ThaiPublica > คอลัมน์ > กระตุกกยศ. เร่งแจ้งยอดหนี้ใหม่ที่คำนวณตาม พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขให้ผู้กู้ ชี้กฎหมายมีผลกว่า 6 เดือนแล้ว

กระตุกกยศ. เร่งแจ้งยอดหนี้ใหม่ที่คำนวณตาม พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขให้ผู้กู้ ชี้กฎหมายมีผลกว่า 6 เดือนแล้ว

3 พฤศจิกายน 2023


ดร.ขจร ธนะแพสย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย

รู้หรือไม่ว่า ผลของ พ.ร.บ. กยศ.ที่แก้ไขใหม่ที่จะมีการคำนวณ “ยอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรม” จะมีผลทำให้ผู้กู้ กยศ. บางคนอาจหมดหนี้ที่มีกับ กยศ. ทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ??

หนึ่งในมาตรการสำคัญที่เป็นผลที่จากการแก้ไข พ.ร.บ. กยศ.(พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566) เมื่อต้นปี 2566 คือ “การคำนวณยอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรม” จากการเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ให้ตัด “เงินต้น” เป็นอันดับแรก และการปรับลดอัตราเบี้ยปรับเดิม 18% ต่อปี เป็น 0.5% ต่อปี โดย กฎหมายจะมีผลย้อนสำหรับผู้กู้ กยศ. ที่ยังมีบัญชีกู้ยืมกับ กยศ. (ยังไม่ปิดบัญชี)

กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ จะเป็นการคำนวณยอดหนี้ใหม่เสมือนหนึ่งว่าตั้งแต่แรกที่กู้ยืมกับ กยศ. ลำดับการตัดชำระหนี้กำหนดให้ตัด “เงินต้น” เป็นอันดับแรก และเบี้ยปรับอยู่ที่เพียง 0.5 % ไม่ใช่ 18% ต่อปี

สำหรับผู้กู้ กยศ. ที่ในอดีตที่เคยเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม จาก

    (1) เบี้ยปรับที่แพงมาก (18%)
    (2) เงินที่ชำระหนี้ให้ กยศ ถูกนำไปหักจ่ายส่วนเบี้ยปรับและดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว โดยไม่นำไปหักเงินต้นเลย

ท่านจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากพ.ร.บ. กยศ. ที่แก้ไขใหม่ ผู้กู้บางกลุ่มจะหมดหนี้ที่มีกับ กยศ. โดยเฉพาะผู้กู้ที่ได้ผ่อนจ่ายหนี้ไปมากแล้ว แต่ในอดีตเงินที่ชำระหนี้ กยศ. จะนำไปหักดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเป็นหลัก ซึ่งกระบวนการคำนวณยอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรม จะทำให้ผู้กู้ กยศ. กลุ่มหนึ่ง อาจหมดหนี้ที่มีดังเช่นตัวอย่างดังต่อไปนี้

ตัวอย่างที่ 1
กู้เงินจาก กยศ.จำนวน 267,397 บาท ที่ผ่านมาได้จ่ายหนี้ กยศ. ไปแล้วทั้งหมด 718,957 บาท หรือ 268% ของเงินต้น แต่เงินส่วนใหญ่ถูกนำไปตัดจ่ายดอกเบี้ยและเบี้ยปรับรวม 602,448 บาท ปัจจุบันผู้กู้ กยศ. รายนี้ยังมีหนี้เงินต้นค้างชำระ 153,854 บาท

ตัวอย่างที่ 2
กู้เงินจาก กยศ.จำนวน 394,710 บาท ที่ผ่านจ่ายเงินชำระหนี้ กยศ. ทั้งหมด 545,476 บาท

แต่ปัจจุบันพบว่ายังติดหนี้ กยศ. 710,290 บาท โดยยังค้างชำระเงินต้น 394,710 บาท ดอกเบี้ยค้างชำระ 282,390 บาท และเบี้ยปรับ 33,271 บาท

