เสนาดีเวลลอปเม้นท์ พลิกบทบาท 40 ปีคนขายบ้านสู่ธุรกิจ ‘Lifelong Trusted partner ดูแลตลอดชีวิต’ รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค VUCA World ปรับโครงสร้างองค์กรชูคอนเซ็ปต์ “แม่ยก” พร้อมขยายพอร์ตอสังหาฯ รุกแนวราบระดับ High End ขยายโอกาส ร่วมทุนพันธมิตรตอบโจทย์เมกะเทรนด์ อาทิ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย – บริการบริหารนิติโครงการ – ธุรกิจขายบ้านมือสอง – นายหน้าอสังหาฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งระยะยาว
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ธุรกิจอสังหาฯต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ในยุค VUCA World โดยปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับกับพฤติกรรมลูกค้า ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่แค่บริษัทขายบ้าน คอนโดมิเนียม เนื่องจากความต้องการของคนยุคใหม่ที่หลากหลายขึ้น เพราะความฝันของคนยุคนี้ “ไม่ใช่” การมีบ้านเหมือนกับคนสมัยก่อน และแนวโน้มการซื้อขายบ้าน คอนโดฯเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่เคยมีมูลค่าต่อปีหลายแสนล้านบาทในอีก 10-20 ปีลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องปรับตัว
“ในอดีต 40 ปีที่ผ่านมาเรา เป็นแค่คนสร้างบ้าน แต่ปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ทั้งสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ยังคงเหมือนเดิม ทำให้การเป็นคนสร้างบ้านอย่างเดียวไม่เพียงพอตอบโจทย์ความฝันของคนอยากมีบ้าน อีกต่อไป”
จากคนขายบ้าน สู่ Lifelong Trusted partner
ผศ.ดร.เกษรา บอกว่าโมเดลธุรกิจใหม่ของเสนาฯ จึงเปลี่ยนจากคนที่ขายบ้าน มาเป็น พาร์ทเนอร์ ตลอดชีวิตของคนซื้อบ้านหรือที่เรียกว่า Lifelong Trusted partner เพื่อตอบโจทย์ความฝันของคนอยากมีบ้านในทุกช่วงของชีวิต
“เสนาจึงปรับบทบาทตัวเองเป็น ‘แม่ยก’ โดยต้องการยกระดับองค์กร เป็นพร็อพเพอร์ตี้ที่มองถึงโลกอนาคตมากขึ้น จากจุดเดิมที่เป็นคนขายบ้านเมื่อ 40 ปีก่อน โดยเราจะทำธุรกิจตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลกและเป็นธุรกิจการให้บริการที่ครอบคลุมทุกด้านของอสังหาริมทรัพย์ ที่มองถึงอนาคตของโลก และทำธุรกิจตามแนวทาง Sustainable”
จากดีเวลลอปเปอร์ที่พัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อขายสู่ “A REAL ESTATE DEVELOPER TURNS AN ENSSENTIAL LIFELONG TRUSTED PARTNER” โดยการรุกขยายธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ใน 4 เมกะเทรนด์ หลัก ได้แก่
-
1.ความยั่งยืน เพราะหลังจากโควิด-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค หันมาให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเต็มใจที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกมีความยั่งยืนมากขึ้น
2.การเข้าสู่สังคมสูงวัย
3.กระแสธุรกิจเวลเนส
4. ความเป็นเมือง ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย
โดยการวางเป้าหมายมุ่งสู่ธุรกิจเมกะเทรนด์โลก ให้บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ยังคงทำธุรกิจสร้างบ้าน ขณะที่ขยายการดำเนินการด้านการติดตั้งโซลาร์เซลล์และการบริการไฟแนนซ์ให้ผู้ซื้อบ้าน ขณะที่โจทย์สำคัญ ได้วางเป้าหมายผ่านบริษัท เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ SENAJ จะเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับกลุ่มเฉพาะ(Niche market) ในกลุ่มลูกค้าระดับบนรวมถึงผลักดันการขยายบริการด้านที่อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด “To be the ultimate real estate multi-services company” ประกอบด้วย
1.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน ขยายฐานการพัฒนาโครงการบ้าน Niche High End ระดับราคา 15 -20 ล้านบาท วางแผนเปิดปีละ 1- 2 โครงการ นอกจากนี้ ได้ร่วมทุนกับพันธมิตร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน
2.ธุรกิจบริหารนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินแบบครบวงจร โดยปัจจุบันมีโครงการที่รับบริหารนิติบุคคลโครงการ 97 โครงการ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นสู่ Top 5 ครอบคลุมโครงการรับบริหารรวม 168 โครงการ
3.สถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับทางบริษัทญี่ปุ่นพัฒนาโครงการในอนาคต
4.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 2 แห่ง คือ ตลาดแพรกษา และ สำเพ็ง 2
5.ธุรกิจขายบ้านมือสอง โดยทางบริษัท เสนา ชัวร์ คัดสรร รับซื้อทรัพย์บ้านมือสองและนำมาปรับปรุงตกแต่งให้อยู่ในสภาพที่ดีเพิ่มมูลค่าและพร้อมขาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ราคาจับต้องได้ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีสู่ Top 5 ผู้นำตลาดบ้านมือสอง
6.ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยทาง SENAJ มีแผนเข้าซื้อหุ้นบริษัทย่อยของ “SENA แอคคิวท์ เรียลตี้” เพื่อให้บริการนายหน้าขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมบริหารการขายโครงการ และให้บริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการด้านการเช่าอสังหาฯ ภายในกลุ่มของ SENA และ SENAJ เป็นต้น
SENA ทุ่มทุน 485 ล้านบาทซื้อหุ้น SENAJ
อย่างไรก็ตาม จากโครงสร้างดังกล่าวของธุรกิจ SENAJ จะเป็นธุรกิจตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกและเป็นธุรกิจการให้บริการที่ครอบคลุมทุกด้านของอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเติมเต็มให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่ม SENA ได้เป็นอย่างดี โดยทางคณะกรรมการบริษัทของ บมจ.เสนาเจ ครั้งที่ 8/2565 วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติปรับโครงสร้างธุรกิจของ SENAJ เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 มีมติอนุมัติให้ลงทุนเพิ่มในหุ้นสามัญของ บมจ.เสนาเจ พร็อพเพอร์ตี้ หรือ SENAJ จำนวน 300,000,000 หุ้น หรือ คิดเป็น 7.14% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ในราคา 1.618 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 485,400,000 บาท ทำให้ปัจจุบัน SENA ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน SENAJ มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 42.49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ถือเป็นการเพิ่มอำนาจในการควบคุมบริหารงานใน บมจ.เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อสอดรับกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท SENA