ThaiPublica > เกาะกระแส > กองทัพจัดเต็มกางแผนยุทธการรับศึก “น้ำท่วม” วางกำลังพลกระจายทุกพื้นที่

กองทัพจัดเต็มกางแผนยุทธการรับศึก “น้ำท่วม” วางกำลังพลกระจายทุกพื้นที่

17 พฤศจิกายน 2011


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่มาภาพ :https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5674867779808557122
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่มาภาพ :https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5674867779808557122
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673569975397073554
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673569975397073554

ปฏิบัติการ “กองทัพบก” ช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤตการอุทกภัย นับเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และหนักหนาสาหัสที่เหล่า “นักรบ” ได้รับมอบหมายในมิชชั่นนี้ เพื่อช่วยชีวิตและรักษาทรัพย์สินของประชาชนที่เดือดร้อนอีกทั้ง สถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ร้ายแรงไม่แตกต่างจากการสู้รบก็ว่าได้ ทำให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งระดมสรรพกำลังยุทโธปกรณ์-เครื่องจักร ก่อนหน้านี้เป็นแรมเดือนเพื่ออารักขา “เมืองหลวง” มิให้ต้องจมบาดาล

โดยให้ “บิ๊กโด่ง” พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ได้มอบหมายให้หน่วยงานภายในกองทัพภาคที่ 1 แบ่งงานรับผิดชอบในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยจัดสรรกำลังพลและส่งยุทโธปกรณ์เข้าไปจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ถูกมวลน้ำโจมตีน้ำ รวมถึงเร่งช่วยเหลือประชาชนได้รับความเดือดร้อน

โดยที่ “บิ๊กแกะ” พล.ต.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผบ.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.ร.1รอ.) ได้รับมอบหมายดูแลพื้นที่เขตบางซื่อ สายไหม สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย หลักสี่ บางเขน และเขตดุสิต โดยมอบหน้าที่ให้ “ผู้การโอ”พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ผบ.กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ดูแลรับผิดชอบพื้นที่เขตบางซื่อ ให้จัดตั้งกองบัญชาการควบคุมที่วัดบางโพ พร้อมจัดกำลังพลจำนวน 76 นายและยานพาหนะบรรจุสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เขตสายไหม ซึ่งกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ( ร.1 พัน.1รอ.) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยได้จัดกำลังพลจำนวน 53 นาย

สำหรับเขตสัมพันธวงศ์ ให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน.3 รอ.) จัดกำลังพล 117 นาย พร้อมยานพาหนะ ปฏิบัติภารกิจบรรจุสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย และบรรจุกระสอบทรายที่พระที่นั่งอัมพรสถานฯ เขตดุสิต พระที่นั่งอัมพร และโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 เขตสัมพันธวงศ์ ส่วนเขตบางกอกน้อยให้เป็นหน้าที่ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ( ร.1 พัน.4 รอ.) รับผิดชอบโดยจัดดำลังพล 90 นายพร้อมยานพาหนะบรรจุสิ่งของ และให้ชุดช่างตั้งจุดช่วยเหลือประชาชน ที่โรงพยาบาลศิริราชและบริเวณสี่แยก อสมท.

ขณะที่ “ผู้การอ๊อบ” พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.กรมทหารราบที่ 11 รับผิดชอบเขตดอนเมือง บางเขน หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว ดินแดง โดยที่ได้ส่งกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน.2 รอ.) ซึ่งในเขตดอนเมือง หลักสี่ได้ส่งกำลังพลจำนวน 104 นายพร้อมยานพาหนะช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ส่วนเขตบางเขนให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน.3 รอ.) รับผิดชอบพื้นที่ โดยจัดกำลังพล 50 นายในการขนย้ายสิ่งของและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ พร้อมตั้งจุดบริการรถบริการรับส่งประชาชนในพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงที่แยกลาดพร้าว และตั้งจุดช่วยเหลือทุกเขตที่รับผิดชอบ โดยมี “ผู้การบี้” พ.อ.ณงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์(ร.31 รอ.) ได้ส่งกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 พัน.2 รอ.) เข้ามาเป็นหน่วยเสริม โดยใช้กำลังออกปฏิบัติรอบละ 6 กองร้อย

ส่วนเขตดุสิตส่งทหารม้าจากกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ( ม.พัน.4 รอ.) ไปรับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 23 นาย พร้อมยานพาหนะเพื่อช่วยซ่อมผนังกั้นน้ำบริเวณ ถ.สามเสน ซ.21-23 ท่าเรือเกียกกายและชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ

ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673186462487798386
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673186462487798386
https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5671431563943158034
https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5671431563943158034

