ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 1-7 ส.ค. 2563
ทหารสหรัฐฯ กว่าร้อยเข้าฝึกในไทย พักโรงแรม กทม. ทบ.ยัน ผลโควิดเป็นลบทุกนาย
วันที่ 3 ส.ค. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. แถลงว่า จะมีทหารอเมริกันจากดินแดนกวมแห่งสหรัฐอเมริกาและจากฐานทัพอากาศในประเทศญี่ปุ่น เดินทางเข้ามาฝึกในไทย 110 นาย โดยทั้งหมดเข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือกของรัฐ หรือเอเอสคิว (ASQ — alternative stae quarantine) ซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดังใน กทม. 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมคอนราด, โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ และโรงแรม The Idle Serviced Residence
อนึ่ง ทีแรก ศคบ. แจ้งว่าเข้าพักที่โรงแรมอนันตรา สยาม แต่ทางโรงแรมออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง จึงมีการแก้ไขภายหลังว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน แล้วแก้ไขเป็นโรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์
นพ.ทวีศิลป์ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ประสานงานเลื่อนการฝึกไปแล้วกว่า 2,000 นาย แต่ที่ยังมี 110 นายนี้เข้ามาเป็นเพราะประสานงานล่าช้า
“ก่อนหน้านี้ได้เลื่อนนะครับ ไป 2,000 กว่านายนะครับ แต่ ณ ตอนนี้มีเข้ามาประปรายเพราะว่าเนื่องจาก เอ่อ… เรื่องของทางด้านการแจ้งไปตรงนี้… เอ่อ อาจจะ… เอ่อ… ล็อต- ล็อตนั้นเนี่ย 2,000 ได้ แต่ว่าล็อตนี้เข้ามาแล้วเนี่ยนะครับ ในวันนี้วันพรุ่งนี้ ก็… คงต้องดูแลเขาไปนะครับ”
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
โฆษก สบค.
ที่มา: เว็บไซต์ SANOOK
[Live] 11.30 น. แถลงสถานการณ์ COVID-19 โดย ศบค. (3 ส.ค. 63)
ที่มา: YouTube ThaiPBS
เหตุใดไม่พักในสถานกักตัวของรัฐ
การเข้ามาดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดจึงเข้าพักในเอเอสคิวแทนที่จะเป็นสถานกักตัวของรัฐบาล ซึ่ง พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงในวันที่ 5 ส.ค. 2563 ว่า ต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองโรคก่อน ซึ่งการไปคัดกรองโรคในค่ายทหารก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ เพราะไม่ได้มีการจัดแบ่งห้องไว้ จะให้ไปอยู่ในค่ายทหารได้อย่างไร แต่ทั้งนี้ก็มีการปิดโรงแรมและทางเขาออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง เพื่อดำรงความต่อเนื่องในการฝึก แม้เดิมคนจะมา 300 คน แต่ก็ปรับลดขนาดลงมาเพื่อเอาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ
ทบ. แจง ติดเชื้อ 11 นาย แค่ลือ
มีการเผยแพร่ข้อมูลว่าทหารสหรัฐฯ กลุ่มดังกล่าวที่เข้าพักในเอเอสคิว มี 11 นายติดเชื้อโควิด-19 ซึ่ง พ.อ. หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะจากการตรวจครั้งแรกวิธีสวอปให้ผลเป็นลบทั้งหมด คือไม่มีใครติดเชื้อ แต่อย่างไรก็ดี ต้องกักตัวจนครับ 14 วัน
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์ SANOOK — ศบค. เผยมีทหารสหรัฐ 110 นาย เข้าไทย! พักโรงแรมหรูกลางกรุง ยืนยันดูแลเข้มงวด
เว็บไซต์เดลินิวส์ — ศบค.เปิดรายชื่อ 3 โรงแรมดัง ทหารมะกัน-ญี่ปุ่นเข้ากักตัว
เว็บไซต์ข่าวสด — โรงแรมหรู วอนศบค.แจง ยันทหารมะกันไม่ได้เข้าพักเป็นที่กักตัว
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ผบ.ทบ. แจงเหตุกักทหารสหรัฐฯ ในโรงแรมกลางกรุง หลังครบ 14 วัน ฝึกระบบปิด
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ทบ. สยบข่าว ยันผลตรวจเป็นลบ 11 ทหารสหรัฐฯ ติดเชื้อโควิด-19 แค่ข่าวลือ
จับ “อานนท์ นำภา” ข้อหายุยงปลุกปลั่น
เพื่อยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัวต่อหลังศาลไม่รับฝากขัง
ที่มาภาพ: เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์
7 ส.ค. 2563 อานนท์ นำภา ทนายความสิทธินุษยชน โพสต์ภาพหมายจับลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมระบุข้อความ “ผมโดนจับแล้ว” ก่อนจะมีรายงานต่อมาจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ภาณุพงศ์ จาดนอก (ไมค์ ระยอง) แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ก็ถูกออกหมายจับและจับกุมตัวในข้อหาเดียวกันกับนายอานนท์ด้วยเช่นกัน
อานนท์และภาณุพงศ์ถูกนำตัวไปยัง สถานีตำรวจนครบาล (สน.) สำราญราษฎร์ ก่อนจะถูกนำตัวต่อไปยัง สน. บางเขน จากนั้นมีการยื่นคำร้องขอฝากขังทั้งสองคนต่อศาลอาญา แต่ศาลไม่รับคำร้องเพราะยื่นเกินเวลาราชการ จึงคืนคำสั่งและให้รับตัวผู้ต้องหาคืน โดยให้มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกใหม่ภายใน 48 ชั่วโมง ตำรวจจึงนำตัวทั้งสองคนไปควบคุมตัวไว้ที่ สน. ห้วยขวาง ซึ่ง ณ จุดนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็นว่าตำรวจหมดอำนาจในการควบคุมตัวแล้ว แต่ตำรวจก็ยังยืนยันจะนำตัวไปควบคุมที่ สน. ห้วยขวางต่อ และในเวลาต่อมา รองอธิบดีศาลอาญาก็ชี้แจงว่าตำรวจยังมีอำนาจในการควบคุมตัวอยู่
อย่างไรก็ดี อานนท์และภาณุพงศ์ได้ยืนยันเชิงสัญลักษณ์ว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจควบคุมตัวต่อ โดยการทิ้งตัวไม่เดินตามการนำตัวของเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันหิ้วร่างของทั้งสองไปขึ้นรถ ท่ามกลางเสียงผู้สนับสนุนที่ไม่เห็นด้วยกับการจับกุมตะโกนข้อความต่างๆ ซ้ำๆ ว่า ข้าราชการต้องรับใช้ประชาชน, หยุดคุกคามประชาชน, หยุดอุ้มฆ่าประชาชน
“เผด็จการกำลังใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการปิดปากประชาชน การประกันตัวที่ต้องติดเงื่อนไขห้ามชุมนุมหรือห้ามตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์เป็นสิ่งที่เราไม่อาจยอมรับได้ ผมยินดีสละเสรีภาพเพื่อยืนยันหลักการ ขอให้ทุกคนออกมาต่อสู้ให้ถึงเส้นชัยอย่าเสียเวลามา Free Arnon ให้เอาเวลาไปทุ่มเทเรียกร้องตามข้อต่อสู้ของเรา”
อานนท์ นำภา
ที่มา: เว็บไซต์บีบีซีไทย
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกเอกสารชี้แจงกรณีการจับกุมอานนท์และภาณุพงศ์ว่า มีสาเหตุจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 โดยเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, 215, 385 นอกจากนี้ยังฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รวมทั้งมีความผิดตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก มาตรา 114, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง มาตรา 19 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง มาตรา 4 รวม 7 ข้อหา
นอกจากนี้ อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ยังเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้สภาทนายถอดชื่ออานนท์ออกจากทะเบียนทนายความด้วย
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์บีบีซีไทย — อานนท์ นำภา: ศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ-ผู้ปราศรัยในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 7 คน
เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ — ตร.จับอีก! ไมค์ ระยอง คดีเดียวกับ ทนายอานนท์ ประชาชน โห่ลั่น สน.
