการเมืองนั้น พล.อ. ประยุทธ์ รับทราบว่า เมื่อ พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีผลบังคับใช้แล้ว พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่ง คสช. จะหาข้อยุติและจุดลงตัวในเรื่องนี้ให้ได้ โดย พล.อ. ประยุทธ์ ขอหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน จากนั้นจะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการ
ติดตามมติ ครม. เรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่
สธ. ชี้ “ก้าวคนละก้าวฯ” ตัวอย่างประชารัฐ
จากกรณีที่ที่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ “ตูน บอดี้สแลม” นักร้องชื่อดัง จัดกิจกรรม “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” โดยจะออกวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อระดมทุนจากประชาชนไปมอบให้โรงพยาบาลภาครัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหมรวม 11 แห่ง เพื่อพัฒนาและจัดหาเครื่องมือแพทย์นั้น
เว็บไซต์ hfocus รายงานถึงคำให้สัมภาษณ์ของ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีต่อกิจกรรมดังกล่าว โดยรองปลัด สธ. เห็นว่ากิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างของแนวทางประชารัฐ ที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมวางแผนพัฒนาและสนับสนุนดูแลโรงพยาบาล ซึ่งประเทศไทยมีโรงพยาบาลรัฐทุกสังกัดมากกว่า 10,000 แห่งที่สร้างจากภาษีของประชาชนและรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณทุกปีในการจัดบริการประชาชนทั่วประเทศกว่า 65 ล้านคน
“โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากประชาชนผู้มีจิตกุศล รวมทั้งองค์กรต่างๆ ที่เข้ามาเติมเต็มระบบสุขภาพมาโดยตลอด และการจัดกิจกรรมของคุณตูนในครั้งนี้ ได้มีการพบปะและหารือกันกับผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งโรงพยาบาล 10 แห่งในสังกัด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ขอบคุณชื่นชมและพร้อมสนับสนุนกิจกรรมอย่างเต็มที่ ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมสนับสนุน ให้กำลังใจชื่นชมการจัดกิจกรรมครั้งนี้ด้วย นอกจากจะได้ความสุขจากการเป็นผู้ให้แล้ว ท่านยังได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกด้วย” พญ.พรรณพิมล กล่าว
ทบ. “เสริมแกร่ง” เตรียมซื้อรถถังจีนเพิ่ม 10 คัน
วันที่ 11 ต.ค. 2560 เว็บไซต์วอยซ์ทีวีรายงานว่า พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงโครงการจัดซื้อรถถัง VT-4 ของกองทัพบก เพื่อทดแทนรถถังเบา M41 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้กองทัพบกได้ลงนามซื้อรถถัง VT- 4 จากประเทศจีน และได้ลงนามในปี 2559 ซึ่งมีกำหนดการส่งมอบระยะแรก 28 คัน ในเดือนมีนาคม ปี 2561 แต่เนื่องจากทางผู้ผลิตสามารถดำเนินการได้เร็วจึงมีสามารถจัดส่งได้เร็วกว่ากำหนดถึง 6 เดือน โดยปัจจุบันได้นำส่งศูนย์พรานทหารม้าแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งวิทยุสื่อสาร ซึ่งไม่ได้ประกอบมาระหว่างเดินทาง และจะทำการตรวจรับหลังจากนั้นจึงจะมีการซ้อมปฏิบัติการก่อนส่งมอบให้กับกองพันทหารม้าที่ 6 และกองพันทหารม้าที่ 21 ย้ำหลังตรวจรับตามกระบวนการทางกฎหมาย แล้วยินดีและเต็มใจที่จะพาสื่อมวลชนไปร่วมทำข่าว
ในส่วนแผนงานของกองทัพปี 2561 ในการจัดหาประเภทยุทโธปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติม จะมีการสั่งซื้อรถถังอีก 10 คัน เพื่อให้ครบทั้งหมด 2 กองพัน กองพันละ 44 คันในอัตราเต็ม เนื่องจากมีแผนที่จะปรับปรุงรถถังของ 2 กองพัน คือ ม.พัน 6 และ ม.พัน 21 ในระยะแรกที่จัดหาไปแล้ว 21 คัน และในปี 2560 ที่มีการจัดหา 10 คัน ปี 2561 อีก 10 คัน ตามงบประมาณที่มี จะได้กองพันละประมาณ 20 กว่าคัน ซึ่งเป็นการลดอัตราลงจาก 44 คันให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อยู่ในเกณฑ์กองพันละ 30 คัน
พร้อมระบุการที่จีนส่งมอบเร็วกว่ากำหนด เป็นเรื่องของการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี กองทัพได้รับมอบรถถังเร็วขึ้น ก็ถือว่าได้มีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น และยืนยันคงไม่ใช่ของที่อยู่ในสต็อก เพราะในปี 2559 ตนได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจดูโรงงานของประเทศจีน จึงขอยืนยันว่าใช้ได้สมบูรณ์
บินโดรนเถื่อนโดนหนัก คุก 5 ปี ปรับ 1 แสน
เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2560 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (11 ต.ค. 2560) มติที่ประชุม กสทช. วาระพิเศษ ได้มีการพิจารณาเรื่องการใช้งานโดรน (Drone) เนื่องจากขณะนี้มีการใช้งานเป็นจำนวนมาก แต่ได้มีการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเพียง 350 ลำ ดังนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือป้องกันราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 6 ประกอบกับมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ประชุม กสทช. จึงมีคำสั่งดังนี้
1. ห้ามการโดรนทุกประเภท ยกเว้น โดรนที่มีการขึ้นทะเบียนเพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าว หรือมีการขึ้นทะเบียนตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. 2558 หรือเป็นเครื่องบินเล็กซึ่งใช้เป็นเครื่องเล่นตามกฎกระทรวงคมนาคมซึ่งไม่เป็นอากาศยาน พ.ศ. 2548
2.การขึ้นทะเบียนเพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโดรน ให้ดำเนินการ ดังนี้
2.1 เอกสารและข้อมูลการลงทะเบียน
– กรณีบุคคลซึ่งครอบครองการใช้งาน ให้แจ้ง ชื่อ-สกุลผู้ครอบครอง หมายเลขเครื่องหรือ Serial Number ยี่ห้อโดรน และอื่นๆ ตามแบบฟอร์มของสำนักงาน กสทช. ภาพถ่ายของโดรนที่ลงทะเบียน และบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ครอบครอง
– กรณีบุคคลซึ่งครอบครองเพื่อจำหน่าย (ร้านค้า) ให้แจ้งบัญชีแสดงรายการโดรน ตามแบบฟอร์มของสำนักงาน กสทช. ภาพถ่ายของโดรน ที่ลงทะเบียน และบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ครอบครอง
2.2 สถานที่ลงทะเบียน ได้แก่ สำนักงาน กสทช. ถนนพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) พญาไท กรุงเทพฯ สำนักงาน กสทช. ภาค และสำนักงาน กสทช. เขต ทั่วประเทศ สถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือที่สำนักงานการบิน พลเรือนแห่งประเทศไทย
3. ในการบังคับหรือปล่อยโดรน ให้ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยโดรน พ.ศ. 2558 ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง การบังคับหรือปล่อยโดรน ระหว่างพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
4. ให้ผู้ครอบครองโดรน ดำเนินการขึ้นทะเบียนภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันนี้ (11 ต.ค. 2560)
5. ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ผู้นำกาตาลุญญาลงนามประกาศเอกราช ศาล รธน. ชี้ “เป็นโมฆะ”
ที่มาภาพ: เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ (https://www.prachachat.net/?p=53145)
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าความพยายามประกาศตัวเป็นเอกราชของแคว้นกาตาลุญญา ดินแดนปกครองตนเองในประเทศสเปนว่า ล่าสุด นายมาเรียโน ราโคย นายกรัฐมนตรีสเปน เตรียมจะประชุมฉุกเฉินร่วมกับคณะรัฐมนตรีภายในวันเดียวกันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือถึงแนวทางการตอบโต้การจะประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญา หลังจากเมื่อเย็นวันก่อนหน้านายการ์เลส ปุจเดมอนต์ ผู้นำกาตาลุญญา ร่วมกับพันธมิตรทางการเมืองลงนามในคำประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญาให้เป็นอิสระจากสเปน ทว่านายปุจเดมอนต์ยังขอให้ระงับการบังคับใช้ไว้ก่อนเพื่อเปิดทางให้มีการเจรจากับรัฐบาลกลางสเปนในการดับวิกฤตขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่นี้
ถือเป็นเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยอนาคตของแคว้นกาตาลุญญาที่มีประชากรอยู่ราว 7.5 ล้านคน ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสเปน โดยนายราโคยประกาศกร้าวที่จะใช้อำนาจที่ตนเองมีอยู่ทั้งหมดในการป้องกันการแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนของแคว้นกาตาลุญญา หลังจากผู้นำกาตาลุญญาอ้างผลการลงประชามติที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาชี้ว่าชาวกาตาลันร้อยละ 90 สนับสนุนการแยกตัวจากสเปน จากที่มีชาวกาตาลันออกมาลงประชามติทั้งสิ้นร้อยละ 43 อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนชี้ว่าทั้งการจัดลงประชามติและการจะประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญาเป็นสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญสเปน และถือเป็นโมฆะ
ด้านนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่คัดค้านการแยกตัวของแคว้นกาตาลุญญา ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำกาตาลุญญาอย่ากระทำสิ่งใดที่จะทำให้การเจรจากับรัฐบาลกลางสเปนเป็นไปไม่ได้และขอให้ผู้นำกาตาลุญญาเคารพรัฐธรรมนูญสเปน
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