ด้าน “บิ๊กเข้” พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) นำกำลังพล 1,780 นายพร้อมยุทโธปกรณ์รับผิดชอบพื้นที่ อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี ดูแลทางระบายน้ำคลองรังสิต 1 – 14 โดยให้ “ผู้การหนุ่ย” พ.อ.ธรรมนูญ วิถี ผบ.กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์(ร.12 รอ.) เข้าดูแลพื้นที่คลองรังสิต 1 – 2 ส่วน “ผู้การติ่ง” พ.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผบ.กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) รับผิดชอบพื้นที่คลองรังสิต 3 – 4 ขณะที่ “ผู้การหน่อย” พ.อ.ประวิตร ฉายะบุตร ผบ.กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์(ป.2 รอ.) ยึดพื้นที่รับผิดชอบคลองรังสิต 5 – 6 และ “ผู้การแดง” พ.อ.ศตวรรษ รามดิษฐ์ ผบ.กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ดูแลพื้นที่คลอง 5 – 8 ฯลฯ โดยในเขตมีนบุรีมอบหมายให้กองพันทหารช่างเครื่องมือพิเศษ (พัน.ช.คมศ.) รับผิดชอบสนับสนุนกำลังพลและให้กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พล.ร.2 รอ. ในการเสริมแนวคันดินกั้นน้ำตั้งแต่คลอง 1 – 7

นอกจากนี้ มอบหมายให้กองพันทหารม้าที่ 30 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ( ม.พัน.30 พล.ร.2 รอ.) จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ให้ความช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากพื้นที่บริเวณตลาดรังสิต เทศบาลนครรังสิต ไปบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต (บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต) เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับไปช่วยเหลือต่อไป พร้อมจัดรถรับส่งประชาชนในพื้นที่ด้วยเพื่อความสะดวกในการเดินทางและส่งอาหาร รวมถึงส่งทหาร ร.12 รอ. เข้าสนับสนุนที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน โดยจัดกำลังพล 325 นาย พร้อมยานพาหนะช่วยการกรอกกระสอบทรายเพื่อเสริมแนวคันดิน

ทั้งนี้ “บิ๊กเข้” ได้รับภารกิจที่สำคัญโดยให้หน่วยจาก พล.ร. 2 รอ. ปิดกั้นและผลักดันน้ำไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่รังสิต-ดอนเมือง โดยเร่งระบายน้ำไปที่ฝั่งตะวันตกตรงประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ส่วนระบายน้ำฝั่งตะวันออกไปที่คลองรังสิต 13 เพื่อป้องกันน้ำเข้าถล่มเมืองหลวงรอบสอง อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.ร.2 รอ. ได้รับคำสั่งให้หน่วยตั้งศูนย์บัญชาการเพิ่มที่ เขตสะพานสูง บางกะปิ บึงกุม คันนายาว เนื่องจาก ศปภ.- กทม. ประเมินน้ำเตรียมทะลักเข้ามาดังนั้นให้ พล.ร.2 รอ. มารับผิดชอบจุดนี้

ขณะที่ “บิ๊กอี๊ด” พล.ต.ภาณุวัชร นาควงษม์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในพื้นที่เขตหนองแขม วังทวีวัฒนา ทวีวัฒนา บางบอน หนองแขม ภาษีเจริญ บางแค ทุ่งครุ บางขุนเทียน ตลิ่งชัน รวมทั้งพระตำหนัก บ้านสวนปทุม นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยแบ่งให้กองอำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารราบที่ 9 (กอ.ศบภ.พล.ร.9) รับผิดชอบในพื้นที่เขตหนองแขม โดยจัดกำลังพลจำนวน 145 นายพร้อมยุทโธปกรณ์อพยพประชาชนในพื้นที่ พร้อมทำการก่อกระสอบทรายเสริมแนวกั้นน้ำเพิ่ม ที่ มหาวิทยาลัยเอเซียอาคเนย์ และจัดกำลังพลบางส่วนไปปฏิบัติภารกิจ ณ พระตำหนักจักรีบงกช

ด้านวังทวีวัฒนามอบหมายให้ “ผู้การไหล” พ.อ.ชวลิต พงษ์พิทักษ์ ผบ.กรมทหารราบที่ 9 รับผิดชอบจุดนี้ โดยจัดกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 9 (ร้อย.บภ.ร.9) ใช้กำลังพลจำนวน 150 นาย พร้อมเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์เพื่อเข้าไปอุดรอยรั่วของน้ำที่ทะลักมาตามใต้แนวกำแพงด้านทิศเหนือ พร้อมนำกระสอบทรายวางเสริมเป็นแนวกั้นน้ำบริเวณประตูพระตำหนัก (ประตู1) และจัดกำลังพลบางส่วนไปเสริมแนวกระสอบทรายบริเวณประตูสถิตพงษ์ ด้านทิศตะวันออกของวังทวีวัฒนา ส่วน “ผู้การหน่อย” พ.อ.อดิศร โครพ ผบ.กรมทหารราบที่ 19 (ร.19 ) รับผิดชอบในเขตทวีวัฒนา โดยให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 19 (ร้อย.บภ.ร.19 พัน.1) รับผิดชอบจัดกำลังพล 150 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ พร้อมจัดส่งอาหารให้ศูนย์อพยพ รวมถึงจัดเรือลาดตระเวนริมคลองมหาสวัสดิ์และประสาน จส.100 รวมทั้งวิทยุในเครือมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ในการประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่

