ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : ล็อกดาวน์ 13 จังหวัด ผู้ติดเชื้อรายวันหมื่นห้า

• Facebook
• Twitter
• Line

โควิด-19: ล็อกดาวน์เข้ม 13 จังหวัด — ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตข้างถนน — ติดเชื้อต่อวันนิวไฮต่อเนื่องใกล้ “หมื่นห้า” — ผอ. สถาบันวัคซีนฯ ขอโทษ ปชช. ที่หาวัคซีนไม่ทันการณ์

ล็อกดาวน์เข้ม 13 จังหวัด ขอประชาชน “งด” ออกนอกเคหสถานตลอดวัน

“ช่วงนี้ขอใช้คำว่า ‘ให้’ ไปก่อนนะครับ ให้งด ให้หลีกเลี่ยง เพราะว่าเมื่อถึงมาตรการที่เข้มข้นต่อไป อาจจะจำเป็นต้องใช้คำว่า ‘ห้าม’ เมื่อถึงคำว่าห้ามแล้วเนี่ย คงมีกิจการหรือกิจกรรม ที่ได้รับการยกเว้นน้อยกว่านี้มาก”

พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
กล่าวถึงการ “งด” ออกจากเคหสถาน

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ใช้ “มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด” กับ 13 จังหวัด (กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส อยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา) โดยนอกจากมาตรการต่างๆ แล้วยังมีการขอให้ประชาชนงดออกจากเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น ยกเว้นเพื่อจัดหาอาหาร ยา พบแพทย์ รับวัคซีน และอาชีพต่างๆ ที่จำเป็นต้องออกไปทำข้างนอก

มาตรการดังกล่าวในประกาศฉบับนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 2564 ส่วนการเคอร์ฟิวยังห้ามไม่ให้ออกจากบ้านในเวลา 21.00-04.00 น. เช่นเดียวกับประกาศฉบับก่อนหน้า แต่ขยายเวลาต่อไปอีก 14 วันนับจากวันที่ประกาศฉบับนี้มีผล ทั้งนี้ จะมีการตั้งด่านสกัดของตำรวจและทหาร เพื่อควบคุมการเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 6 จังหวัด

“ความไม่สะดวกสบายที่จะเกิดขึ้นตอนนี้เพื่อลดการเดินทางของท่าน ขอให้อยู่ในเคหสถาน มาตรการเหล่านี้ ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร จะช่วยกันทำงานและเข้มข้นมากขึ้น … คาดการณ์ได้เลยครับว่า สิ่งที่ท่านอยากจะสะดวกสบายจะไม่เกิดขึ้น แล้วก็จะทำให้ท่านต้องตัดสินใจใหม่ที่จะไม่ออกจากบ้าน นี่คือสิ่งที่จะเกิดตั้งแต่วันนี้”

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
กล่าวถึงการควบคุมการเดินทางเข้าออก 6 จังหวัด

อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์บีบีซีไทย — ศบค. ประกาศล็อกดาวน์เข้มข้น 13 จังหวัด ขอให้ ปชช. งดออกจากเคหสถานตลอดวัน
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ — เช็คด่านตรวจคัดกรอง กทม. 6 จุด สกัดแรงงานเคลื่อนย้ายออกต่างจังหวัด

ผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตข้างถนน

วันที่ 20 ก.ค. 2564 เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตข้างถนนรวม 4 รายในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยมี 2 รายในนี้ที่พบว่าติดเชื้อโควิด-19

รายที่หนึ่ง เสียชีวิตภายในตรอกบ้านพานถม แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรณีมีการเผยแพร่กันว่าถูกทิ้งให้นอนอยู่บนถนนนานถึง 6 ชั่วโมง ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่แถลงว่า ได้รับแจ้ว่ามีคนล้มลงเวลา 11.00 น. ตำรวจประสานแพทย์ช่วยเหลือให้โดยออกซิเจนและกู้ชีพ กระทั่งเหตุเวลา 17.00 น. ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ ต่อมาเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งทำการเก็บศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลวชิระ และพบว่าติดโควิด-19
รายที่สอง เสียชีวิตหน้าศึกษาภัณฑ์ ถนนราชดำเนิน แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร พบศพนายเสรี เรืองโรจนฤทธิ์ อายุ 59 ปี ชาวจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานแพทย์ จากนั้นนิติเวชโรงพยาบาลวชิระเข้าตรวจสอบ และจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งได้ทำการเก็บศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลวชิระ เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอผลตรวจว่ามีการติดเชื้อโควิดหรือไม่
รายที่สาม เสียชีวิตภายในบริเวณวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร จากการชันสูตรพลิกศพพบผลตรวจติดเชื้อโควิด-19
รายที่สี่ เสียชีวิตบริเวณหน้าศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส สาขาพระรามที่ 4 ไม่มีเอกสารประจำตัว (บุคคลเร่ร่อน) ชันสูตรพลิกศพพบไม่ติดเชื้อโควิด-19

อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ 4 ศพที่พบในพื้นที่ กทม. ตรวจพบติดโควิด 2 ราย 1 รายเป็นคนเร่ร่อนนอนตายไม่ติดเชื้อ อีกรายอยู่ระหว่างชันสูตร ยันเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน อาจล่าช้าเพราะอยู่ในสถานการณ์โควิด แต่ไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ตำรวจสรุปเหตุการณ์ 4 ศพ นอนตายกลางกรุง กำชับสายตรวจต้องใส่ชุดพีพีอี
เว็บไซต์ THE STANDARD — วันเดียว 4 ศพ ถูกปล่อยทิ้งเสียชีวิตข้างถนน กทม. เทศกิจเขตพระนครแจง มีรถเก็บศพคันเดียว

ผอ. สถาบันวัคซีนฯ ขอโทษ ปชช. ที่หาวัคซีนไม่ทันการณ์

วันที่ 21 ก.ค. 2564 นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวขอโทษประชาชนกรณีที่จัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ไม่ทันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด

นพ.นครากล่าวว่า “แม้ว่าเราจะได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังจัดหาวัคซีนได้ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ อีกทั้งการกลายพันธุ์ของไวรัส ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ทำให้การระบาดของโรครวดเร็วและรุนแรง การจัดหาวัคซีนจึงไม่ทันต่อสถานการณ์ ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย”

และยังระบุด้วยว่า รัฐบาลยังอยู่ในการเข้าร่วมกับโครงการ COVAX เพียงแต่ยังไม่มีการลงนามในการจัดหาวัคซีนร่วมกัน ส่วนนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเริ่มเตรียมการเจรจาประสานงานในการจัดหาวัคซีนร่วมกับ COVAX โดยมีเป้าหมายได้รับวัคซีนในปี 2565 ควบคู่ไปกับการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนด้วยตัวเอง หากมีข้อสรุปเบื้องต้นที่ชัดเจนจะมีการเสนอผ่านคณะทำงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

อ่านเพิ่มเติม
เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรุงเทพธุรกิจ — ผอ. ‘สถาบันวัคซีนแห่งชาติ’ ขอโทษประชาชน ปมจัดหาวัคซีนโควิดไม่ทันสถานการณ์

ไฟเซอร์-ไบออนเทค เผยเซ็นสัญญาวัคซีน 20 ล้านโดสกับไทยแล้ว

วันที่ 20 ก.ค. 2564 บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทไบออนเทคได้ประกาศลงนามทำสัญญากับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสสำหรับปี 2564 ให้กับประเทศไทยแล้ว

เด็บบราห์ ไซเฟิร์ต ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทยและอินโดไชนา กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้เซ็นสัญญาที่มีความสำคัญนี้กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันในความพยายามที่จะลดการติดเชื้อในประเทศ สัญญานี้เป็นการเน้นยํ้าถึงความมุ่งมั่นของไฟเซอร์ในการจัดหาวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 นี้และยังเป็นการเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของคนทั่วโลก”

ทั้งนี้ วัคซีนที่ทำสัญญากันนั้นมีจำนวน 20 ล้านโดส และมีแผนกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ (2564)

อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์บีบีซีไทย — วัคซีนโควิด-19: ไฟเซอร์-ไบออนเทคเซ็นสัญญาซื้อขาย mRNA 20 ล้านโดสกับกรมควบคุมโรคแล้ว
เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรุงเทพธุรกิจ — “ไฟเซอร์และไบออนเทค” เผยได้เซ็นสัญญาซื้อขายแล้วจำนวน 20 ล้านโดส ระบุ จะจัดส่งวัคซีนโควิด ให้กับประเทศไทยในช่วงไตรมาส 4 ปี 64

ฟิลิปปินส์สกัดเดลตา แบนไทย-มาเลฯ ไม่ให้เข้าประเทศ

หลังจากอาทิตย์ที่แล้วไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกคณะมนตรียุโรป (European Council) ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทั้ง 27 ประเทศถอดออกจากรายชื่อประเทศปลอดภัย ที่ชาติสมาชิกสามารถพิจารณาให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ในช่วงที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด มาสัปดาห์นี้ ประเทศฟิลิปปินส์ก็ประกาศแบนนักเดินทางจากประเทศไทย และมาเลเซียไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

การประกาศดังกล่าวเป็นการประกาศเพิ่มเติมหลังจากที่ก่อนหน้านี้ประกาศแบนไปแล้ว 8 ประเทศ โดยประกาศในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฟิลิปปินส์พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาระบาดในชุมชน และมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวแล้ว 1 ศพ

อ่านเพิ่มเติม

เว็บไซต์ไทยพับลิก้า –ไทยหลุด EU White List “กลุ่มประเทศปลอดภัย” เหตุผู้ติดเชื้อเกินมาตรฐาน

เฟซบุ๊กแฟนเพจ WorkpointTODAY — สหภาพยุโรปมีมติปลด ‘ไทย-รวันดา’ พ้นประเทศปลอดภัยจากโควิด-19 พร้อมเพิ่ม ‘ยูเครน’ อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความปลอดภัย (EU White List) ที่ชาติสมาชิกสามารถพิจารณาให้เดินทางเข้าประเทศได้ในช่วงที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด

เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ฟิลิปปินส์แบนนักเดินทางจากไทย-มาเลเซีย ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