ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “อัยการไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงทุกข้อหา” และ “Google จับมือสิงคโปร์เสริมทักษะอนาคต สร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “อัยการไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงทุกข้อหา” และ “Google จับมือสิงคโปร์เสริมทักษะอนาคต สร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง”

25 กรกฎาคม 2020


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 18-24 ก.ค. 2563

  • อัยการไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงทุกข้อหา
  • ศคบ. เตรียมเสนอ ครม. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นครั้งที่ 4 ยืนยัน ไม่ห้ามชุมนุม
  • ผลตรวจระยองไม่พบเชื้อทุกราย รับเป็นบทเรียน “วิกฤติรายงานข่าว”
  • ฌาปนกิจซีอุย ปิดตำนาน “มนุษย์กินคน?”
  • Google จับมือรัฐบาลสิงคโปร์จัดโครงการอบรมเสริมทักษะอนาคต สร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง

  • อัยการไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงทุกข้อหา

    นายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่มาภาพ : https://www.bbc.com/thai/thailand-53522988

    ต่อเนื่องยาวนานกันมา 8 ปี กับกรณีที่ทายาทกระทิงแดง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 แล้วอีก 5 ปีต่อมา (พ.ศ. 2560) ก็เดินทางออกนอกประเทศก่อนศาลอาญากรุงเทพใต้จะออกหมายจับ และระหว่างนั้นก็มีข่าวคราวการเคลื่อนไหวในต่างประเทศเป็นครั้งคราว และเลื่อนไม่เข้สสรับทราบข้อกล่าวคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมาถึง 8 ครั้ง

    กรณีนายวรยุทธถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 5 ข้อหา ได้แก่ 1. ข้อหาเมาแล้วขับ อัยการสั่งไม่ฟ้อง 2. ขับรถเร็วเกิน หมดอายุความไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2556 3. ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย หมดอายุความไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2556 4. ชนแล้วหนี หมดอายุความไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2560 และ 5. ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีกำหนดหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2570

    ทว่า ล่าสุดอัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายที่เหลืออยู่ข้อหาเดียวนั้นด้วย ลแะทางตำรวจเองก็ไมไ่ด้มีความเห็นแย้ง

    “เป็นการพิจารณาตามพยานหลักฐาน คงไม่ใช่เรื่องของสองมาตรฐาน”

    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ
    รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
    ที่มา: เว็บไซต์บีบีซีไทย

    อนึ่ง ขณะที่ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2563 ว่าได้รับหนังสือคำสั่งไม่ฟ้องคดีตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2563 แต่คนไทยกลับได้รู้ข่าวนี้เพราะสื่อต่างประเทศรายงานก่อนในวันที่ 23 ก.ค. 2563 แล้วตำรวจจึงแถลงชี้แจงในวันที่ 24 ก.ค. 2563

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    บีบีซีไทย — บอส อยู่วิทยา : ย้อนรอย 8 ปี คดีทายาทกระทิงแดง ผู้ต้องหาหนีคดีขับรถชน ตร.เสียชีวิต

    ไทยรัฐออนไลน์ — หลุดคดี อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา ‘บอส อยู่วิทยา’ ขับรถชนตำรวจตาย

    กรุงเทพธุรกิจ — ตร.ยันไม่สองมาตรฐาน! เห็นพ้องอัยการ สั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ เร่งถอนทุกหมายจับ

    ศคบ. เตรียมเสนอ ครม. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นครั้งที่ 4 ยืนยัน ไม่ห้ามชุมนุม

    หลังจากประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 และมีการประกาศขยายเวลาการใช้มาแล้วถึง 3 ครั้ง ล่าสุด ที่ประชุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีมติต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีกหนึ่งเดือน โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า

    ทั้งนี้ ยืนยันว่าการต่ออายุครั้งนี้จะไม่มีการใช้มาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การห้ามการชุมนุม เนื่องจากมีกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว และเพื่อให้เห็นว่าเป็นการต่ออายุเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุขอย่างแท้จริง

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    บีบีซีไทย — โควิด-19: ศบค. ต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 4 ยืนยันไม่ห้ามการชุมนุม
    โพสต์ทูเดย์ — ‘วิษณุ’ แจง เหตุ ต่อ พรก.ฉุกเฉิน บูรณาการการทำงานเจ้าหน้าที่ได้

    ผลตรวจระยองไม่พบเชื้อทุกราย รับเป็นบทเรียน “วิกฤติรายงานข่าว”

    นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.

    จากกรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิดเข้าพักในโณงแรมที่จังหวัดระยองและมีการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ จนเป็นที่กังวลว่าจะนำมาซึ่งการระบาดระลอกสอง ล่าสุด นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2563 ว่า ขณะนี้ครบ 14 วันนับจากที่ทหารติดเชื้อเข้ามาแล้ว และผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากกรณีดังกล่าวสูงทั้ง 12 คนที่กักตัวอยู่ก็ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วสองครั้ง โดยไม่พบเชื้อทั้งสองครั้ง และพร้อมให้ออกจากที่กักตัวในวันที่ 25 ก.ค. 2563

    “สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นวิกฤตในเชิงงานข่าว ซึ่งเราก็มีการพูดคุยกัน ผมเองในฐานะของโฆษก ศบค. และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะมีวิธีการในการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนอย่างไร ไม่ให้เกิดวิกฤตในเชิงของงานการข่าว ไม่ได้เป็นวิกฤตของการระบาด ซึ่งก็น้อมรับในทุกคำที่แนะนำ ซึ่งจะได้มีการวางแผนในการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนกรณีของซูดานก็ไม่มีอะไรแล้ว กลับมาเป็นปกติทั้งหมด”

    นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
    โฆษก ศบค.