ขณะที่เขตบางบอน “ผู้การเหลี่ยม” พ.อ.สมบูรณ์ ดีรอด ผบ.กรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 (ป.9) กับ “ผู้การเษม” พ.อ.เกษม เบญจนิรัติศัย ผบ.กรมทหารราบที่ 29 (ร.29 )รับผิดชอบโดยจัดกำลังพลพร้อมยานพาหนะเพื่อเฝ้าระวังในพื้นที่ริมคลองวัฒนาและคลองภาษีเจริญ รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับสำนักงานเขตบางบอนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม รวมทั้งประสานงานเขตเพื่ออำนวยความสะดวกในการอพยพประชาชนจากเขตทวีวัฒนาไปยังศูนย์พักพิงที่เขตหนองแขมและบางบอน ส่วนเขตภาษีเจริญและเขตบางแคมอบหมายให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย ร.9 รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 175 นาย พร้อมยานพาหนะเพื่ออพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านศิริเกษมไปยังศูนย์พักพิงที่โรงเรียนบางแคเหนือ โดยจัดรถบริการประชาชนจากต้นทางบริเวณ ถ.เพชรเกษมถึงปลายทางหมู่บ้านเศรษฐกิจ

ขณะที่กองร้อยบรรเทาสาธารณภัยกรมสนับสนุน (ร้อย.บภ.กรม สน.ฯ) รับผิดชอบในพื้นที่เขตทุ่งครุและบางขุนเทียน โดยจัดกำลังพล 175 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตทวีวัฒนา พร้อมกรอกกระสอบทรายเพิ่มเติมเสริมแนวกั้นน้ำที่เขตทุ่งครุและบางขุนเทียน ส่วนเขตตลิ่งชันมอบหมายให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัยที่ 1 และ 2 (ร้อย.บภ.1 และ 2 ) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 170 นาย พร้อมเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์เพื่อรับส่งและอพยพประชาชนในพื้นที่บริเวณชุมชนสวนผัก ชุมชนทุ่งมังกรและพื้นที่ใกล้เคียง

ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5671538228359209586
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5671538228359209586
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673569839926990866
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673569839926990866

ด้านบริเวณพระตำหนักบ้านสวนปทุมมอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 19 กรมทหารปืนใหญ่ (ป.พัน.19) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพล 100 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ทำงานร่วมกับกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) บริษัทอิตาเลียนไทย กรมชลประทานและกองทัพเรือในการดำเนินการตอกสมอยึดกับพื้นที่ถนนตามแนวคันกั้นน้ำยาว 450 เมตร เพื่อเตรียมทำโครงสร้างประกอบคันกั้นน้ำให้แข็งแรง ซึ่งขณะนี้ดำเนินการตอกสมอไปแล้วประมาณ 300 เมตร ยังคงเหลืออีกประมาณ 150 เมตรก็จะเสร็จสิ้น

ด้านนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังได้มอบมอบหมายให้ กรมทหารราบที่ 9 (ร.9) และกองพันทหารม้าที่ 19 (ม.พัน.19) รับผิดชอบโดยจัดกำลังพล 100 นาย พร้อมยานพาหนะเพื่อเสริมคันกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ส่วนที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 19 (ร.19 พัน.3) รับผิดชอบโดยจัดกำลังพล 112 นายพร้อมยานพาหนะและเรือพลาสติกเพื่อเตรียมการอพยพและขนย้ายสิ่งของมายังศูนย์อพยพที่ ต.นราภิรมย์ และมอบถุงยังชีพไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยที่ ต.บางเลน และ ต.บางปลา รวมทั้งช่วยทำคันน้ำที่ชำรุด ถนนที่ได้รับความเสียหายใน อ.บางเลน

ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5675082935991587426
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5675082935991587426
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673186633515714722
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5673186633515714722

ขณะที่ “บิ๊กต๋อย” พล.ต.ทวีชัย กฤษิชีวิน ผบ.มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ได้รับมอบหมายให้ดูแลนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง-บางชัน เป็นงานหลักที่สำคัญ สนธิกำลังร่วมกับ พล.ร.9 –ม.พัน.19 เพื่อเสริมแนวคันดินและกระสอบทรายเพื่อไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้านิคมฯ ส่งทหารเข้าพื้นที่เขตหนองจอก และ จ.ปทุมธานีบางส่วน โดยได้จัดกำลังพล 105 นาย พร้อมยานพาหนะเพื่อเสริมแนวกระสอบทราย ที่ ชุมชนรอบพระตำหนักจักรีบงกช อ.เมือง จ.ปทุมธานี ทั้งจัดส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าให้การตรวจรักษาประชาชนในพื้นที่เขตหนองจอกตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 12.00 น. ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม

ส่วนเขตมีนบุรีมอบหมายให้กองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) รับผิดชอบโดยการจัดชุดสายตรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 10 นาย แบ่งเป็นไปประจำประตูระบายน้ำ E-7 จำนวน 5 นาย และอีก 5 นายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นิมิตรใหม่ประจำประตูระบายน้ำคลองสามวา นอกจากนี้ยังได้จัดกำลังพลอีก 20 นายช่วยกันสร้างสะพานทางเดินให้ประชาชนในเขตมีนบุรีและอีก 20 นายเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในชุมชนแขวงคู้บอน เขตคลองสามวา

ส่วน “บิ๊กฟิ้งค์” พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผบ.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์(พล.ม.2 รอ.) ส่งกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมเขตดอนเมือง พร้อมส่งทหาร 3 กองร้อยเข้าไปร่วมกับทหารอากาศปฏิบัติภารกิจเร่งกู้ “ตึกกองบัญชาการกองทัพอากาศ” นอกจากนี้ ยังได้จัดรถยูนิมอครับส่งประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง พร้อมตั้งศูนย์ให้ประชาชนใช้เป็นที่พักพิงที่ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.4 รอ.) กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์(ม.5 รอ.)

สำหรับ “บิ๊กยอด” พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) รับผิดชอบเขตดอนเมือง จุดเส้นทางน้ำชุมชนหลักหกเพื่อเพื่อรักษาแนวคันกั้นน้ำไม่ทะลักเข้าสู้ดอนเมืองและคลองประปา ขณะที่ส่ง “บิ๊กตุ่ย” พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล รอง ผบ.นปอ มาบัญชาการช่วยเหลือประชาชนพื้นที่บางบัวทอง พร้อมตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (ศบภ.นปอ.) ส่วนหน้าขึ้นที่บางใหญ่พลาซ่า โดยที่กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) จัดรถ-เรือรับส่งประชาชนไปประกอบอาชีพ นอกจากนี้ พร้อมจัดเรือลาดตระเวนตามตรอก ซอก ซอยต่างๆ พร้อมส่งอาหารให้ประชาชน และเร่งฟื้นฟูบ้านเรือนเมื่อน้ำลดลง

ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5671538981071242514
ที่มาภาพ : https://picasaweb.google.com/114244017754638834563/RTAFloods?feat=flashalbum#5671538981071242514

อย่างไรก็ดี “ผบ.ทบ.” ไม่ได้ประมาทกับมวลน้ำที่พร้อมจะเข้ามายังกทม.และน้ำหนุนในกลางเดือนและสิ้นเดือนพฤศจิกายน จึงได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 ภาคอีสานและกองทัพภาคที่ 3 ส่งกำลังพลมาอยู่ที่ ศปภ.ทบ. สนามกีฬา ทบ.วิภาวดี 40 กองร้อยเพื่อใช้เสริมพื้นที่หลักหากมีเหตุฉุกเฉิน หรือภารกิจพิเศษเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังส่งกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา(พัน.ปจว.) จ.ลพบุรี เข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมถึงส่งทีมแพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้าเข้ารักษาประชาชนที่ป่วยหรือบาดเจ็บจากอุทกภัยครั้งนี้

ทำให้…ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยของ “กองทัพ” แบบ เช้าถึง-เที่ยงถึง-เย็นถึง และบางจุดอาจตลอด 24 ชั่วโมงก็ว่าได้ ทำให้ประชาชนได้รับรู้และเห็นถึงความตั้งใจ ทุ่มเทแรงกายทุกหยาดเหงื่อของ “นักรบ” เพื่อคลี่คลายความเดือดร้อนให้ประชาชนด้วย “หัวใจ” บริสุทธิ์

ดังนั้น…เมื่อผลโพลสำรวจคะแนนนิยมจากประชาชนต่อภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทำให้ “กองทัพ” ได้คะแนนแซงหน้า “รัฐบาล-ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” แบบหักหน้าเลยก็ว่าได้ ส่วนใครจะยอมรับหรือไม่คงแล้วแต่มุมมอง…

“ผมไม่ได้เป็นพระเอก อย่ามองว่าทหารเป็นพระเอก แต่เป็นเพียงผู้ช่วยพระเอกเพราะเรามีนายกฯ อยู่แล้ว คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมีรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยัน

แต่หาก…ถามประชาชนที่เดือดร้อนจะได้รับคำตอบว่า “ทหาร” คือ “พระเอก” ตัวจริงของประชาชน สมดังวลี “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน”