ThaiPublica > คอลัมน์ > อี มย็อง-บัก จาก “ฮีโร่” สู่ “ซีโร่”

อี มย็อง-บัก จาก “ฮีโร่” สู่ “ซีโร่”

16 ตุลาคม 2018


Hesse004

เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ศาลกรุงโซล เกาหลีใต้ มีคำพิพากษาตัดสินจำคุกนาย อี มย็อง-บัก (Lee Myung-bak) อดีตประธานาธิบดี ในข้อหาคอร์รัปชัน รับสินบน

นายอี มย็อง-บัก นับเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้อีกคนที่โดนวิบากกรรมเรื่องทุจริตคอร์รัปชันเล่นงาน โดยก่อนหน้านี้ นางสาว พัก กึน-ฮเย (Park Geun-hye) อดีตผู้นำหญิงคนแรกก็โดนศาลพิพากษาจำคุก 24 ปี ปรับอีกกว่า 18,000 ล้านวอน ด้วยข้อหาบังคับให้บริษัทเอกชนบริจาคเงินเข้าบัญชีกองทุนของเพื่อนสนิทและนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว (ดูตารางที่ 1 อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้กับเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน)

สำหรับกรณีของนายอีนั้น อัยการสูงสุดสั่งฟ้องเขาในข้อหารับสินบนกว่า 11,000 ล้านวอน โดยธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ของครอบครัวนายอีมีส่วนพัวพันกับการรับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งในช่วงที่นายอีดำรงตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. 2008-2013

ชีวิตของอี มย็อง-บัก นับว่าน่าสนใจและมีสีสันมาก

…เขาเกิดที่ญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สองใกล้จะจบลงแล้ว หลังจากญี่ปุ่นแพ้สงคราม ครอบครัวของอีย้ายมากลับมาอยู่ที่เกาหลีใต้

ในอดีตชาวเกาหลีส่วนใหญ่มีฐานะยากจน นอกจากนี้ คาบสมุทรเกาหลียังกลายเป็นยุทธศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ความขัดแย้งระหว่างค่ายเสรีนิยมประชาธิปไตยกับค่ายสังคมนิยมคอมมิวนิสต์นำไปสู่สงครามเกาหลีในทศวรรษที่ 50 เกิดการแบ่งแยกประเทศระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

ครอบครัวของอี มย็อง-บัก ก็คล้ายกับครอบครัวชาวเกาหลีส่วนใหญ่ คือ “ยากจน” …อีเติบโตขึ้นมาอย่างลำบากยากเข็ญ เขาเริ่มทำงานช่วยครอบครัวมาตั้งแต่เล็ก โดยเริ่มต้นจากการขายไม้ขีดไฟ ขายขนมเค้กหลังจากสูญเสียพ่อซึ่งเป็นผู้นำครอบครัวไป เด็กชายอี มย็อง-บัก ต้องทำงานหนักเพื่อช่วยแม่และพี่น้องอีกหลายชีวิต

อี มย็อง-บัก เข้าเรียนโรงเรียนพาณิชย์ดองจิ เขาเลือกเรียนภาคค่ำ เพื่อช่วงกลางวันจะได้ทำงานช่วยครอบครัว ด้วยความมานะบากบั่นทำให้เขาสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย Korea ได้

อีมีความสนใจทางการเมือง เขาเป็นนักกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียน ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานักศึกษา จุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1964 เมื่อเขาเป็นหนึ่งในแกนนำนักศึกษาที่เดินขบวนเรียกร้องคัดค้านรัฐบาลนายพล พัก ช็อง-ฮี (Park Chung-hee) ที่เปิดโต๊ะเจรจาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลโตเกียวเพื่อแลกกับเงินทุนสนับสนุนช่วยเหลือพัฒนาประเทศ หรือที่รู้จักในชื่อ Seoul-Tokyo Talks

…การเป็นแกนนำเดินขวนประท้วงทำให้เขาถูกจับกุมพร้อมนักศึกษาอีกจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ความกล้าหาญครั้งนั้นทำให้ อี มย็อง-บัก กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษารุ่นแรกผู้บุกเบิกประชาธิปไตยของเกาหลีใต้

หลังจากที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำระยะสั้นๆ อีได้รับการปล่อยตัว และสำเร็จการศึกษาในปีต่อมา โดยเขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่บริษัทก่อสร้างฮุนได (Hyundai Construction) เมื่อปี ค.ศ. 1965

ช่วงเริ่มชีวิตการทำงาน เขาเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ของฮุนไดที่เข้ามาสร้างทางหลวงสายปัตตานี-นราธิวาส ด้วย

