ThaiPublica > คอลัมน์ > เรื่องเล่าจากลุงหมีปุ๊ (11) … ภาพวาดสาวงามคัดเลือกโดย AI

เรื่องเล่าจากลุงหมีปุ๊ (11) … ภาพวาดสาวงามคัดเลือกโดย AI

24 กรกฎาคม 2023


ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์

เรื่องเล่าครั้งนี้ขอผสมผสานงานศิลปะเข้ากับวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีสมัยใหม่

คำว่า AI ในชื่อเรื่องหมายถึง artificial intelligence ซึ่งก็คือปัญญาประดิษฐ์ หรือเครื่องจักรที่สามารถเรียนรู้และมีความฉลาดคล้ายมนุษย์ วิวัฒนาการสร้าง AI เริ่มต้นเมื่อปี 1960 หรือ 60 ปีมาแล้ว ผ่านการพัฒนามา 3 ยุคจนปัจจุบันเป็น AI ยุค 4 เรียกว่า generative AI (สามยุคแรกคือ rule-base / machine learning / deep learning) ซึ่งเครื่องจักรฉลาดถึงขั้นตัดสินใจเลือกข้อมูลมาเรียบเรียงนำเสนอต่อผู้ใช้ได้เอง เครื่องมือสื่อสารทันสมัยที่ออกมาเมื่อปลายปี 2022 กำลังเปลี่ยนโฉมการเรียนรู้และการทำงานของคนในโลกครั้งใหญ่ คือ ChatGPT

ลุงหมีอยากทดสอบความฉลาดของ ChatGPT ว่ามีสุนทรีภาพสักเพียงใด จึงตั้งโจทย์ให้เครื่องตอบมาว่ารูปภาพวาดหญิงงามระดับ masterpiece 10 รูปมีอะไรบ้าง

คำตอบที่ได้มา 10 ชื่อนั้น ตรงกับภาพหญิงงามซึ่งลุงหมีคัดเลือกมานำเสนอไว้ 5 ภาพในบทความตอนที่ 9 (เช่น Mona Lisa / Botticelli’s Venus / Girl with Pearl Earring) แสดงว่าเครื่อง ChatGPT มีรสนิยมทางศิลปะใช้ได้เลย แต่อีก 5 ภาพที่เหลือ ลุงหมีเห็นพ้องด้วยเพียง 2 ภาพ อีก 3 ภาพเครื่องเลือกมาแบบมั่ว ลุงหมีจึงตั้งโจทย์ให้เครื่องเลือกเพิ่มอีก 10 รูป จึงได้รูปตรงใจลุงหมีเพิ่ม 4 รูป อันจะเป็นการนำเสนอในบทความนี้ว่า 6 รูปเพิ่มเติมเลือกโดยเครื่อง AI เป็นรูปอะไรบ้าง

สองรูปแรกลุงหมีเห็นพ้องด้วยเลยว่าเป็นภาพมีชื่อเสียงและเน้นความงดงามของผู้หญิง รูปแรก คือ A Bar at the Folies-Bergère วาดโดย Édouard Manet (ลุงหมีแนะนำศิลปินผู้นี้ไว้แล้ว) ผู้หญิงที่เป็น hostess ที่บาร์ของสถานบันเทิงมีชื่อของฝรั่งเศสมีหน้าตาดี วาดในสไตล์ใช้สีและองค์ประกอบของภาพดึงให้หญิงงามคนนี้ดูเด่นออกมา

รูปที่สองชื่อ The Lady of Shalott วาดโดยศิลปินอังกฤษ John William Waterhouse โดยวาดเป็นภาพสาวงามนั่งบนเรือ จัดแสงจับไปที่ตัวผู้หญิงเด่นชัด ภาพฉากนี้วาดจากจินตนาการในบทกวีของ Lord Tennyson ซึ่งพรรณนาถึงเรื่องราวของเจ้าหญิงผู้ถูกสาปให้มีความทุกข์ ภาพวาดนี้จึงแฝงความเศร้าไว้ในภาพ

สองภาพต่อมาเป็นภาพมีชื่อเสียง มีหญิงงามในภาพแต่มิได้ close up ให้เห็นความงามของใบหน้าอย่างชัดเจน

รูปที่สามชื่อ The Swing วาดโดย Jean Fragonard ศิลปินมีชื่อของฝรั่งเศสในยุค Rococo (เช่นเดียวกับ Boucher ในบทความก่อน) รูปวาดแสดงถึงอารมณ์รื่นเริงของหญิงสาวเล่นโล้ชิงช้า เป็นสาวงามระดับมีชายหนุ่มมาแอบเฝ้ามองเธอ

รูปที่สี่เป็นฝีมือของ Botticelli เป็นภาพขนาดใหญ่เช่นเดียวกับภาพ Birth of Venus ในบทความที่แล้ว สองภาพนี้วาดออกมาเป็นคู่กันโดยเป็นเรื่องราวในตำนาน mythology เหมือนกัน

ภาพนี้มีชื่อว่า Primavera หรือ Spring แสดงบรรยากาศความเบิกบานของการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ มีเทพหลายองค์ออกมาร่วมเฉลิมฉลอง มีกลุ่มสาวงามเต้นระบำ เทพองค์ที่เป็นจุดเด่นยังคงเป็น Venus ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ตรงกลางของภาพ

ภาพที่ห้านี้ ลุงหมีคิดว่า AI เลือกมาเพราะเป็นภาพมีชื่อเสียงมาก วาดโดยศิลปินชาวดัตช์ Jan Van Eyck ตั้งชื่อภาพว่า The Arnolfini Wedding (Arnolfini Portrait) หรืองานแต่งงานของคหบดีชื่อ Arnolfini เจ้าสาวในภาพไม่ได้สวยงามเป็นพิเศษ

แต่คุณค่าของภาพอยู่ที่ศิลปินลงรายละเอียดในภาพได้คมชัด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของเจ้าสาว เครื่องประดับในบ้าน แม้แต่กระจกเงาที่ฝาห้องก็สะท้อนเงาคู่แต่งงาน

ภาพสุดท้ายแสดงถึงอารมณ์ขันของ AI เพราะไม่ใช่ภาพที่แสดงถึงความงามของหญิงสาว แต่เป็นรูปแสดงการนำเสนอใบหน้าหญิงสาวในแบบนามธรรม (abstract) ในยุค Cubism ซึ่งจะใส่มุมมองด้านหน้าและด้านข้างของใบหน้าเข้าไปในรูปเดียวกัน

ภาพนี้วาดโดย Pablo Picasso ศิลปินคนดัง ตั้งชื่อภาพว่า Portrait of Dora Maar ศิลปินและกวีหญิงผู้เป็นคู่รักของ Picasso เธอเป็นนางแบบให้เขาวาดรูปไว้มากกว่า 10 รูป ดังนั้น จึงคงคุ้นที่เห็นใบหน้าของเธอถูกนำเสนอแบบแปลกๆ อยู่เรื่อย

เอกสารอ้างอิง
1. The Story of Art
2. A-Z of Art