ThaiPublica > คอลัมน์ > กินข้าวกัน

กินข้าวกัน

8 มกราคม 2021


แรมโบ้บ้านสวน

มอเตอร์ไซค์รับจ้างในเสื้อวินสีส้มนั่งล้อมวงกินส้มตำกันอยู่ ส่งเสียงทักใบหน้ายิ้มแย้ม “กินข้าวกัน” แม้ว่าในเบื้องลึกแล้ว ชีวิตพวกเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ย่านเพลินจิต นานา ไปถึงอโศก เป็นทำเลทอง ทำให้โรงแรม คอนโดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาคารแทรกขึ้นมาตั้งแต่ริมถนนสุขุมวิทไปทุกซอกซอย เช่นเดียวกับวินมอเตอร์ไซค์ที่กระจายไปทั่วทุกแยก

หลายปีมาแล้วนักท่องเที่ยวและผู้พักอาศัยในโรงแรมและคอนโดเป็นลูกค้าสำคัญ เป็นช่วงเฟื่องฟูขนาดว่า แม้จะมีวินจำนวนมาก แต่ค่าเสื้อสีส้มนั้นยังมีราคาสูงถึงแสนห้าหมื่นบาทและให้เช่ากันวันละห้าร้อยบาท เกือบเท่าค่าเช่ารถแท็กซี่

มาวันนี้ จำนวนคนขี่รถในวินลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 20 อาการกระปรี้กระเปร่าหายไป รายได้ที่เคยได้วันละเกินพันบาทหายไป กลายเป็นสองร้อยบาท ข้าง ๆวิน มีเตาถ่าน หม้อเล็ก ๆและจานเก่า ๆ เอามาทำอาหารกินกันเอง

เขาถามว่า มันจะอีกนานไหม

ต้องตอบว่าคงจะนาน เพราะถ้าเครื่องยนตร์เศรษฐกิจดับไป ไม่ใช่จะฟื้นได้เร็ว ไม่เหมือนกับการยึดอำนาจที่ตั้งรัฐบาล เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทันที ไม่ต้องพึ่งใคร

ร้านนวดแผนไทยจำนวนมาก แม้จะใช้ต้นทุนไม่มากยังต้องเลิกกิจการเพราะเปิดแล้วไม่มีทั้งหมอนวดและลูกค้า

ป้ายรูปตีนขนาดใหญ่หน้าร้านต่าง ๆที่ตั้งไว้ welcome ลูกค้า ก็หายไปเกือบหมด

ลาเต้ หมอนวดพม่านั่งเหงา ทั้งที่เป็นระดับครูที่นวดแก้อาการได้อย่างฉกาจ ลูกค้าประจำไม่กล้ามาใช้บริการ ฝันที่จะเก็บเงินไปเปิดร้านที่ย่างกุ้งเหลือแต่จินตนาการ

“ยาไง โผก็สู้ ลูกโผยันเละ”

หรือจะเป็นธุรกิจโรงแรมที่แต่ละแห่งมีแม่บ้าน ฝ่ายซักรีด พนักงานยกกระเป๋า พนักงานนวด พนักงานต้อนรับ พอปิดไปก็ไม่มีงานทำ ส่วนร้านอาหารมีพ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ พนักงานล้างจาน พอปิดไปนอกจากจะตกงานกันแล้ว พืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ก็พลอยจะขายไม่ได้ไปด้วย

ฉะนั้นเมื่อลมเย็น ๆพัดมาทางเหนือ รัฐบาลทุ่มเทงบประมาณผลักดันให้ไปท่องเที่ยวกันให้มาก และสื่อบางสำนักพาดหัวว่ารัฐบาลใจดี จนทำให้นึกภาพคณะรัฐมนตรีถอนเงินกันจ้าละหวั่นมาลงขันกระตุ้นเศรษฐกิจ

จนมีข่าวดีปรากฎในรายงานเครื่องชี้ภาวะการท่องเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายนของธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าการเข้าพักโรงแรมในภาคเหนืออยู่ในระดับร้อยละ 60

แต่เมื่อเฉลี่ยกับทุกภาคแล้ว ทั้งประเทศก็อยู่ในระดับร้อยละ 34.8 ส่วนการที่คนจะท่องเที่ยวอีกนานแค่ไหน ก็พบว่าอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าเฉลี่ยทั้งประเทศมีแค่ร้อยละ 11.3 ของห้องพักทั้งหมด

ในประเทศของเรามีห้องพักโรงแรมประมาณ 780,000 ห้อง ไม่นับรวมที่พักประเภทอื่น ๆ ถ้าจะดำเนินงานให้ไม่ขาดทุนก็น่าจะมีคนเข้าพักร้อยละ 60 คือประมาณ 460,000 ห้อง ในแต่ละวันจึงต้องมีคนเข้าพักประมาณ 900,000 คน

ความพยายามปลุกกระแสท่องเที่ยวไม่ใช่มีแต่ประเทศไทย แต่ก็ยังไม่มีใครทำสำเร็จ เพราะเปิดให้เดินทางทุกครั้ง การติดโควิดก็เพิ่มขึ้นทุกที แม้การเที่ยวแบบจับคู่เมืองปลอดภัยก็ล้มไปหมด เช่นกรณีสิงคโปร์กับฮ่องกง ที่ยกเลิกก่อนเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์แค่สัปดาห์เดียว

มาในตอนนี้หลายประเทศปิดการเดินทางจากอังกฤษ เดนมาร์คปิดการเดินทางจากสวีเดน รัฐควีนสแลนด์และนิวเซาท์เวลสของออสเตรเลียปิดการเดินทางระหว่างกัน

สมาคมการบินระหว่างประเทศถึงกับคะเนว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับไปเหมือนเดิมได้ ต้องใช้เวลาสี่ปี สาเหตุสำคัญเพราะมาตรฐานการควบคุมโรคในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ตรวจน้อยก็เจอน้อย แต่ไม่ใช่ว่าปลอดภัย ทำให้การเดินทางข้ามประเทศมีอุปสรรคอย่างมาก

อีกไม่ช้าดอกพญาเสือโคร่งจะโรยรา ทะเลหมอกจะหมดไป เตรียมตัวเราเที่ยวด้วยกันที่อีสานกันเถอะ ที่นั่นขายห้องพักล่วงหน้าได้แค่ร้อยละ 7 ยังมีห้องว่างเปล่าอีกร้อยละ 93

ถ้าไม่ท้อ ไม่ถอย คงจะพอมีหนทาง