ThaiPublica > ประเด็นร้อน > COVID-19 พลิกโลก > ศบค.ไม่ปรับระดับพื้นที่ คงมาตรการคุมโควิดฯ – เคอร์ฟิวถึง 30 ก.ย.นี้

ศบค.ไม่ปรับระดับพื้นที่ คงมาตรการคุมโควิดฯ – เคอร์ฟิวถึง 30 ก.ย.นี้

10 กันยายน 2021


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

มติ ศบค.ชุดใหญ่ ไม่ปรับระดับพื้นที่ คงมาตรการคุมโควิดฯ – เคอร์ฟิวถึง 30 ก.ย.นี้ เตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน-นักศึกษาตั้งแต่ ต.ค.เป็นต้นไป พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจเรื่อง Bubble and Seal ให้โรงงาน คลังเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ-ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ ATK หักภาษีได้ 1.5 เท่า

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวถึงผลการประชุมศบค.ว่า จากผลของมาตรการล็อกดาวน์และ WFH (Work from Home) รวมถึงปิดสถานที่เสี่ยงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้ค่า R (อัตราแพร่เชื้อ) ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงถึง 25% เช่นเดียวกับสถานการณ์ผู้เสียชีวิตที่ลดลง ตามแบบจำลองที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวในที่ประชุมว่า หากมีการผ่อนคลายมาตรการทั้งหมด สถานการณ์โควิด-19 ในเดือนตุลาคม 2564 จะมีค่า R เท่ากับสถานการณ์ก่อนล็อกดาวน์

ด้วยเหตุนี้ที่ประชุมศบค.ยังคงมาตรการระดับพื้นที่ของสถานการณ์ ตามข้อกำหนดฉบับที่ 29 โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดคงไว้ที่ 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด และใช้มาตรการตามข้อกำหนดที่ 32 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 คือ มาตรการเคอร์ฟิว ทำงานที่บ้าน (WFH) เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมตามมาตรการ COVID Free Setting และสื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้นำเสนอแผนการจัดการวัคซีนต่อที่ประชุม ศบค. โดยคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2564 จะสามารถฉีดได้ 152.9 ล้านโดส ตลอดจนการจัดสรรการฉีดวัคซีนไขว้ใก้กลุ่มต่างๆ รายละเอียดดังนี้

  • กันยายน 2564 รวม 22 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 7.7 ล้านโดส และไฟเซอร์ 2 ล้านโดส ส่วนวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์มอีก 10 ล้านโดส
  • ตุลาคม 2564 รวม 24 ล้านโดส แบ่งเป็นซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสจร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ส่วนวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์มอีก 6 ล้านโดส
  • พฤศจิกายน 2564 รวม 23 ล้านโดส แบ่งเป็นแอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส และไฟเซอร์ 10 ล้านโดส
  • ธันวาคม 2564 รวม 24 ล้านโดส แบ่งเป็นแอสตร้าเซนเนก้า 14 ล้านโดส และไฟเซอร์ 10 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึง แนวทางการการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปในกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาผ่านสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนมัธยมสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนสอนศาสนา และสถาบันการศึกษาอื่นๆ อย่างโรงเรียนเตรียมทหาร ทั้งนี้แบ่งการให้บริการเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจัดสรรวัคซีนให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือ ปวช./ปวส. ระยะถัดมาจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มที่เหลือ เริ่มจัดสรรตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ส่วนความคืบหน้าในมาตรการกำกับภาคธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรม ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 14/2564 (ลงวันที่ 3 กันยายน 2564) ที่ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรม” พบว่ามีโรงงานที่มีการแพร่ระบาด 952 แห่ง หรือ 65,887 คน โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรกตามลำดับ ได้แก่ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม โลหะและพลาสติก

ทั้งนี้ โรงงานที่ประเมินตนเองบนแพลตฟอร์มที่ ศบค.กำหนดผ่านเกณฑ์ 13,836 แห่ง ไม่ผ่านเกณฑ์ 7,294 แห่ง

ที่ประชุมศบค.ยังกำหนดมาตรการระยะเร่งด่วน 3 เดือน (กันยายน-พฤศจิกายน 2564) สำหรับกิจการกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มคือ โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้เครื่องจักร 50 แรงม้า คนงาน 50 คน มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 70,000 แห่ง สถานประกอบการอีก 70,000 แห่ง และแคมป์คนงานก่อสร้าง 1,317 แคมป์ โดยจะสร้างความรู้ความเข้าใจในมาตรการ Bubble and Seal (BBS) ให้ครอบคลุม 140,000 ราย อบรมโรงงาน 30,000 แห่ง และตั้งเป้าให้สถานประกอบการเข้าร่วมมาตรการ BBS ไม่น้อยกว่า 10% ของกลุ่มเป้าหมาย หรือประมาณ 3,000 แห่ง

“ผอ.ศบค.ให้โจทย์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่าให้มีการเพิ่มการตรวจ ATK กลุ่มประชากรและแรงงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแจ้งว่ามี 2 มาตรการ (1) ผู้ประกอบการที่จะจัดซื้อ ATK ค่าใช้จ่ายสามารถลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าของค่าใช้จ่าย (2) เพิ่มเงินในแอปเป๋าตัง เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนซื้อมาตรวจ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว