8 เมษายน 2565 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งที่ 6/2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล เผยวาระการประชุมศบค. 5 วาระ เร่งการผลิต ATK ในประเทศ-เตรียมมาตรการรับสงกรานต์ ขอให้ย้อนดูผลงานรัฐบาลตลอด 8 ปี ชี้การกระจายความเจริญคือผลงานชิ้นสำคัญ ศบค.เผยการปรับสัญญาบ.แอสตร้าเซนเนก้า จัดหา LAAB ฉีดกลุ่มภูมิคุ้มกันต่ำ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.วันนี้มีการรายงานแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่เมื่อเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตกับผู้ป่วยที่มีอาการหนักแล้ว อัตราการเสียชีวิตของไทยถือว่าอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่ากลุ่มที่มีโอกาสเสียชีวิตคือกลุ่ม 608 (อายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 8 โรค) ซึ่งกว่า 70% ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
พลเอกประยุทธ์ รายงานว่า ในที่ประชุมวันนี้มีวาระการประชุมที่สำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ (1) การพิจารณาเรื่อง ATK ให้ประชาชนเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม จึงได้มีการเร่งการผลิตภายในประเทศ จากเดิมที่ผลิตได้ประมาณเดือนละ 200,000 ชิ้น (2) ผลการดำเนินงานการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเตรียมมาตรการถึงเดือนพฤษภาคม 2565 (3) การเตรียมความพร้อมมาตรการควบคุมโรคแบบบูรณาการ สำหรับการจัดกิจกรรมช่วงสงกรานต์ และ (4) การให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19
“ขอให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัยตามประเพณีไทย ไม่ได้ห้ามจัด แต่ต้องจัดอย่างปลอดภัย ขอให้ช่วยกันรักตัวเอง รักครอบครัวและคนอื่น เคารพกฎจราจร สำหรับสงกรานต์ก็ขอให้ใช้ขันน้ำรดน้ำ แต่ถ้าสาดกันมันอันตราย ขอร้องก็แล้วกัน อย่าให้บังคับกันทุกเรื่องเลย” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า “มันต้องชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจ ผมเข้าใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบการทุกอย่าง…แต่การติดเชื้อในเมืองไทยต้องดูตัวเลขสองตัวคือ RT-PCR กับ ATK ถ้าเอาตัวเลขสองตัวรวมกัน จะเห็นว่าสถิติผู้เสียชีวิตถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ แต่สักคนเดียวเราก็ไม่อยากให้เกิด แต่มันเกิดได้หลายกรณีเหมือนกัน ข้อสำคัญคือฉีดดีกว่าไม่ฉีด ลดการสูญเสียลงได้มาก”
นายกฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ด่านหน้าสาธารณสุข-กลาโหม
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าก่อนเริ่มการประชุม ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 จำนวน 140 ราย จำนวนเงิน 4.2 ล้าน ผ่านกระทรวงสาธารณสุข กรมราชทัณฑ์ ทหารบก ทหารเรือ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งหมดได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยงบประมาณดังกล่าวเป็นงบบริจาคที่ได้บริจาคนำร่องไปในระยะแรก จากนั้นจึงขอให้ช่วยบริจาคเข้ามาเพื่อเสริมกำลังใจให้เจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ยังเป็นวันครบรอบ 135 ปีของกระทรวงกลาโหม โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมที่ช่วยเหลือประเทศ ทั้งเรื่องความมั่นคงภายนอกภายใน ภัยพิบัติ และบูรณาการการทำงานต่างๆ ตลอดจนงานชายแดนก็หนักหน่อย การสกัดกั้นคนหลบหนีเข้าเมือง และยาเสพติด
“ผลงานก็ปรากฏเยอะแยะ แก้ปัญหาภาคใต้ก็ทำทุกงาน ไม่มีอะไรแก้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก หลายประเทศก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน แต่ปัญหาเราแก้ได้มากกว่าเขา ประเทศไทยก็กลายเป็นดินแดนที่ร่มเย็น ใครก็อยากเข้ามา” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ย้ำ การกระจายความเจริญทุกพื้นที่ คือผลงานรัฐบาลตลอดหลายปี
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการทำงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นถ้าทุกคนเคารพกฎหมายและทำตามหน้าที่ของตัวเองจะดีที่สุด เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกฎหมาย
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงแนวทางการสร้างอาชีพใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัดว่า “ผมให้แนวทางปฏิบัติมาตั้งนานแล้ว แต่การย้ายคนไปมันอยู่ที่ความสมัครใจของเขา คนกรุงเทพฯ มีจำนวนไม่มากนักหรอก มี 4 ถึง 5 ล้านคนที่มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ จริงที่มีบ้านรั้วรอบขอบชิด แต่สำคัญคือคนที่มาจากต่างจังหวัดหางานทำ ก็เห็นใจเข้ามาอยู่ตามชุมชน สิ่งที่จะทำได้คือทำยังไงให้คนเหล่านี้กลับไปอยู่ภูมิลำเนา ก็ต้องหางานให้เขาไง”
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลที่เข้ามาหลายปีพยายามกระจายการเจริญเติบโตไปต่างจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยให้ไปดูเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนในครัวเรือนด้วยการหาอาชีพ เพราะกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ก็ภูมิใจมากกว่า เนื่องจากกรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายสูง ยิ่งมีโควิดขึ้นรายได้ก็ลดลง
พลเอกประยุทธ์ ย้ำว่า “ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองสำคัญที่สุด การจะแก้ไขหรือทำอะไรก็ตามประชาชนจะต้องไม่เดือดร้อน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ถึงบอกไงแออัดมันจะทำยังไง เหมือนเรามีกล่องสักกล่อง มีของเต็มอยู่แล้ว เราต้องรื้อกล่องทั้งหมด แล้วมันรื้อได้ไหม จะเอาเขาไปอยู่ที่ไหน เอาของในกล่องไว้ตรงไหน เหมือนสร้างเศรษฐกิจออกมาข้างนอก”
“เราทำมาหลายปีแล้ว หลายอย่างก็ดีขึ้น บ้านเมืองมีระเบียบมากขึ้น วันนั้นผมไปคลองโอ่งอ่างเขาก็ชื่นชมว่าเราสามารถทำพื้นที่ของเขาเป็นพื้นที่แห่งการค้าขายและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งแต่ก่อนเขาอยู่กันแทบไม่ได้ ที่สำคัญต้องฟังความคิดเห็นเขา ทุกเรื่องต้องฟังทั้งหมด”
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลสร้างถนนในที่ต่างๆ รวมถึงทางรถไฟทางคู่ ทางรถไฟความเร็วสูง แต่ยังติดปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินทำให้งานล่าช้า แต่ทุกวันนี้หลายบ้านก็ยอมย้ายบ้านไปสถานที่ที่รัฐบาลสร้างให้
“วันนี้ผมคิดว่าหลายอย่างมันเกิดบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา นี่คือการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวังอย่างที่สุด” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ปัดแนวคิดตั้งงบจากการเก็บภาษีประจำจังหวัด
พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวถึงแนวคิดงบประมาณของพื้นที่ที่มีการปกครองแบบพิเศษว่า มีหลายคนเสนอให้ตั้งงบประมาณเฉพาะจังหวัดจากการเก็บภาษีภายในพื้นที่ แต่มองว่าจังหวัดอื่นๆ จะอยู่ไม่ได้ โดยแนวคิดนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อประเทศไทยมีรายได้เกณฑ์เฉลี่ยของทุกจังหวัดที่สูงใกล้เคียงกัน แต่ต้องใช้เวลาอีกนาน
“จะทำอะไรก็ตามงบประมาณสำคัญที่สุด ไม่ว่าพื้นที่พิเศษ ก็งบประมาณทั้งสิ้น งบประมาณตัวเองก็ไม่พออยู่แล้ว ทำไมต้องมาไถงบประมาณจากรัฐบาลกลาง ถึงแม้จะมีการปกครองแบบพิเศษ แต่ก็ต้องทำตามนโยบายหลักของรัฐบาลด้วย ไม่ใช่อิสระทั้งหมด ฉะนั้นการกระจายอำนาจเป็นสิ่งสำคัญว่าอะไรกระจายไปแล้ว แล้วยังไม่ได้ดีนัก ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณา อะไรทำไม่ได้ เพราะอะไร แก้ด้วยอะไร จะไปเลิกนู่นเลิกนี่มันได้ที่ไหน เพราะรายได้แต่ละพื้นที่มันไม่เท่ากัน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
สั่งบีโอไอหาสิทธิประโยชน์การลงทุนแบบใหม่