อีทำงานหนัก “ฉายแวว” ดาวรุ่ง ด้วยความที่เป็นคนหัวก้าวหน้า ทำงานหนัก ขยัน อดทน ทำให้เขาเติบโตในบริษัทก่อสร้างฮุนไดอย่างรวดเร็ว เขาก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารตั้งแต่อายุ 29 ปี ก่อนจะเป็น CEO อายุน้อยที่สุดในเกาหลีใต้ด้วยวัยเพียง 35 ปี

อี มย็อง-บัก เป็นผู้นำธุรกิจที่ทันสมัยและมีวิสัยทัศน์ยาวไกล เขาเริ่มหาตลาดให้กับบริษัทโดยบุกตลาดตะวันออกกลาง รวมถึงมีสายสัมพันธ์ที่กว้างขวางกับผู้นำทางการเมืองในเอเชียหลายคนไม่ว่าจะเป็น ลี กวน ยู, ดร.มหาเธร์, สมเด็จฮุน เซน

สิ่งเหล่านี้ทำให้อีตัดสินใจเข้าสู่การเมืองในปี ค.ศ. 1992

ผลงานทางการเมืองอันโดดเด่นของอี มย็อง-บัก คือ การเป็นผู้ว่าฯ กรุงโซล (Mayor of Seoul) ช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2002-2006 โดยอีทำให้โซลเปลี่ยนแปลงไป การบูรณะลำน้ำชองเกชอน (Cheonggyecheon) ที่ผ่านกลางมหานครโซลให้กลับมาใสสะอาด และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ได้กลายเป็นผลงานเลื่องชื่อของอี

นอกจากนี้ อียังทำให้กรุงโซลกลายเป็นมหานครที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เขาทุ่มเทกำลังกายและสมองในการยกระดับโซลให้ก้าวหน้าขึ้นเทียบชั้นโตเกียว นิวยอร์ก หรือลอนดอน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2007 อี มย็อง-บัก ลงชิงชัยในนามพรรค Grand National Party ได้รับคะแนนจากชาวเกาหลีใต้ท่วมท้นร่วม 11.5 ล้านเสียง ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 14 ของเกาหลีใต้

ระหว่างดำรงตำแหน่ง 5 ปี อี มย็อง-บัก พัฒนาให้เกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตด้วยเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative economy)

นับว่าเขาเป็น “ฮีโร่” คนหนึ่งที่เติบโตมาจากการต่อสู้ชีวิตที่ยากลำบาก ขึ้นมาเป็นผู้นำนักศึกษาเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเมื่ออายุยังน้อย ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ว่ากรุงโซลและสร้างผลงานเป็นที่จดจำ จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นประธานาธิบดี

อย่างไรก็ดี ความเป็นฮีโร่ของอี มย็อง-บัก ได้ถูกทำลายลงด้วยข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน…จริง ๆ แล้วอีถูกกล่าวหาเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งใหม่ๆ เมื่อปี ค.ศ. 2008 เขาและธุรกิจครอบครัว เครือญาติ ถูกจับตามองจากฝ่ายค้านและสังคม โดยเฉพาะเรื่อง Conflict of Interest จนกระทั่งเกิดเรื่องการรับสินบนมีส่วนพัวพันกับการรับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง

อี มย็อง-บัก ในวัย 76 ปี กับวันที่หมดอำนาจและถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ด้วยข้อหาคอร์รัปชัน
ที่มาภาพ: https://www.japantimes.co.jp/news/2018/03/06/asia-pacific/politics-diplomacy-asia-pacific/former-south-korean-president-lee-called-questioning-bribery-case/#.W8P2AGgzY2w

เมื่อต้นปี ค.ศ. 2018 อัยการเกาหลีใต้ได้รวบรวมคดีความต่างๆ ของอี มย็อง-บัก และสั่งฟ้องในข้อหารับสินบน ยักยอก ฉ้อฉล และใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบช่วยเหลือญาติมิตรตัวเอง

ท้ายสุดแล้ว เมื่อขึ้นศาล อีถูกตัดสินจำคุก 15 ปี พร้อมปรับอีก 13,000 ล้านวอน

เรื่องของอี มย็อง-บัก นับเป็นอุทธาหรณ์ให้ผู้นำพึง “สำเหนียก” และ “ระลึก” อยู่เสมอว่า อำนาจที่หอมหวลนั้นไม่จีรังยังยืน เพราะแม้จะเคยสร้างคุณงามความดีมามากมาย แต่เมื่อลงจากอำนาจแล้ว อะไรที่ซุกไว้ใต้พรมก็ถูกรื้อออกมาสะสางหมด