ThaiPublica > ประเด็นร้อน > COVID-19 พลิกโลก > ศบค.ยกเลิก “Test & Go” เริ่ม 1 พ.ค.นี้-เพิ่มพื้นที่สีฟ้าเป็น 12 จว.-ดื่มสุราได้ถึงเที่ยงคืน

ศบค.ยกเลิก “Test & Go” เริ่ม 1 พ.ค.นี้-เพิ่มพื้นที่สีฟ้าเป็น 12 จว.-ดื่มสุราได้ถึงเที่ยงคืน

22 เมษายน 2022


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

มติ ศบค.ยกเลิก “Test & Go” แสดงผลตรวจเฉพาะ ATK เริ่ม 1 พ.ค.นี้ – สั่งทุกจังหวัดปรับแผนปฏิบัติการ เตรียมพร้อมเข้าสู่ระยะ ‘โรคประจำถิ่น’- เคาะเพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวเป็น 12 จังหวัด ดื่มแอลกอฮออล์ในร้านได้ถึงเที่ยงคืน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ “ศบค.” แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 21,808 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อในประเทศ 21,717 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 91 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,904,603 ราย ผู้หายป่วยกลับบ้าน 19,826 ราย และมีผู้เสียชีวิต 128 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 27,520 ราย

ตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบ และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเทียบจากวันที่ 9 เมษายน 2565 มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 1,936 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 821 ราย ส่วนวันที่ 22 เมษายน 2565 มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 1,985 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 913 ราย

นพ.ทวีศิลป์ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันผู้ป่วยมีอัตราการครองเตียง 25.15% แสดงให้เห็นว่ามีการใช้มาตรการ ‘เจอ แจก จบ’ โดยมีผู้รับบริการแล้ว 1.7 ล้านคน ช่วยทำให้มีเตียงรับกลุ่มผู้ป่วยสีแดงและเหลืองได้เพียงพอ อย่างไรก็ดีปัจจุบันยังมีกลุ่มผู้ป่วยที่ปอดอักเสบที่อยู่ในระดับสูงกว่าปกติ

ในที่ประชุม ศบค.ยังได้มีการเตรียมพร้อมเข้าระยะ “Post-pandemic Covid-19” หรือ “การปรับให้เป็นโรคประจำถิ่น” พบว่าในทางหลักการจะต้องทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า 0.1% ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติดกัน แต่ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ที่ 0.31% จึงได้ให้ทุกจังหวัดพิจารณาการปรับแผนปฏิบัติการต่าง ๆ

เพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวเป็น 12 จว. – ดื่มสุราได้ถึงเที่ยงคืน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมวันนี้ได้มีมติเรื่องการปรับระดับพื้นที่สีและมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ สาระสำคัญคือ เพิ่มจังหวัดพื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือ พื้นที่สีเหลืองเป็น 65 จังหวัด จากเดิม 47 จังหวัด และลดจำนวนพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้มเหลือ 0 จังหวัด จากเดิม 20 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่สีฟ้า หรือ พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวเป็น 12 จังหวัด จากเดิม 10 จังหวัด

โดยพื้นที่เฝ้าระวังสูง 65 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และแพร่

ส่วนพื้นที่สีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพ กระบี่ กาญจนบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง และสงขลา

โดยพื้นที่สีฟ้าได้ปรับมาตรการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ในร้านอาหาร เป็น 24.00 น. จากเดิม 23.00 น. ขณะที่ผับ บาร์ คาราโอเกะยังคงมีมติไม่ให้ร้านกลุ่มนี้เปิดให้บริการ แต่ให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นร้านอาหารได้

ย้ำฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กลุ่มเด็ก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า อัตราการติดเชื้อของกลุ่มนักเรียน ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และกลุ่มเสียชีวิตในช่วงอายุ 0-5 ปีมีมากที่สุดที่ 28 ราย รองลงมาคือ 6-18 ปีจำนวน 17 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังและคลอดก่อนกำหนด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้พูดคุยกับกระทรวงศึกษาธิการ และเน้นย้ำมาตรการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 3 เข็ม เพื่อเป็นเข็มกระตุ้น ขณะที่เด็กอายุ 5-11 ปีให้ผู้ปกครองพิจารณาตามความสมัครใจ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงมาตรการเปิดเรียน on-site โดยมีการกำชับให้โรงเรียนประจำเน้นมาตรการ Sandbox Safety Zone in School โดยแยกคนที่มีความเสี่ยต่ำและสูงออกจากกันตามที่กำหนด ส่วนโรงเรียนปกติที่ไป-กลับ หากมีบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงให้แยกกักตัวที่บ้าน 5 วัน และติดตามอาการอีก 5 วัน และมีการพิจารณาให้ทำ School Isolation กรณีพบผู้ติดเชื้อ ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการโรงเรียน หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง และชุมชน

ยกเลิก Test & Go เหลือแสดงผลตรวจ ATK เริ่ม 1 พ.ค.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงมาตรการ การปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยที่ประชุมมีมติยกเลิกมาตรการ Test & Go และเปลี่ยนเป็นใช้การตรวจ ATK แทน ทั้งนี้ การปรับมาตรการผู้เดินทางเข้าประเทศไทย สำหรับผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบตามเกณฑ์ เริ่มวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 รายละเอียด ดังนี้

  1. เรื่องระบบการลงทะเบียน : ทั้งผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และผู้ไม่ได้รับวัคซีน ให้แสดงข้อมูลผ่านระบบ Thailand Pass เพื่อแสดงหลักฐานการจองห้องพัก (AQ) ประกันภัย และหลักฐานการได้รับวัคซีนกรณีฉีดวัคซีนแล้ว
  2. เรื่องประกันภัย : ทั้งสองกลุ่มต้องมีวงเงินประกันภัย หรือประกันในรูปแบบอื่นๆ จำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  3. เรื่องการปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึงและระหว่างพำนัก : ผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ให้ตรวจ ATK ส่วนผู้ไม่ได้รับวัคซีนสามารถยื่นหลักฐานผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางถึงประเทศไทย และลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass หรือกักตัวตามระบบ AQ โดยตรวจ RT-PCR  วันที่ 4-5
  4. กรณีเป็นผู้เสี่ยงสูง : ให้กักตัว 5 วันทั้งสองกลุ่ม และสังเกตอาการ 5 วัน และแนะนำให้ตรวจ ATK วันที่ 5 และ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