19 กรกฎาคม 2564 ศบค.ยกโมเดลคาดการณ์ผู้ติดเชื้อสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ผู้ติดเชื้อเกือบ 32,000 คนต่อวัน คาดจำนวนพุ่งเดือนสิงหาคม ส่วนปัจจุบันสถานการณ์ยังอยู่ในระดับกลาง แนะประชาชนปฏิบัติตามมาตรการภาครัฐ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 11,784 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 415,170 ราย หายป่วยแล้ว 289,651 ราย เสียชีวิต 81 ราย และเสียชีวิตสะสม 3,422 ราย
สำหรับผู้รับการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 มีเข็มที่ 1 จำนวน 69,667 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 5,167 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 18 กรกฎาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 14,298,596 โดส
ทั้งนี้ ศบค.ได้ยกแบบจำลองเพื่อคาดการณ์สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะเกิดขึ้น 2 รูปแบบ โดยแบบแรกจัดทำโดย รศ.ดร.นวลจันทร์ สิงห์คราญ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และแบบที่สองจัดทำโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา
แบบจำลองแบบที่ 1 คาดการณ์สถานการณ์ตั้งแต่ข้อมูลวันที่ 12 มกราคม 2563 และวิเคราะห์ถึง 31 ตุลาคม 2564 เป็นเวลาทั้งสิ้น 659 วัน ระบุว่า ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ประเทศไทยได้เข้าสู่การระบาดระลอก 4 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อขั้นต่ำ 4,662 รายในวันที่ 29 มิถุนายน 2564 และสูงสุดที่ 11,784 รายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2564
ทั้งนี้ การระบาดระลอกแรกคือวันที่ 12 ม.ค. – 14 ธ.ค.63, ระลอกที่ 2 ตั้งแต่ 15 ธ.ค.63 – 4 เม.ย.64, การระบาดระลอก 3 ตั้งแต่ 5 เม.ย. – 27 เม.ย.64
แบบจำลองได้คาดการณ์การระบาดระลอกที่ 4 ว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้
- กรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) จะมีผู้ติดเชื้อ 31,997 รายต่อวัน
- กรณีปัจจุบัน (Base Case) แบบจำลองระบุว่ากราฟผู้ติดเชื้อของประเทศไทยอยู่ในค่ากลางคือ 9,695 – 24,204 รายต่อวัน
- กรณีที่มีมาตรการควบคุมและคนปฏิบัติตาม (Best Case) จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 9,018 – 12,605 รายต่อวัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงแบบจำลองที่ 2 ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยใช้รูปแบบการคาดการณ์ประกอบกับการฉีดวัคซีนถึงปลายปี 2564 รายละเอียด ดังนี้
- กรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) ผู้ติดเชื้อจะสูงสุดที่ประมาณ 22,000 รายต่อวันตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 และยอดผู้ติดเชื้อจะเริ่มลดลงในเดือนตุลาคม
- กรณีปัจจุบัน (Base Case) จะมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 15,000 ในเดือนสิงหาคม และจะเริ่มลดลงในเดือนกันยายน
- กรณีที่ดีที่สุด และสถานการณ์ฉีดวัคซีนดี (Best Case) จะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดประมาณ 11,000 รายในเดือนสิงหาคม และจะลดลงอย่างต่อเนื่องในเวลาถัดมา
“นี่เป็นการคาดการณ์ที่เราต้องรับทราบโดยทั่วไป เราต้องช่วยกันดึงกราฟ ดีที่สุดต้องป่วยน้อยที่สุดต่อวัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนข้อกำหนดฉบับที่ 28 เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 13 จังหวัดจาก 10 จังหวัด (พื้นที่สีแดงเข้ม) โดยจังหวัดที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา, พื้นที่ควบคุมสูงสุดเป็น 53 จังหวัดจาก 24 จังหวัด (พื้นที่สีแดง), พื้นที่ควบคุมเป็น 25 จังหวัดจาก 10 จังหวัด (พื้นที่สีส้ม), พื้นที่เฝ้าระวังสูงเหลือเพียง 1 จังหวัดคือภูเก็ต (พื้นที่สีเหลือง) และไม่มีจังหวัดใดได้เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว)
นพ.ทวีศิลป์ สรุปมาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 ดังนี้
สำหรับประชาชน
- ห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 21.00-04.00 น.
- ลดการเดินทางข้ามจังหวัด
- ให้ Work From Home 100% ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ยกเว้นการบริการที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข การควบคุมโรค ระบบสาธารณูปโภค การจราจร การบรรเทาสาธารณภัย การรักษาความสงบเรียบร้อย ฯลฯ
- ให้ใช้เอกสารรับรองการเดินทาง เพื่อให้เดินทางเข้าออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
- จำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 50% ของความจุ
- ห้ามจัดกิจกรรมรวบกลุ่มมากกว่า 5 คน
สำหรับกิจการ
- ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามทานในร้าน และเปิดได้ถึง 20.00 น.
- ห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต ยาและเวชภัณฑ์ และเปิดได้ถึง 20.00 น.
- โรงแรมเปิดได้ปกติ แต่งดการจัดประชุม หรือจัดเลี้ยง
- ร้านสะดวกซื้อและตลาดสด ปิดตั้งแต่ 20.00-04.00 น.
- สถาบันการศึกษา ให้เรียนผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
“เราแตะหมื่นหลายวันแล้ว สิ่งที่เราอยากเห็นคือมันลดลงกว่านี้ได้ไหม คนใดคนหนึ่งทำไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน ความสามัคคีเท่านั้นที่เราจะช่วยกันได้ ข้อกำหนดเป็นกติกาที่เราอยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างช่วยกัน เราจะดึงกราฟลงมาได้ และทำให้เราเห็นพลังของไทย จิตใจของไทย นอกจากเราจะช่วยตัวเราเองและญาติของเราได้แล้ว เรายังช่วยพี่น้องชาวไทยทุกคนได้ด้วย ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนช่วยกันและเราจะผ่านความทุกข์ยากนี้ไปด้วยกัน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
