ThaiPublica > Sustainability > NaTive AD > “มันนี่ – แฟนต้า” เจ้าตูบหัวใจสีเขียวแห่งเกาะเต่า

“มันนี่ – แฟนต้า” เจ้าตูบหัวใจสีเขียวแห่งเกาะเต่า

14 ธันวาคม 2020


เมื่อพูดถึง “เกาะเต่า” คุณจะนึกถึงชายหาดที่สวยงาม น้ำทะเลใส แนวปะการังและการดำน้ำลึก เกาะแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำ ที่มีชื่อเสียงของโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาที่เกาะนี้หลายแสนคน

เกาะเต่ายังมีเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่งที่ชวนให้หลงใหลอย่างยิ่ง นั่นคือ เรื่องราวของสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ 2 ตัวชื่อ มันนี่ (Money) สุนัขเพศเมียอายุ 2 ปี และแฟนต้า (Fanta) ลูกชายวัย 9 เดือนของเธอ

มันนี่และแฟนต้าถือเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางเทียบเท่าระดับคนดัง ชาวฮิปสเตอร์ที่มาเที่ยวเกาะเต่า ต่างกระตือรือร้นที่จะพบกับพวกเขา ไม่เพียงแต่เป็นสุนัขที่น่ารักและมีสุขภาพดี แต่ทั้งคู่ยังมี “หัวใจสีเขียว” อีกด้วย เรื่องราวของ Money และ Fanta ได้รับการกล่าวถึงโดยคนดังและบล็อกเกอร์ชาวไทยหลายคนอย่างต่อเนื่องว่ามีการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและพวกมันได้แสดงความรักต่อธรรมชาติด้วยการเก็บขยะทะเล

นายบุญถิ่น แดนไธสง (ลุงชัย) เจ้าของมันนี่และแฟนต้า กล่าวว่าคู่แม่ลูกกลายเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ หลังจากกลุ่มวัยรุ่นจ้างเรือลุงชัยไปท่องเที่ยวโดยมีสุนัขทั้งสองตัวติดไปด้วย “มันนี่และแฟนต้าเริ่มล่องเรือไปกับผมตั้งแต่ยังเด็ก ในช่วงแรกมันนี่เพิ่ง 3 เดือน และตอนนี้ทั้งคู่ชินกับการเดินเรือแล้ว “ลุงชัยกล่าว

นักท่องเที่ยวชอบใช้เวลากับมันนี่และแฟนต้า และมักจะโพสต์รูปถ่ายของพวกเขาในช่องทางโซเชียลมีเดีย จนทำให้ทั้งคู่โด่งดังขึ้นไปอีก สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดเกี่ยวกับสุนัขทั้งสอง คือพวกมันได้รับการฝึกฝนให้เก็บขยะทะเล เมื่อเจ้าของโยนขวดหรือกิ่งไม้ลงในทะเลมันนี่และแฟนต้า จะกระโดดลงไปเก็บเศษซากขยะนั้น หากมันนี่และแฟนต้าพบเห็นเศษขยะในทะเล เช่น ไม้ไผ่ หรือขวด พวกมันจะกระโดดลงจากเรือและว่ายน้ำไปเก็บ พวกมันเป็น ‘หมาหัวใจสีเขียว’ ที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริงตามที่ลุงชัยบอก
เรื่องนี้ทำให้ลุงชัยมีรายได้เพิ่มขึ้นท่ามกลางวิกฤต COVID-19 เมื่อเทียบกับคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กคนอื่น ๆ บนเกาะเต่า เรียกว่าต้องขอบคุณน้องหมาทั้งสองตัว มันนี่และแฟนต้า

“ปัจจุบันเกาะเต่าได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ เนื่องจากนโยบายล็อคดาวน์ประเทศ ก่อนเกิดการระบาด มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมาเที่ยวที่เกาะนี้ ส่วนใหญ่นิยมดำน้ำและอยู่นานกว่าหนึ่งสัปดาห์ แต่หลังจาก COVID-19 ไม่มีชาวต่างชาติเลย แต่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเฉพาะกลุ่มในช่วงวันหยุดเพียง 2-3 วันเท่านั้น สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมาก ต่อคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กในเกาะเต่า เนื่องจากพวกเขาขาดรายได้เพื่อความอยู่รอดและดูแลครอบครัว”

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นกับเกาะเต่าคือธรรมชาติได้รับการฟื้นฟูและน้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเกาะเต่า ได้แก่ อ่าวนางยวน อ่าวม่วงหรือแมงโก้เบย์ อ่าวกล้วยเถื่อนไลท์เฮาส์ อ่าวหินวงพินนาเคิล อ่าวลึก และอ่าวชาร์คเบย์ เป็นต้น

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 มีการเปิดตัวแคมเปญ “Koh Tao Better Together” ซึ่งเป็นแคมเปญระดมทุนระหว่าง BIOFIN, UNDP Thailand, ธนาคารกรุงไทย, มูลนิธิรักษ์ไทย และเทศบาลตำบลเกาะเต่า และได้ดำเนินการระดมทุนเพื่อสนับสนุนกลุ่มคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็ก ในเกาะเต่าภายใต้วิธีการ “เงินสดเพื่องาน” เป็นระยะเวลาสามเดือน เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการจัดงาน Big Cleaning Dayเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมา