ThaiPublica > เกาะกระแส > เอดีบีอนุมัติเงินเพิ่ม 2 ล้านเหรียญช่วยเอเชียแปซิฟิกรับมือไวรัส พร้อมปล่อยกู้บริษัทเอกชนจีนจัดส่งเวชภัณฑ์

เอดีบีอนุมัติเงินเพิ่ม 2 ล้านเหรียญช่วยเอเชียแปซิฟิกรับมือไวรัส พร้อมปล่อยกู้บริษัทเอกชนจีนจัดส่งเวชภัณฑ์

27 กุมภาพันธ์ 2020


ฮิซากะ คิมูระ ที่ปรึกษาฝ่ายปฏิบัติการภาคเอกชน ลงนามในข้อตกลงเงินกู้ 130 ล้านหยวนกับ หลิว เจ้าเหนียน รองประธาน บริษัทจอยน์ทาวน์ ฟาร์มาซูติคอล เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2020
ที่มาภาพ: https:// www.adb.org/news/adb-approves-cny130-million-private-sector-loan-support-coronavirus-response-prc

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียหรือ Asia Development Bank (ADB) ได้อนุมัติเงินเพิ่มอีกจำนวน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด-19) รวมทั้งเสริมความเข้มแข็งในการรับมือกับไวรัสและโรคติดต่ออื่นๆ

เงินจำนวนนี้จะรองรับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นสมาชิกเอดีบีทุกราย เพื่อใช้ในการดำเนินการตามแผนการจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งรวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือฉุกเฉิน ประเมินระบบสาธารณสุข และผลกระทบด้านเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในอนาคต และยกระดับความร่วมมือภูมิภาคเพื่อป้องกัน ตรวจจับ และจัดการกับการระบาดของโรคทั้งในคนและในสัตว์

ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การอนามัยโลก

“การระบาดของโควิด-19 ร้ายแรงมากขึ้น และการระบาดที่ผ่านมามีผลกระทบอย่างมากต่อกาารพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม” นายบัมบัง ซูซานโตโน รองประธานเอดีบีด้านการจัดการความรู้และการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวและว่า “เงินทุนจากเอดีบีจะช่วยให้หลายประเทศเร่งดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะกระทบสุขภาพครัวเรือนและเศรษฐกิจ อีกทั้งจะช่วยให้มีการจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันและการระบาดในระยะต่อไปได้ดีขึ้น

ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เอดีบีได้มอบเงินจำนวน 2 ล้านดอลลาร์ให้กับกัมพูชา จีน สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ ในระยะยาวจะสามารถยกระดับไปที่การสนับสนุนการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็ง

เอดีบียังได้สนับสนุนเงินกู้แก่บริษัท จอยน์ทาวน์ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด บริษัทเอกชนในเมืองอู่ฮั่นจำนวน 130 ล้านหยวนหรือราว 18.6 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความสามารถในการกระจายและส่งมอบเวชภัณฑ์ที่จำเป็นรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ชุดป้องกันเชื้อโรค ถุงมือ แว่นครอบตา หน้ากากอนามัย และเครื่องช่วยหายใจ

เงินก้อนนี้ยังช่วยให้บริษัทฯ ประสานความร่วมมือกับสภากาชาดในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งนี้ บริษัท จอยน์ทาวน์ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์เอกชนรายใหญ่ของจีนและมีสำนักงานใหญ่ที่อู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย จุดเริ่มต้นของการระบาด

“เราขอขอบคุณเอดีบีที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ได้อย่างทันท่วงที ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19” นายหลิว เจ้าเหนียน รองประธานบริษัท จอยน์ทาวน์ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด กล่าวและว่า “ด้วยการสนับสนุนของเอดีบี บริษัทฯ จะส่งมอบยาและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลซึ่งมีความสำคัญเร่งด่วนในพื้นที่มีการระบาดอย่างหนัก

“เงินกู้นี้จะช่วยให้บริษัท จอยน์ทาวน์ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด สามารถสต็อกเวชภัณฑ์ ยาต้านไวรัส และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่จำเป็นเร่งด่วนให้เพียงพอที่จะกระจายให้กับโรงพยาบาลและร้านขายยาทั่วไป” นายไมก์ แบร์โรว์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคเอกชนของเอดีบีกล่าว

บริษัท จอยน์ทาวน์ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองอู่ฮั่นให้ผลิตและจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ระหว่างที่มีการระบาดของโควิด-19 ศูนย์กระจายสินค้าในอู่ฮั่นเป็นศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูงช่วยให้บริษัทฯ รักษาประสิทธิภาพและมาตรฐานการบริการไว้ได้ แม้การระบาดของไวรัสทำให้ความต้องการเวชภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับประสบการณ์จากการบริหารคลังสินค้าและสต็อกสินค้า บริษัทฯ ได้รับการร้องของให้ช่วยเหลือสภากาชาดในอูฮั่นและในหูเป่ย ในการแยก จัดเก็บ และบริหารสิ่งของที่ได้จากการบริจาค

เงินกู้ก้อนนี้นับเป็นการช่วยเหลือภาคเอกชนของเอดีบีเป็นครั้งแรก เพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านสุขภาพ และได้รับการเร่งรัดภายใต้กระบวนการอนุมัติที่คล่องตัวสำหรับการทำธุรกรรมขนาดเล็กที่ไม่ใช่ภาครัฐ เงินกู้ที่มีระยะเวลา 2 ปีนี้จะเป็นส่วนเสริมเงินสินเชื่อที่บริษัทฯ ได้รับจากสถาบันการเงินในประเทศและเป็นส่วนหนึ่งของการขยายการตอบสนองของเอดีบีกับการระบาดของไวรัส ซึ่งเริ่มในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ด้วยการจัดสรรเงิน 2 ล้านดอลลาร์ให้กับประเทศในเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมความสามารถในการรับมือ

การระบาดที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบสามารถขยายวงได้อย่างรวดเร็วทั่วทุกภาคในระบบเศรษฐกิจของประเทศ มีผลกระทบต่อภาวะการคลังรุนแรงและมีผลทางลบต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความเสี่ยงของเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลายประเทศและหลายภาคธุรกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักจะเปราะบาง การค้าและห่วงโซ่อุปทานจะชะงัก

เอดีบีมุ่งมั่นที่ผลักดันเอเชียแปซิฟิกให้มีความเจริญรุ่งเรือง มีความเท่าเทียม มีความเข้มแข็ง และมีความยั่งยืน โดยจะยังคงเดินหน้าขจัดความยากจน

เอดีบีก่อตั้งในปี 1966 ปัจจุบันมีสมาชิก 68 ประเทศ ซึ่ง 49 ประเทศมาจากเอเชียแปซิฟิก