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    ประชาชาติธุรกิจ — ปิดจ๊อบระยอง! ศบค.ยันผลตรวจทุกรายไม่พบเชื้อ ชี้เป็นบทเรียน “วิกฤตงานข่าว”

    ฌาปนกิจซีอุย ปิดตำนาน “มนุษย์กินคน?”

    ภาพซีอุย แซ่อึ้ง ขณะอ้าปากหาว ที่หนังสือพิมพ์จงใจให้ดูเหมือนกำลังแยกเขี้ยว แสดงความโหดร้ายของซีอุย กลายเป็นภาพติดตาผู้คน ทำให้ซีอุยกลายเป็นสัญลักษณ์ของฆาตกรใจโหดผิดมนุษย์
    ภาพและเรียบเรียงข้อความจากเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม

    หลังจากถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์มานานถึง 60 ปี ในที่สุด ร่างของนายลีอุย แซ่อึ้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อซีอุย และถูกประทับตราในฐานะตำนานมนุษย์กินคนมาจนเกิดการตั้งข้อสงสัยทางคดีเมื่อไม่นานนี้ ก็ได้รับการนำไปฌาปนกิจโดยกรมราชทัณฑ์แล้ว

    “การเผานายซีอุย นักโทษประหารชีวิตที่ไม่มีญาติ ถือเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบ 20 ปี และประเทศไทยที่นำร่างจัดแสดงจากพิพิธภัณฑ์ออกมาทำพิธีฌาปนกิจ เนื่องจากมีการเรียกร้องเรื่องของความเหมาะสม ในอดีตหากมีคดีที่ตัดสินสิ้นสุดแล้วไม่ควรนำร่างมาจัดแสดงหรือเผยแพร่ เพราะถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซีอุยถือเป็นกรณีศึกษาเรื่องที่ต้องศึกษาข้อกฎหมายและสิทธิมนุษยชนให้รอบคอบ”

    นางอังคณา ลีละไพจิตร
    อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

    การฌาปนกิจครั้งนี้ เกิดขึ้นจากอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นตัวแทนชาว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าเรียกร้องกับทางโรงพยาบาลศิริราชว่าการจัดแสดงร่างของซีอุยนั้นกระทบถึงสิทธิมนุษยชนของผู้เสียชีวิต เพราะนอกจากระบุชื่อแล้วยังมีการระบุข้อความว่าเป็นมนุษย์กินคน ทั้งที่พยานหลักฐานก็ไม่ชัดเจนว่าตกลงแล้วนายซีอุยกระทำเช่นนั้นจริงหรือ ซึ่งก่อนหน้านี้การร้องเรียนดังกล่าวก็ทำให้ทางโรงพยาบาลปลดป้าย “มนุษย์กินคน” ออกไปแล้ว

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    ไทยพีบีเอส — เผาร่าง “ซีอุย” กรณีศึกษาละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
    ไทยพีบีเอส — รพ.ศิริราชส่งร่าง “ซีอุย” ให้กรมราชทัณฑ์ฌาปนกิจ
    ศิลปวัฒนธรรม — “ซีอุย” มนุษย์กินคน หรือเหยื่อสังคม?

    Google จับมือสิงคโปร์เสริมทักษะอนาคต สร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง

    กูเกิลสิงคโปร์ได้ร่วมมือกับรัฐบาลสิงคโปร์ริเริ่มโครงการสร้างงานและฝึกทักษะ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่กำลังหางานทำจำนวน 3,000 ราย ทั้งในระดับเพิ่งเข้าทำงานและกลุ่มที่อยู่ในช่วงกลางของอาชีพ

    ผู้จัดการกูเกิลประจำสิงคโปร์ นายเบน คิง กล่าวว่า การอบรมด้านการการงานอาชีพเป็นการติดอาวุธให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ด้วยทักษะที่จะทำให้สามารถทำงานกับบริษัทที่อยู่ในระบบนิเวศเทคโนโลยีของสิงคโปร์ได้กว้างขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างทักษะด้านที่ธุรกิจในสิงคโปร์ต้องการ

    “เรายังคงมุ่งมั่นเพิ่มอำนาจให้กับคนสิงคโปร์เพื่ออนาคต และเราสร้างโอกาสในการฝึกอบรมและเสริมประสบการณ์ด้านธุรกิจที่มีคุณค่า”

    อนึ่ง แม้จะยังไม่มีการรับประกันว่า บริษัทที่ผู้เข้าร่วมโครงการได้เข้าไปรับการอบรมและเรียนรู้การทำงาน จะจ้างงานหลังจากโครงการครบกำหนด 9 เดือน แต่ผู้เข้ารับการอบรวมจะได้รับใบรับรองซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการได้รับการว่าจ้างให้ทำงานในอนาคต

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    ไทยพับลิก้า — Google จับมือรัฐบาลสิงคโปร์จัดโครงการอบรมเสริมทักษะอนาคต สร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง