ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 17-23 ก.ค. 2564

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 17-23 ก.ค. 2564

31 กรกฎาคม 2021


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 17-23 ก.ค. 2564

  • โควิด-19: อนุทินยันไม่ยุบบางซื่อ — วัคซีนไฟเซอร์ที่อเมริกาบริจาคถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส
    • – ลือสะพัดยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ อนุทินปัด “จะยุบได้อย่างไร”
      – วัคซีนไฟเซอร์ที่อเมริกาบริจาคถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส เผย เป้าบริจาค 2.5 ล้านโดส
  • ราชกิจจาฯ ประกาศ ห้ามแพร่ข่าวที่ทำให้คนกลัว-ข่าวเท็จ ใครฝ่าฝืนตัดเน็ต
  • “สรยุทธ” ได้พระราชทานอภัยโทษ พ้นโทษก่อนกำหนด-ปลดกำไลอีเอ็ม
  • ตอลิบานบุกยึดเมืองต่างๆ ในอัฟกานิสถานหลังสหรัฐฯ ถอนทหาร

  • จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทำนิวไฮต่อเนื่อง หลังจากสัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ติดเชื้อเข้าใกล้ 15,000 ราย ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทะลุ 18,000 รายไปแล้ว
  • เกิดข่าวลือแพร่สะพัดว่าจะมีการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมือง แล้วจะนำวัคซีนไปฉีดในส่วนการให้บริการของทางกรุงเทพมหานครแทน แต่ รมว.สาธารณสุขยืนยันว่าไม่ยุบ
  • วัคซีนไฟเซอร์ที่อเมริกาบริจาคถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส และมีรายงานข่าวว่า พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ท วุฒิสมาชิกสหรัฐ เชื้อสายไทย เปิดเผยว่ามีเป้าจะบริจาค 2.5 ให้ไทยล้านโดส

  • ลือสะพัดยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ อนุทินปัด “จะยุบได้อย่างไร”

    27 ก.ค. 2563 เว็บไซต์มติชนออนไลน์นำเสนอข่าวว่า มีผู้บริหารของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ส่งสัญญาณให้หยุดการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ด้วยเหตุผลทางการเมืองบางประการ และจะนำบริการฉีดวัคซีนไปทำการฉีดในส่วนบริการของกรุงเทพมหานครแทน และยังรายงานด้วยว่า หากมีการเสนอจาก ศบค. ให้ลดหรือเลิกการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ มีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องลดจำนวนการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ หรือปิดศูนย์ฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมือง แล้วจัดทีมแพทย์ไปฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นแทน

    ทั้งนี้ ไม่มีการอธิบายเพิ่มเติมว่า เพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมืองหมายความว่าอย่างไร

    ต่อเรื่องดังกล่าว อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “จะยุบได้อย่างไร ไม่ต้องกังวล เราทำสิ่งที่ดีแล้ว” และยังบอกด้วยว่า “ยังยืนยัน ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ปรับบริการ ลดแออัด พร้อมเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้มีน้ำหนักเกิน 100 กก. และหญิงมีครรภ์ Walk in ได้ถึง 31 ก.ค. นี้”

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์มติชนออนไลน์ — สะพัดยุบศูนย์ฉีดบางซื่อ โยก กทม.รับหน้าเสื่อ
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — โควิด-19 : ภูมิใจไทยปัดข่าวลือยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ กับข่าวจริงฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ตำรวจบุรีรัมย์
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — “อนุทิน” ยืนยัน ไม่มีการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ
    เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ — อนุทิน พูดแล้วเคลียร์! ศึกเดือดกลาง ครม. “สธ. VS กทม.” ปมศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ

    วัคซีนไฟเซอร์ที่อเมริกาบริจาคถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส เผย เป้าบริจาค 2.5 ล้านโดส

    ที่มาภาพ: เฟซบุ๊กแฟนเพจ U.S. Embassy Bangkok

    วัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้ประเทศไทย ได้เดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 เป็นจำนวน 1.5 ล้านโดส

    ทั้งนี้ วันที่ 27 ก.ค. 2564 ก่อนหน้าที่วัคซีนลอตนี้จะมาถึง มีตัวแทนจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งประกอบด้วย หมอไม่ทน, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect , สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA Thailand Official) และ DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร ได้ยื่นหนังสือถึงตัวแทน สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอให้กำกับทางรัฐบาลไทยเรื่องความโปร่งใสของวัคซีนไฟเซอร์ลอตนี้

    แผนการจัดสรร #วัคซีนไฟเซอร์ (#Pfizer) จำนวน 1.54 ล้านโดส…

    Posted by รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล on Tuesday, July 27, 2021

    รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจรัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล ว่า วัคซีนไฟเซอร์ลอตนี้จะจัดสรรให้แก่ 5 กลุ่ม ดังนี้

    1. บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับภารกิจดูแลผู้ป่วย #โควิด19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) 700,000 โดส
    2. ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 ที่มีสัญชาติไทย 645,000 โดส

      – ผู้สูงอายุ
      – ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค อายุ 12 ปีขึ้นไป
      – หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป

    3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไป ตปท. ที่จำเป็นต้องรับวัคซีน Pfizer เช่น นักการทูต นักศึกษา 150,000 โดส
    4. ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) 5,000 โดส
    5. สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ 40,000 โดส

