ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “ศาล รธน.มติ 5-4 ให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ‘ไม่โมฆะ’ ” และ “หมอจีนที่เตือนสังคมเรื่องไวรัสโคโรนาเสียชีวิตแล้ว”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “ศาล รธน.มติ 5-4 ให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ‘ไม่โมฆะ’ ” และ “หมอจีนที่เตือนสังคมเรื่องไวรัสโคโรนาเสียชีวิตแล้ว”

7 กุมภาพันธ์ 2020


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 1-7 ก.พ. 2563

  • ศาล รธน.มีมติ 5-4 ให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี ’63 “ไม่โมฆะ” ให้โหวตใหม่ในวาระ 2-3
  • พรรคเศรษฐกิจใหม่ถอนตัวจากฝ่ายค้าน ขอทำงานเป็นอิสระ ด้านมิ่งขวัญลั่น “อยู่พรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะเป็นคนเดียวก็จะอยู่”
  • “อย่างนี้ต้องไล่ออกจากประเทศไทย” อนุทินเดือด จวกถึงนักท่องเที่ยวฝรั่งไม่รับ-ไม่สวมหน้ากาอนามัย
  • ศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ 21 ก.พ. 2563
  • หนึ่งในหมอจีนคนแรกๆ ที่เตือนสังคมเรื่องไวรัสโคโรนาเสียชีวิตแล้ว
  • ศาล รธน.มีมติ 5-4 ให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี ’63 ‘ไม่โมฆะ’ ให้โหวตใหม่ในวาระ 2-3

    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าhttp://bit.ly/31xbyAh วันที่ 7 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจาก นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็น ของ ส.ส. กรณีส.ส.เสียบบัตรลงคะแนน แทน นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ตามรธน.มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่

    ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ด้วยมติ 5 ต่อ 4 ไม่เป็นโมฆะ และให้โหวตใหม่ ในวาระ 2-3

    โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกหนังสือนัดวินิจฉัย กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ ส.ส. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่

    ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้ว เห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัย พร้อมทั้งนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 

    พรรคเศรษฐกิจใหม่ถอนตัวจากฝ่ายค้าน ขอทำงานเป็นอิสระ

    จากกรณีที่นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ประกาศถึงมติการประชุมผู้บริหารพรรค เรื่องการถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยระบุว่า

    เรื่อง แจ้งผลมติในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่

    เนื่องด้วยการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2563 มีมติในที่ประชุมให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ ดำเนินกิจกรรมทางการมืองโดยถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อทำงานป็นอิสระตามแนวทางของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ดังนั้นจึงขอแจ้งผลมติดังกล่าว ให้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพื่อโปรดทราบ

    ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง
    (สุภดิช อากาศฤกษ์)รักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่


    ต่อมา วันที่ 3 ก.พ. 2563 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงข่าวhttp://bit.ly/3bjI2Cwที่รัฐสภาถึงกรณีดังกล่าวว่า เกิดมาเป็นครั้งแรกที่โดนด่าทอเสียหายมากหลังข่าวออกไป จึงคิดว่าต้องออกมาแถลงข่าว ทราบข่าวครั้งแรกตอนที่ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ โทรมาถามว่าทราบหรือยัง จึงบอกว่าเห็นจากข่าว แต่เมื่อจะถามกลับก็โดนตัดบทว่าจะโทรกลับ แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่โทรมา

    นอกจากนี้ นายมิ่งขวัญยังขอบคุณคะแนนที่ประชาชนให้เกียรติ ศรัทธา และเชื่อถือตน 485,000 กว่าคน และขอโทษที่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องทำตามมติพรรค พร้อมย้อนไปถึงครั้งที่เคยทำ ส.ส.ทุกคนในพรรคมาแถลง ถามทีละคนในวันนั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใครจะเป็นคนรักษาคำพูด หรือตระบัดสัตย์ ในพรรคจะเป็นอะไร ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อง อีกทั้งพฤติกรรมของ ส.ส.คนอื่นๆ ในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ก็มีการโหวตสวมมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้ายังเป็น 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ต้องปฏิบัติตาม

    “วันนี้ประชาชนเคลือบแคลงใจ จริงอยู่พรรคเศรษฐกิจใหม่มี ส.ส. 6 คน ผมขอโทษที่เอาเรื่องเหล่านี้มาคุย แต่วันนี้ต้องชัดเจน ทุกทีผมถนอมความรู้สึก พยายามที่จะไม่พูดอะไร ในเมื่อถ้าตัดสินใจมีมติถอนตัวจากพรรคฝ่ายค้านอย่างนี้ กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุว่า ส.ส. ไม่จำเป็นต้องทำตามมติพรรค ผมขอยึดคำพูดและจุดยืนไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผมจะอยู่พรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะเป็นคนเดียวก็จะอยู่ ในเมื่ออุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้ ขอประกาศว่าจะไม่ร่วมอุดมการณ์กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ต่อไป ขอประกาศแยกทางเด็ดขาด”

    อนุทินเดือด จวกถึงนักท่องเที่ยวฝรั่งไม่รับ-ไม่สวมหน้ากาอนามัย

    วันที่ 7 ก.พ. 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่บ่ายสยามสแควร์ เขตปทุม เพื่อแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม

    แต่อย่างไรก็ดี มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่สวมใส่และไม่ยอมรับหน้ากากอนามัย ทำให้เมื่อถึงเวลาให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงการลงพื้นที่ดังกล่าว นายอนุทินจึงกล่าวตอนหนึ่งว่า

    “ประชาชนทั่วไป ถ้ามีการแจกก็ควรจะรับ ไอ้ฝรั่งอีก ไอ้พวกฝรั่งนักท่องเที่ยว ต้องบอกไปยังสถานทูต แล้วก็บอกพวกประชาชนทั่วไปด้วย ไม่ยอมใส่ แจกแล้วไม่ยอมรับ อย่างนี้ต้องไล่ออกจากประเทศไทย ไม่ใช่ไปสนใจคนที่แบบภาพรวม คนที่อยู่ในประเทศไทยนี่เอง นักท่องเที่ยวเราเอาไปให้แล้วเนี่ยยังปฏิเสธอยู่ ไม่ท่าทางยี่หระต่อสถานการณ์ คนจีน คนเอเซีย เขารับกันทุกคน ไอ้พวกยุโรปเนี่ย มันน่านัก แล้วก็ รู้ได้ไงว่าเค้าจะไม่เป็นตัวแพร่เชื้อ อาจจะไปเที่ยวเมืองอื่นก่อนมาเมืองไทย เนี่ยเป็นสิ่งที่คนไทยต้อ’ช่วยกัน ถ้าเจอคนแบบนี้ ไล่มันออกจากประเทศไปเลยนะครับ”

    ศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ 21 ก.พ. 2563

    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

    วันที่ 5 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาพิจารณา กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยมีผลการพิจารณาว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องและคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีพอวินิจฉัยได้ ไม่จำต้องทำการไต่สวนพยานบุคคล แต่เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้พยานบุคคล รวม 17 ปาก ตามที่ผู้ถูกร้องยื่นบัญชีระบุพยาน จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรนูญภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 และให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะผู้เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือและส่งเอกสารต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 27 วรรคสาม และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์

    ชาวจีนในหนานหนิงเข้าคิวซื้อหน้ากากอนามัย ที่มาภาพ : https://www.hrw.org/news/2020/01/30/china-respect-rights-coronavirus-response

    หนึ่งในหมอจีนคนแรกๆ ที่เตือนสังคมเรื่องไวรัสโคโรนาเสียชีวิตแล้ว

    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานข่าวhttp://bit.ly/386yFE1จากสำนักข่าว เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ โดยระบุว่า โรงพยาบาลกลางเมืองอู่ฮั่นยืนยันในช่วงเช้ามืดวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. 2563 ว่า จักษุแพทย์ หลี่ เหวินเหลียง วัย 34 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 8 หมอกลุ่มแรกที่พยายามเตือนสังคมเรื่องการปรากฏของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ เสียชีวิตแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทางโรงพยาบาลเพิ่งออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องการเสียชีวิตของหมอหลี่ และระบุว่า ทางโรงพยาบาลกำลังพยายามยื้อชีวิตของหมอหลี่ที่อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ

    “ในการต่อสู้กับการระบาดของโรคปอดบวมจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หมอหลี่ เหวินเหลียง จักษุแพทย์ของโรงพยาบาลเราโชคร้ายติดเชื้อ เขาจากไปแล้วแม้เราจะทุกความพยายามทั้งหมดเพื่อยื้อชีวิตของเขาเอาไว้” โรงพยาบาลกลางเมืองอู่ฮั่นระบุผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เว่ยป๋อ และเผยด้วยว่า หมอหลี่เสียชีวิตในเวลา 2:58 น. ตามเวลาท้องถิ่น

    ทั้งนี้ หมอหลี่ เหวินเหลียง เปิดเผยเรื่องราวของตัวเองจากเตียงโรงพยาบาลผ่านเว็บไซต์ เว่ยป๋อ เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาระบุว่า ในวันที่ 30 ธ.ค. 2562 เขาส่งข้อความในกรุ๊ปแชตเตือนเพื่อนร่วมงานให้ระวังไวรัสปริศนาที่ทำให้เกิดอาการคล้ายโรคซาร์ส โดยมีผู้ป่วยถูกส่งมาโรงพยาบาลหลายรายแล้ว และทั้งหมดกำลังถูกกักกัน

    แต่ 4 วันต่อมา หมอหลี่ กับหมออีก 7 คนที่แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาด ถูกเชิญตัวไปยังสำนักงานตำรวจท้องถิ่น และบังคับให้ลงนามในเอกสารสัญญาว่า จะไม่เปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับโรคนี้อีก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 ม.ค. 2563 หมอหลี่ก็เริ่มมีอาการไอ วันต่อมามีไข้ และ 2 วันหลังจากนั้นเขาก็ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ก่อนจะได้รับการวินิจฉัยในวันที่ 30 ม.ค. 2563 ว่า เขาติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากหนึ่งในคนไข้ของเขา