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรัฐบาลแนะนำให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI(Board of Investment Office) เพิ่มอัตราคนทำงานมิติใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุน เพราะปัจจุบันต้องหาแนวทางอื่น เนื่องจากมีกฎเกณฑ์ OECD ออกมา (องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ) ซึ่งกำหนดให้กรณีที่เป็นรายใหญ่จำนวนหลายร้อยล้านต้องเสียภาษี 15% (กำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก หรือGlobal Minimum Tax) ฉะนั้นการให้สิทธิประโยชน์อย่างเดียวไม่สามารถทำได้ในอนาคต ตนจึงกำชับให้บีโอไอปรับรูปแบบการทำงานเพิ่มเติม
“ถ้าพูดเฉพาะปัญหา แต่ไม่ได้ดูว่าทำอะไรไปแล้วบ้างก็ไม่เข้าใจกันใหญ่ รัฐบาลอยากช่วยทุกคน จึงคิดว่า 5 ถึง 10 ปีข้างหน้ามีอะไรจะเพิ่มจากรายได้ปานกลาง เช่นการลงทุนใหม่ๆ ระยะแรกยกเว้นภาษีให้เขา แต่หลังจากแปดปีจะได้อะไรจากเขาบ้าง แต่สิ่งที่ได้ทางอ้อมคือการจ้างงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี ต้องคิดแบบนี้”
“ผมคิดว่าวันข้างหน้าถ้ามีการลงทุนมากอยู่แบบนี้ รายได้เราก็สูงขึ้นๆ วันหน้าเราจะมีเงินเพียงพอดูแลประชาชนอย่างที่ทุกคนต้องการ มันต้องหาเงินไว้ในอนาคตด้วย ระหว่างนี้ก็บริหารอย่างระมัดระวัง วันนี้เราก็ใช้เงินจำนวนมากในการดูแลชีวิตประชาชนให้ปลอดภัยจากโควิด”
พลเอกประยุทธ์ ทิ้งท้ายว่า วันนี้ราคาพลังงานทั่วโลกยังสูง แต่เมื่อเทียบกับประเทศไทย ราคาของเราถือว่าอยู่อันดับท้ายๆ ซึ่งรัฐบาลก็ทำเต็มที่แล้ว ขอให้เห็นใจกันบ้าง
ศบค.ยันศักยภาพระบบสธ. – เตรียมฉีดภูมิคุ้มกัน LAAB
ส่วน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเปิดให้จัดเทศกาลสงกรานต์ภายใต้มาตรการของศบค.ที่ว่าเล่นน้ำอย่างไรให้มีความสุข “ริน รด พรม” และให้แต่ละหน่วยงานแถลงข่าวให้รายละเอียดในภายหลัง
“พลเอกประยุทธ์บอกว่าให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตามต้องได้ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนถึงจะผ่านไประยะที่สองหรือระยะหลังสงกรานต์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยวันนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 25,140 ราย เสียชีวิต 89 ราย คิดเป็น 0.26% ผู้ป่วยอาการหนักอยู่ที่ 1,899 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 815 ราย โดยภาพรวมถือว่าประเทศไทยมีศักยภาพในระบบสาธารณสุขและมีเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นายกฯ ขอให้เพิ่มคู่สาย 1330 เพื่อให้เข้าถึงบริการโดยเร็ว และขอให้เร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ
สปสช.ยังได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการกระจายชุดตรวจ ATK โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม – กันยายน 2565 เตรียมชุดตรวจประมาณ 22.8 ล้านชิ้น และช่วงที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 3.1 ล้านชิ้น ครอบคลุม 1.2 ล้านคน พบผลบวกประมาณ 2.3% ต้นทุนต่อชุดประมาณ 55 บาท โดยได้ของบประมาณไปแล้ว 170 ล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐบาลได้สนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามา โดยมีศิริราช พยาบาล สามารถผลิต ATK ซึ่งผลิตโดยคนไทยมีราคาประมาณ 40 บาทต่อชิ้น กำลังการผลิตประมาณ 200,000 ชิ้นต่อวัน และนายกฯ ได้มอบหมายให้ตั้งเป้ากำลังการผลิตที่ 1,000,000 ชิ้นต่อเดือน
ส่วนประเด็นการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวรวม 427,869 บาท ต่อมาเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวรวม 476,675 คน พบว่าเป็นตัวเลขที่สูงแม้ศบค.จะเปลี่ยนมาตรการจาก Test&Go เป็นการตรวจ ATK ด้วยตนเอง สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเปิดประเทศ
ท้ายที่สุด ที่ประชุมรับทราบแผนการจัดหา Long-acting antibody (LAAB) โดยเป็นการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ โดยกระบวนการจัดหาให้อัยการสูงสุดได้ปรับสัญญากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ให้เปลี่ยนจากการฉีดวัคซีน AZ บางส่วน เป็นการฉีด LAAB แทนและไม่เสียงบประมาณเพิ่ม เพราะอยู่ในกรอบงบประมาณเดิมที่ครม.อนุมัติ
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
