ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 17-23 ก.ค. 2564
-
– ลือสะพัดยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ อนุทินปัด “จะยุบได้อย่างไร”
– วัคซีนไฟเซอร์ที่อเมริกาบริจาคถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส เผย เป้าบริจาค 2.5 ล้านโดส
ลือสะพัดยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ อนุทินปัด “จะยุบได้อย่างไร”
27 ก.ค. 2563 เว็บไซต์มติชนออนไลน์นำเสนอข่าวว่า มีผู้บริหารของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ส่งสัญญาณให้หยุดการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ด้วยเหตุผลทางการเมืองบางประการ และจะนำบริการฉีดวัคซีนไปทำการฉีดในส่วนบริการของกรุงเทพมหานครแทน และยังรายงานด้วยว่า หากมีการเสนอจาก ศบค. ให้ลดหรือเลิกการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ มีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องลดจำนวนการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ หรือปิดศูนย์ฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมือง แล้วจัดทีมแพทย์ไปฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นแทน
ทั้งนี้ ไม่มีการอธิบายเพิ่มเติมว่า เพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมืองหมายความว่าอย่างไร
ต่อเรื่องดังกล่าว อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “จะยุบได้อย่างไร ไม่ต้องกังวล เราทำสิ่งที่ดีแล้ว” และยังบอกด้วยว่า “ยังยืนยัน ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ปรับบริการ ลดแออัด พร้อมเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้มีน้ำหนักเกิน 100 กก. และหญิงมีครรภ์ Walk in ได้ถึง 31 ก.ค. นี้”
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์มติชนออนไลน์ — สะพัดยุบศูนย์ฉีดบางซื่อ โยก กทม.รับหน้าเสื่อ
เว็บไซต์บีบีซีไทย — โควิด-19 : ภูมิใจไทยปัดข่าวลือยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ กับข่าวจริงฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ตำรวจบุรีรัมย์
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — “อนุทิน” ยืนยัน ไม่มีการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ
เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ — อนุทิน พูดแล้วเคลียร์! ศึกเดือดกลาง ครม. “สธ. VS กทม.” ปมศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ
วัคซีนไฟเซอร์ที่อเมริกาบริจาคถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส เผย เป้าบริจาค 2.5 ล้านโดส

วัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้ประเทศไทย ได้เดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 เป็นจำนวน 1.5 ล้านโดส
ทั้งนี้ วันที่ 27 ก.ค. 2564 ก่อนหน้าที่วัคซีนลอตนี้จะมาถึง มีตัวแทนจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งประกอบด้วย หมอไม่ทน, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect , สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA Thailand Official) และ DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร ได้ยื่นหนังสือถึงตัวแทน สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอให้กำกับทางรัฐบาลไทยเรื่องความโปร่งใสของวัคซีนไฟเซอร์ลอตนี้
แผนการจัดสรร #วัคซีนไฟเซอร์ (#Pfizer) จำนวน 1.54 ล้านโดส…
Posted by รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล on Tuesday, July 27, 2021
รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจรัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล ว่า วัคซีนไฟเซอร์ลอตนี้จะจัดสรรให้แก่ 5 กลุ่ม ดังนี้
1. บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับภารกิจดูแลผู้ป่วย #โควิด19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) 700,000 โดส
2. ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 ที่มีสัญชาติไทย 645,000 โดส
-
– ผู้สูงอายุ
– ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค อายุ 12 ปีขึ้นไป
– หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไป ตปท. ที่จำเป็นต้องรับวัคซีน Pfizer เช่น นักการทูต นักศึกษา 150,000 โดส
4. ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) 5,000 โดส
5. สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ 40,000 โดส
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวด้วยว่า พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ท วุฒิสมาชิกสหรัฐ เชื้อสายไทย เปิดเผยว่ามีเป้าจะบริจาค 2.5 ให้ไทยล้านโดส ซึ่งหมายความว่าไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์จากอเมริกาอีก 1 ล้านโดส แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ — วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส สหรัฐบริจาค เดินทางถึงไทยแล้ว
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — กลุ่มสาธารณสุข เรียกร้องทูตสหรัฐฯ ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่บริจาค
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — เปิดแผนจัดสรร “วัคซีนไฟเซอร์” 1.54 ล้านโดส คนกลุ่มไหนได้บ้าง
เฟซบุ๊กแฟนเพจรัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล — แผนการจัดสรร #วัคซีนไฟเซอร์ (#Pfizer) จำนวน 1.54 ล้านโดส ให้ใครบ้าง?
ราชกิจจาฯ ประกาศ ห้ามแพร่ข่าวที่ทำให้คนกลัว-ข่าวเท็จ ใครฝ่าฝืนตัดเน็ต
วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) เนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 และต่อมาขยายเวลาการใช้บังคับออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 นั้น
โดยที่มีการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือข้อมูลที่บิดเบือน ทำให้เข้าใจผิดหรือสับสน กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ การละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น การรักษาความสงบเรียกร้อยหรือการรักษาสุขภาพของประชาชนโดยผ่านทางสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ต อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯ ออกข้อกำหนดไว้ดังนี้
1.ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
2.กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารตามข้อ 1 ในอินเตอร์เน็ต ให้ กสทช. แจ้งผู้รับใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ตตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมทุกรายทราบ และให้ผู้รับใบอนุญาตังกล่าวทุกราย มีหน้าที่ตรวจสอบว่าข้อความหรือข่าวสารดังกล่าวมาจากเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ใด
หากเป็นเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ที่ตนเป็นผู้ให้บริการ ให้แจ้งรายละเอียดตามที่ กสทช.ทราบและให้ระงับการให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ไอพี (IP address) นั้นทันที ให้ กสทช.ส่งรายละเอียดตามที่ได้รับแจ้งตามวรรคที่หนึ่งให้แก่ สำนักตำรวจแห่งชาติ (ตร.)โดยเร็วเพื่อดำเนินคดีต่อไป ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตำมวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ต และให้ กสทช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป ประกาศวันที่ 29 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี
“สรยุทธ” ได้พระราชทานอภัยโทษ พ้นโทษก่อนกำหนด-ปลดกำไลอีเอ็ม

ที่มาภาพ: เว็บไซต์เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th/crime/382690
จากกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย และระบุไว้ในมาตรา 5 ของ พ.ร.ฎ. ด้วยว่า ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนั้นจะมีกลุ่มผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ
พ.ร.ฎ. ดังกล่าว จึงทำให้สรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ และขณะนี้ติดกำไลอีเอ็มอยู่ ได้รับสิทธิพ้นจากการพักโทษ และได้ปลดกำไลอีเอ็มก่อนครบกำหนดโทษ จากที่เดิมต้องติดกำไลอีเอ็มเป็นระยะเวลา 14 เดือน (14 มี.ค. 2564 ถึง 20 พ.ค. 2565) และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษคือในวันที่ 26 ก.ค. 2566 รวม 2 ปี 4 เดือน
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ — สรยุทธได้รับอภัยโทษ ปลดกำไลอีเอ็ม พ้นพักโทษก่อนกำหนด
ตอลิบานบุกยึดเมืองต่างๆ ในอัฟกานิสถานหลังสหรัฐฯ ถอนทหาร
เว็บไซต์บีบีซีไทยรตายงานว่า ภายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธตอลิบานได้เข้ายึดครองพื้นที่ต่างๆ ในประเทศอัฟกานิสถานอีกครั้ง และคราวนี้ยึดได้มากกว่าครั้งใดๆ นับแต่ถูกโค่นอำนาจเมื่อปี ค.ศ. 2001 และยังรายงานด้วยว่า ความฮึกเหิมของตอลิบานดูจะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทหารสหรัฐฯ ถอนกำลังไปจากแนวพรมแดน
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การถอนกำลังของสหรัฐฯ มีเหตุผล เพราะกองกำลังสหรัฐฯ มั่นใจแล้วว่าอัฟกานิสถานจะไม่ตกเป็นฐานของนักรบจีฮัดจากต่างประเทศเพื่อวางแผนโจมตีชาติตะวันตกอีกต่อไป แต่นักวิเคราะห์บางส่วนในสหรัฐฯ เกรงว่าตอลิบานจะยึดอัฟกานิสถานได้ภายใน 6 เดือน ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า กองกำลังความมั่นคงอาจจะเดินหน้าบุกได้ โดยสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการชะลอการบุกของฝ่ายตาลีบัน ก่อนที่จะพยายามยึดดินแดนคืนมาจากกลุ่มตาลีบัน
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์บีบีซีไทย — สำรวจการฟื้นชีพ-รุกกลับของตาลีบัน หลังอัฟกานิสถานประกาศเคอร์ฟิวครบสัปดาห์
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — อัฟกานิสถานระส่ำ ‘ตาลีบัน’ คืนชีพ บุกยึดเมือง มีฐานที่มั่นทั่วประเทศ