ThaiPublica > คอลัมน์ > Analog Squad ทีมรักนักหลอก… Fake Family เมื่อคำโกหกทำให้อีกคนมีความสุข

Analog Squad ทีมรักนักหลอก… Fake Family เมื่อคำโกหกทำให้อีกคนมีความสุข

19 มกราคม 2024


Hesse004

ที่มาภาพ : https://about.netflix.com/th/news/analog-squad-release-date

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Netflix ปล่อยซีรีส์ไทยเรื่อง Analog Squad ผลงานการกำกับของคุณนิธิวัฒน์ ธราธร หนึ่งในกลุ่มผู้กำกับ “แฟนฉัน (2546)”

หลังจากที่คุณต้น นิธิวัฒน์ โด่งดังจากผลงานขึ้นหิ้งคลาสสิกอย่าง “แฟนฉัน” แล้ว คุณต้นได้ทำหนังอีกหลายเรื่อง เป็นแนว feel good ทั้ง Season Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (2549) หนีตามกาลิเลโอ (2552) คิดถึงวิทยา (2557) และผลงานล่าสุดจากซีรีส์งานดีอย่าง Analog Squad (2566)

หนังของคุณต้น นิธิวัฒน์ เป็นหนังที่ถ่ายทำด้วยความละเมียดละไม บทหนังดีมาก เลือกสถานที่ถ่ายทำสวยๆ ทำให้ตัวหนังมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

Analog Squad เป็นซีรีส์ประเภท comedy drama ดูแล้วอบอุ่น ถวิลหา (nostalgia) วันวานในอดีตซึ่งหนังเรื่องนี้วางฉากหลังไว้ในปี 1999 ก่อนเหตุการณ์ Y2k หรือเข้ายุคมิลเลเนี่ยม

เอาเฉพาะแค่ฉากหลังก่อนยุค Y2K… ทำให้รู้สึกคิดถึงวันวาน ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ สังคม ดนตรี แฟชั่นเสื้อผ้า ฟุตบอล รวมถึงหนังต่างๆ ที่ Analog Squad เอ่ยถึง… โดยมี “เพจเจอร์” เป็นตัวแทนเครื่องมือสื่อสารแห่งยุคสมัย

ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว หลังวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ “ต้มยำกุ้ง Crisis” ทำให้ผู้คนจำนวนมากเผชิญพิษเศรษฐกิจที่ถดถอยครั้งรุนแรง… เด็กเรียนจบใหม่ว่างงานเต็มไปหมด เกิดหนี้เสียครั้งมโหฬาร และท้ายที่สุดหลายประเทศต้องเข้ารับการช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF

เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียม… ยุค analog ค่อยๆ เลือนหาย จากไปอย่างช้าๆ พร้อมกับกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค digital

ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ลองมาไล่เรียงทบทวนกันว่าเราเปลี่ยนผ่านจากโลก analog สู่ digital กันอย่างไร

  • ช่วงที่ 1 ช่วงเตรียมตัวเข้าสู่ยุค Y2K เรายังใช้เพจเจอร์สื่อสารข้อความ ผ่านการโทรไปยังคอลเซ็นเตอร์เพื่อแจ้งข้อความให้อีกฝ่ายรู้…ช่วงนั้นเริ่มมี Dot.com Boom เป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตกำลังเติบโต หลายบ้านเริ่มหาซื้อเครื่อง PC มี Windows 95/98 ใช้อินเทอร์เน็ตแบบสาย LAN
  • ช่วงที่ 2 ตั้งแต่ต้นสหัสวรรษถึงกลางปี 2000 เริ่มมีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และอีคอมเมิร์ซ ผู้คนเริ่มได้ยินคำว่าสมาร์ทโฟน
  • ช่วงที่ 3 ปลายยุค 2000 ต่อต้น 2010 เราเรียกช่วงนี้ว่า Smart Phone and App Revolution Period ช่วงเวลาที่ Mark Zuckerberg แนะนำให้โลกรู้จัก Facebook คำว่า Android เริ่มคุ้นหูมากขึ้น หลายประเทศใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลทำงานรูปแบบต่างๆ
  • ช่วงที่ 4 ระหว่างปี 2010-2015 ช่วงนี้เราเรียกว่า Digital Integration คน Gen X อย่างผมต้องมาทำความรู้จักศัพท์ใหม่ๆ ที่เป็น buzzword อย่าง big data, AI, machine learning, blockchain รวมถึง IoT ยุคนี้เริ่มดูหนัง ฟังเพลงผ่านช่องทางสตรีมซึ่งแพลตฟอร์มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ
  • ช่วงที่ 5 ตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปี 2020 ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด… การใช้ชีวิตขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทุกอย่าง หรือ data driven และเชื่อมต่อกับผู้คนทั่วโลก เราใช้ IoT เป็นเรื่องปกติ อินเทอร์เน็ตเราใช้ 5G ระบบเศรษฐกิจมีทั้ง gig economy และ sharing economy การใช้ VR และ AR ทำให้การใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลเหมือนใช้ชีวิตเสมือนจริง
  • ช่วงที่ 6 ช่วงโควิด-19 ระบาดจนสิ้นสุดการระบาด ปัจจุบัน เราอยู่ในยุค next normal การใช้ชีวิตแสนสะดวกสบาย เพียงแค่มีสมาร์ตโฟนเราสามารถทำงานอยู่บ้านโดยร่วมประชุมกับเพื่อนร่วมงานจากทั่วโลก ขอเพียงแค่มีแพลตฟอร์มของ Zoom หรือ MsTeam …เราสามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์โด่งดังได้ภายในช่วงข้ามคืนจากคลิปไวรัล โดยมี Twitter, Instagram, Facebook, TikTok เป็นโทรโข่ง
  • …แม้เราจะพูดถึง work-life-balance กันมากขึ้น ท่ามกลางการแสวงหาความสมบูรณ์แบบในชีวิต คำถามคือ ทำไม เรากลับยิ่งเปลี่ยวเหงา สับสน ไม่รู้จักตัวเอง และห่างจากสิ่งที่เรียกว่า “ความสุข”

    สำหรับผมแล้ว ซีรีส์ Analog Squad สะท้อนภาพคุณค่าของคำว่า “ครอบครัว”

    ครอบครัวที่เราอาจกลับมาตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วความหมายของครอบครัวคืออะไรกันแน่ ระหว่างครอบครัวที่มาจากสายเลือดเดียวกัน หรือครอบครัวที่เราสามารถสร้างขึ้นมาเองได้

    วันที่เราอยู่ในยุค Analog การพบปะสื่อสารเรื่องราวของผู้คนในครอบครัว อาจเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร กินข้าวด้วยกัน ใช้เวลาร่วมกันวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือพักผ่อนด้วยกัน

    อย่างไรก็ดี โลกยุคดิจิทัลแทบทุกครอบครัวมี Line ครอบครัวกันเกือบทุกบ้าน

    Line ครอบครัว เปรียบเสมือนช่องทางสื่อสาร พบปะของคนในครอบครัวผ่านห้องแชท

    หากนั่งสังเกตการณ์ Line ครอบครัว เราจะเห็นคนแต่ละเจนที่ยังแสดงความรัก ความผูกพันกันในวันที่เราไม่ค่อยพบปะกันแบบซึ่งๆ หน้า

    การส่งรูปภาพดอกไม้ สวัสดีวันจันทร์ ถึงวันนักขัตฤกษ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเตือนความทรงจำให้เห็นว่า “เรายังมีชีวิตอยู่” และยังระลึกกันอยู่ทุกวัน

    เมื่อ 25 ปีก่อน สมัยผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ผมจำได้ว่า ทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน “อาม่า” ของผมมักมานั่งรอส่งผมกับน้องสาวไปทำงาน พร้อมกับให้ศีลให้พร ก่อนออกจากบ้าน เช่น ขอให้พระคุ้มครอง เดินทางปลอดภัย ขับรถดีๆ นั่งรถดีๆ นะ

    คำพูดเหล่านี้ยังอยู่ในความทรงจำของผมจนถึงวันนี้… สิ่งที่อาม่าพูดเมื่อหลายสิบปีก่อน คล้ายๆ กับวันที่พวกเราได้รับภาพดอกไม้ สติกเกอร์ไลน์ คำพูดดีๆ จากผู้ใหญ่ที่เขายังนึกถึงเรา

    Analog Squad เล่าถึงความผูกพันของคนสี่คนที่มาทำงานร่วมกันด้วยการสร้าง fake family เพื่อเล่นบทครอบครัว (พ่อ แม่ ลูกสาว ลูกชาย)

    จุดประสงค์ของ fake family เพื่อทำให้คนแก่ ปู่กับย่าสบายใจที่ได้เห็นครอบครัวลูกชายมาเยี่ยมในวันที่ปู่กำลังจะตาย… ทั้งที่ความจริงแล้ว ครอบครัวลูกชายได้แตกสลายไปนานแล้ว หย่ากับเมีย และไม่ได้อยู่กับลูกตัวเอง

    ประเด็นการสร้าง fake family ใน Analog Squad จึงเป็นการทำให้คนอื่นมีความสุขด้วยการโกหกจากการแสดงอย่างแนบเนียน

    ความจริงบ่อยครั้งมันทำให้เราเจ็บปวด การยอมรับความเจ็บปวดนั้นได้และอยู่กับมันจึงเป็นความกล้าหาญอย่างหนึ่ง

    ผมชอบบทของ “เก็ก” ตัวละครที่ถูกจ้างให้มาเล่นเป็นลูกชาย…ในชีวิตจริงของเก็กนั้นเขามีปมเรื่องแม่ที่เป็นนางแบบนู้ดยุค 90 แต่สิ่งที่เก็ก มีคือ ทัศนคติที่ดีและมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อวันหน้า

    คำพูดหนึ่งที่เก็กพูดไว้ คือ บางครั้งเขาจำเป็นต้อง “โกหกเพื่อให้คนอื่นมีความสุข”

    fake family คือ ครอบครัวปลอมๆ ที่ถูกจ้างและสร้างขึ้นมา เพื่อรักษาคุณค่าบางอย่าง ของคำว่า “ครอบครัว” ไว้

    “คุณค่า” ที่ว่า คือ ความรัก ความอบอุ่น การมีชีวิตที่ดี เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รู้สึกสบายใจและจากโลกนี้ไปอย่างตายตาหลับ

    หนังแนว fake family เท่าที่เห็นมีหนังเกาหลีอย่าง Parasite (2019) ที่ได้รางวัลออสการ์ และ Shoplifter (2018) หนังญี่ปุ่นที่ได้รางวัลปาล์มทองคำ

    สมาชิกในครอบครัวแบบ fake family ต่างไม่มีสายใยอะไรยึดโยงกันเลย พวกเขาไม่ผูกพันกันทางสายเลือด… แต่ต้องมาอยู่ด้วยกัน สร้างครอบครัวกันในฐานะ fake family สร้างครอบครัวกันแบบปลอมๆ

    อย่างไรก็ตาม มนุษย์เรายังมีความรู้สึก ความรัก ความผูกพัน… แม้ความปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่อย่างน้อยที่สุดมันกลับช่วยสร้าง “สายใย” ให้รัดเกี่ยวกันจนเกิดเป็นความรักที่เหมือนคนในครอบครัวจริงๆ