เว็บไซต์แนวหน้า — ศาลไม่รับคำร้องฝากขัง’อานนท์-ไมค์ ระยอง’ ชี้ พงส. ยื่นเกินเวลา
เว็บไซประชาไท — ศาลคืนคำร้องฝากขังอานนท์-ไมค์ ตร. ขังต่อที่ สน.ห้วยขวาง
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ทนายอานนท์-ไมค์ ทิ้งตัวไม่ยอมให้ตำรวจคุมกลับ สน.ห้วยขวาง ไปฝากขังใหม่
เว็บไซประชาไท — บช.น. ชี้แจงกรณีจับกุม อานนท์ – ไมค์ ระยอง เหตุจากการชุมนุม 18 ก.ค. ยันทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เว็บไซประชาไท — ตร.กางหมาย 7 ข้อ รวบ “ทนายอานนท์” งานเข้า ถูกยื่นถอดชื่อ พ้นวิชาชีพ
ประธานคณะกรรมการอัยการ ชี้ สั่งไม่ฟ้อง “บอส” ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
วันที่ 4 ส.ค. 2563 นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) เรื่อง การแถลงข่าวผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา
หนังสือดังกล่าวสรุปความได้ว่า กรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องและผลของการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องเพิ่มเติมอีกนั้น มีประเด็นต้องพิจารณาคือเรื่องอำนาจหน้าที่ในการสั่งสำนวนของพนักงานอัยการ
คณะกรรมการเห็นว่า คดีนี้นั้น ทางวรยุทธได้ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง แต่อัยการสูงสุด (ร.ต.ต. พงษ์นิวัติ ยุทธภัณฑ์บริภาร) เคยมีคำสั่งยุคิการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของวรยุทธไปแล้ว หากจะมีการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมอีก ต้องมีคำสั่งจากอัยการสูงสุดจึงดำเนินการได้ ดังนั้น กรณีนี้ถือว่าคำสั่งยุติพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของวรยุทธที่อัยการสูงสุดสั่งไว้ยังมีผลอยู่ และคำสั่งไม่ฟ้องวรยุทธที่เกิดขึ้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์เดลินิวส์ — คดีพลิกเต็มๆ! ยันสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส’ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดีอีขู่เอาผิดเฟซบุ๊กหากไม่บล้อกเนื้อหาตามที่หน่วยงานรัฐไทยขอ
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตรียมดำเนินคดีกับเฟซบุ๊กเนื่องจากไปปิดกั้นเนื้อหาทั้งหมดตามที่หนว่ยงานไทยร้องขอ โดยระบุว่าอาจผิดกฎหมายมาตรา 27 ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่กำหนดไว้ว่า
“ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกวาจะปฏิบัติให้ถูกต้อง”
ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2563 นี้หน่วยงานรัฐไทยร้องขอไปทั้งหมด 4,700 รายการ แต่เฟซบุ๊กปิดกั้นให้แค่ 1,300 รายการ ซึ่งคิดเป็นเพียง 27 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กูเกิลนั้นปิดกั้นเนื้อหาบนยูทูบให้ตามที่หน่วยงานรัฐไทยร้องขอถึง 93 เปอร์เซ็นต์
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซบล็อกนัน — พุทธิพงษ์ ขู่เอาผิด Facebook ตาม พรบ. คอม หลังไม่ยอมบล็อกเนื้อหาทั้งหมดที่หน่วยงานรัฐไทยร้องขอ
แอมโมเนียมไนเตรตระเบิดในเบรุต ตายอย่างน้อย 137 เจ็บกว่า 5,000
วันที่ 3 ส.ค. 2563 เกิดเหตุสารแอมโมเนียมไนเตรตระเบิดในกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศเลบานอน
แอมโมเนียมไนเตรตดังกล่าวมีจำนวนถึง 2,750 ตัน เป็นของกลางที่ยึดมาจากเรือขนส่งสินค้าลำหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 2013 และถูกจัดเก็บอย่างไม่เหมาะสมในคลังสินค้าบริเวณท่าเรือมาเป็นเวลาถึง 6 ปี (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014) จนมาเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว
ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 137 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 5,000 ราย
นายมานัล อับเดล ซาหมัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่การท่าเรือทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บและดูแลสารแอมโมเนียมไนเตรทในคลังสินค้าแห่งนี้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2014 ได้ถูกสั่งกักบริเวณในบ้านพัก
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์บีบีซีไทย — เหตุระเบิดใหญ่ที่เมืองหลวงเลบานอน ยอดตายเพิ่มเป็น 135 ราย เจ็บอีกกว่า 4,000 ราย
เว็บไซต์บีบีซีไทย — ระเบิดเลบานอน: ชาวบ้านโกรธแค้นรัฐบาล ละเลยการดูแลสารเคมีอันตราย จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