    ทั้งนี้ มีรายงานข่าวด้วยว่า พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ท วุฒิสมาชิกสหรัฐ เชื้อสายไทย เปิดเผยว่ามีเป้าจะบริจาค 2.5 ให้ไทยล้านโดส ซึ่งหมายความว่าไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์จากอเมริกาอีก 1 ล้านโดส แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ — วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส สหรัฐบริจาค เดินทางถึงไทยแล้ว
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — กลุ่มสาธารณสุข เรียกร้องทูตสหรัฐฯ ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่บริจาค
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — เปิดแผนจัดสรร “วัคซีนไฟเซอร์” 1.54 ล้านโดส คนกลุ่มไหนได้บ้าง
    เฟซบุ๊กแฟนเพจรัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล — แผนการจัดสรร #วัคซีนไฟเซอร์ (#Pfizer) จำนวน 1.54 ล้านโดส ให้ใครบ้าง?

    ราชกิจจาฯ ประกาศ ห้ามแพร่ข่าวที่ทำให้คนกลัว-ข่าวเท็จ ใครฝ่าฝืนตัดเน็ต

    วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) เนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 และต่อมาขยายเวลาการใช้บังคับออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 นั้น

    โดยที่มีการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือข้อมูลที่บิดเบือน ทำให้เข้าใจผิดหรือสับสน กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ การละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น การรักษาความสงบเรียกร้อยหรือการรักษาสุขภาพของประชาชนโดยผ่านทางสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ต อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯ ออกข้อกำหนดไว้ดังนี้

    1.ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
    2.กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารตามข้อ 1 ในอินเตอร์เน็ต ให้ กสทช. แจ้งผู้รับใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ตตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมทุกรายทราบ และให้ผู้รับใบอนุญาตังกล่าวทุกราย มีหน้าที่ตรวจสอบว่าข้อความหรือข่าวสารดังกล่าวมาจากเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ใด
    หากเป็นเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ที่ตนเป็นผู้ให้บริการ ให้แจ้งรายละเอียดตามที่ กสทช.ทราบและให้ระงับการให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ไอพี (IP address) นั้นทันที ให้ กสทช.ส่งรายละเอียดตามที่ได้รับแจ้งตามวรรคที่หนึ่งให้แก่ สำนักตำรวจแห่งชาติ (ตร.)โดยเร็วเพื่อดำเนินคดีต่อไป ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตำมวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ต และให้ กสทช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป ประกาศวันที่ 29 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี

    “สรยุทธ” ได้พระราชทานอภัยโทษ พ้นโทษก่อนกำหนด-ปลดกำไลอีเอ็ม

    นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th/crime/382690

    จากกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย และระบุไว้ในมาตรา 5 ของ พ.ร.ฎ. ด้วยว่า ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนั้นจะมีกลุ่มผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ

    พ.ร.ฎ. ดังกล่าว จึงทำให้สรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ และขณะนี้ติดกำไลอีเอ็มอยู่ ได้รับสิทธิพ้นจากการพักโทษ และได้ปลดกำไลอีเอ็มก่อนครบกำหนดโทษ จากที่เดิมต้องติดกำไลอีเอ็มเป็นระยะเวลา 14 เดือน (14 มี.ค. 2564 ถึง 20 พ.ค. 2565) และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษคือในวันที่ 26 ก.ค. 2566 รวม 2 ปี 4 เดือน

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ — สรยุทธได้รับอภัยโทษ ปลดกำไลอีเอ็ม พ้นพักโทษก่อนกำหนด

    ตอลิบานบุกยึดเมืองต่างๆ ในอัฟกานิสถานหลังสหรัฐฯ ถอนทหาร

    เว็บไซต์บีบีซีไทยรตายงานว่า ภายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธตอลิบานได้เข้ายึดครองพื้นที่ต่างๆ ในประเทศอัฟกานิสถานอีกครั้ง และคราวนี้ยึดได้มากกว่าครั้งใดๆ นับแต่ถูกโค่นอำนาจเมื่อปี ค.ศ. 2001 และยังรายงานด้วยว่า ความฮึกเหิมของตอลิบานดูจะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทหารสหรัฐฯ ถอนกำลังไปจากแนวพรมแดน

    ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การถอนกำลังของสหรัฐฯ มีเหตุผล เพราะกองกำลังสหรัฐฯ มั่นใจแล้วว่าอัฟกานิสถานจะไม่ตกเป็นฐานของนักรบจีฮัดจากต่างประเทศเพื่อวางแผนโจมตีชาติตะวันตกอีกต่อไป แต่นักวิเคราะห์บางส่วนในสหรัฐฯ เกรงว่าตอลิบานจะยึดอัฟกานิสถานได้ภายใน 6 เดือน ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า กองกำลังความมั่นคงอาจจะเดินหน้าบุกได้ โดยสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการชะลอการบุกของฝ่ายตาลีบัน ก่อนที่จะพยายามยึดดินแดนคืนมาจากกลุ่มตาลีบัน

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — สำรวจการฟื้นชีพ-รุกกลับของตาลีบัน หลังอัฟกานิสถานประกาศเคอร์ฟิวครบสัปดาห์
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — อัฟกานิสถานระส่ำ ‘ตาลีบัน’ คืนชีพ บุกยึดเมือง มีฐานที่มั่นทั่วประเทศ