ลูกหนี้รายนี้ถ้าเข้าไปดูในรายละเอียดการผ่อนจ่ายชำระหนี้ที่ผ่านมาพบว่า กยศ. กำหนดให้ชำระหนี้เดือนละ 11,000 บาท ซึ่งจากหลักฐานพบว่าเงินที่ชำระหนี้เดือนละ 11,000 บาท ถูกนำไปตัดจ่ายเบี้ยปรับทั้งจำนวนโดยไม่ตัดเงินต้นเลย ทำให้ยอดหนี้เงินต้นคงค้างยังอยู่ที่ 394,710 บาท

ทั้ง 2 กรณีในตัวอย่างเป็นกรณีผู้กู้ กยศ.ได้จ่ายชำระหนี้คืน กยศ.มาค่อนข้างมากแล้ว

เคสที่ 1 จ่ายชำระหนี้ให้ กยศ. 718,957 บาท หรือ 268% เมื่อเทียบกับเงินต้นที่กู้ยืมมาจำนวน 267,397 บาท

เคสที่ 2 จ่ายชำระหนี้ให้ กยศ. แล้ว 545,476 บาท หรือ 138% เมื่อเทียบกับเงินต้นที่กู้มา 394,710 บาท

ทั้ง 2 เคส ผลจากการคำนวณ “ยอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรม” จะทำให้ผู้กู้ทั้ง 2 รายหมดหนี้ที่มีกับ กยศ.ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ พ.ร.บ. ที่แก้ไขใหม่เริ่มมีผลใช้บังคับ เพราะเงินที่ผู้กู้ได้จ่ายชำระหนี้ให้แก่ กยศ. จะมากกว่า ภาระยอดหนี้ตาม พ.ร.บ. กยศ. ที่แก้ไขใหม่

เคสที่ 1 ยอดหนี้ที่ได้จ่ายชำระหนี้แก่ กยศ. แล้ว 718,957 บาท
ในขณะที่ยอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรมที่เป็นผลจาก พ.ร.บ. กยศ. ที่แก้ไขใหม่จะอยู่ที่เพียง 351,627 บาท (ตัวเลขเบื้องต้นที่คำนวณตาม พ.ร.บ. กยศ. ใหม่

เคสที่ 2 ยอดหนี้ที่ได้จ่ายชำระหนี้แก่ กยศ. แล้ว 545,476 บาท
ในขณะที่ยอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรมที่เป็นผลจาก พ.ร.บ. กยศ ที่แก้ไขใหม่จะอยู่ที่เพียง 495,361 บาท(ตัวเลขเบื้องต้นที่คำนวณตาม พ.ร.บ. กยศ. ใหม่)

วันนี้จำเป็นต้องเรียกร้องให้ กยศ. ต้องเร่งที่จะดำเนินการให้ถูกต้องตาม กฎหมายของบ้านเมือง นับตั้งแต่ พ.ร.บ. กยศ. ที่แก้ไขมีผลบังคับใช้เมื่อ 20 มีนาคม 2566 ก็นับเป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว

กยศ. จำเป็นต้องแจ้งยอดหนี้ใหม่ตาม พ.ร.บ. กยศ. ที่แก้ไขใหม่ให้ผู้กู้ทุกคนทราบโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันมีผู้กู้ที่เดือดร้อนมากจากการที่ได้รับแจ้งให้ต้องไปปิดบัญชีบนยอดหนี้เดิมที่สูงกว่ายอดหนี้ใหม่ที่เป็นธรรมมาก

การถ่วง หรือ ทำตัวเป็นอุปสรรค ไม่ให้ผู้กู้ กยศ. ได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมาย ก็ไม่ต่างอะไรจากการยอมรับว่าความอยุติธรรม หรือ ความไม่ถูกต้องดำรงอยู่ได้

Justice delayed is Justice Denied

  • ทำไมเบี้ยวหนี้ กยศ. (1) : สืบทรัพย์ลูกหนี้ พบ “มี-ไม่หนี-ไม่จ่าย” กว่าแสนราย
  • 4 คำถาม…ทำไมคนกู้กยศ.หลายล้านไม่จ่ายหนี้!!!