ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “เปรมชัย” ยัน ‘ไม่ได้ฆ่า-มีแต่คนเห็นใจ – “ชื่นมื่น ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้ รับปาก ไม่มีสงคราม”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “เปรมชัย” ยัน ‘ไม่ได้ฆ่า-มีแต่คนเห็นใจ – “ชื่นมื่น ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้ รับปาก ไม่มีสงคราม”

28 เมษายน 2018


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 21-26 เม.ย. 2561

  • เปรมชัย ยัน “ไม่ได้ฆ่า-มีแต่คนเห็นใจ-ไอทีดีไม่ติดแบล็คลิสต์” – ศรีวราห์ เมิน “จบที่ศาล-นามสกุลไม่เกี่ยว”
  • พระพยอมยัน สรยุทธบวชได้ – ยกเทียบ แม้แต่องคุลีมาล-ถนอม-สุเทพ ก็ยังบวชได้
  • โฆษกศาลเบรกข่าวผู้พิพากษารวมตัวเตรียมฟ้องประชาชนปมบ้านพักเชิงดอย
  • บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบประกันบำนาญขั้นต่ำสำหรับผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพ
  • ชื่นมื่น ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้ รับปาก จะไม่มีสงครามระหว่างสองชาติอีกต่อไป
  • เปรมชัย ยัน “ไม่ได้ฆ่า-มีแต่คนเห็นใจ-ไอทีดีไม่ติดแบล็คลิสต์” – ศรีวราห์ เมิน “จบที่ศาล-นามสกุลไม่เกี่ยว”

    นายเปรมชัย กรรณสูต (นั่ง)ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/Khonanurak/photos/

    วันที่ 25 เม.ย. 2561 มีการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีดี โดยในระหว่างการประชุม ผู้ถือหุ้นได้ตั้งคำถามถึงคุณสมบัติของนายเปรมชัย กรรณสูตร ในฐานะประธานบริหารของไอทีดี จากกรณีตกเป็นผู้ต้องหาในคดี “ฆ่าเสือดำ” ที่สังคมยังคงจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายเปรมชัยได้ตอบคำถามโดยยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดในคดีดังกล่าว และพร้อมจะทำหน้าที่บริหารงานในบริษัทต่อไป

    ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าไอทีดีถูกนบัญชีดำไม่ให้รับงานจากภาครัฐ นายเปรมชัยตอบว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงลูกค้ารายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็ไม่พบว่ามีใครหรือหน่วยงานใดขึ้นแบล็คลิสต์ไอทีดี จะมีก็แต่ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ ส่งกลับมา พร้อมทั้งบอกให้ตนตั้งใจทำงาน และนายเปรมชัยก็ได้ยืนยันอีกครั้งว่าตนนั้นไม่ได้ทำ อีกทั้งยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อได้โทรศัพท์สอบถามทุกกรมทุกกระทรวง ก็มีแต่คนเห็นใจตน

    นายเปรมชัยเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนไปถึงเย็นวันเสาร์และได้ไปนอนพัก ก่อนจะตื่นเช้าและได้เดินทางเข้าไปทุ่งใหญ่ฯ และถูกจับในเย็นวันเดียวกัน พร้อมโดนกักขัง 2 วันสองคืน ไม่สามารถติดต่อใครได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์ หลังจากออกมาก็เจอกับนักข่าวเป็นร้อย ส่วนภาพที่ปรากฎในสื่อ ก็คิดว่าทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นคนส่ง

    ต่อคำยืนยันปฏิเสธของนายเปรมชัยนั้น พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ในสำนวนคดีการสอบสวนของตำรวจ นายเปรมชัยก็ปฏิเสธมาตั้งแต่ต้น ซึ่งเรื่องนี้ตนยืนยันมาตลอดว่าคำให้การของผู้ต้องหากฎหมายไม่ให้รับฟัง การปฏิเสธก็ไม่มีผลต่อสำนวนคดี ไม่ว่าจะพูดที่ใดก็ตาม ส่วนกรณีที่สังคมโชเชียลตั้งข้อสงสัยหลังจากนายเปรมชัยยืนยันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าไม่ได้ฆ่าเสือดำและอาจจะหลุดคดีนั้น ขอสังคมอย่าคิดแทนอัยการ อย่าคิดแทนศาล พร้อมทั้งยืนยันว่ามั่นใจในสำนวนคดีร้อยเปอร์เซ็นต์

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นามสกุลของนายเปรมชัยจะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวว่า “นามสกุลไม่ได้ระบุไว้ในกฎหมาย กฎหมายระบุไว้ว่าคุณทำผิด ทำถูก หรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนยืนยันว่ารวบรวมหลักฐาน และพิจารณาไปตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งผมขอย้ำว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ”

    เรียบเรียงจาก
    เว็บไซต์ข่าวสด
    ยูทูบเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
    เว็บไซต์เดลินิวส์
    เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ

    พระพยอมยัน สรยุทธบวชได้ – ยกเทียบ แม้แต่องคุลีมาล-ถนอม-สุเทพ ก็ยังบวชได้

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ข่าวสด (https://www.khaosod.co.th/?p=1010810)

    เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2561 นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรชื่อดัง ได้เข้าพิธีบวชที่วัดหนองกระทุ่ม ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับฉายา “วชิรมโน”

    การบวชดังกล่าว ได้ตกเป็นข้อสงสัยของสังคมว่าสามารถทำได้หรือไม่ เนื่องจากในขณะนี้นั้นคดีอาญาระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับนายสรยุทธในคดีการยักยอกค่าโฆษณาเกินเวลานั้นยังไม่สิ้นสุด โดยยังต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ว่าจะพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้นายสรยุทธมีความผิดจริงตามฟ้องหรือไม่

    พระเมธีสุตาภรณ์ (เหมือน อุปมังกโร ป.ธ.9) เจ้าคณะอำเภอปากช่อง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “อาตมาสอบถามหลวงพ่อ (พระครูอนุรักษ์สันติธรรม หรือหลวงพ่อใหญ่ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ให้นายสรยุทธ) แล้ว หลวงพ่อท่านแจ้งว่าเมื่อโยมที่จะมาบวชมาเขียนใบสมัครเข้าบวช และเห็นว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมามาก จึงทำการบวชให้ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นพิธีกรดังเคยต้องโทษคดี เพราะหลวงพ่อก็จำพรรษาในวัด อายุก็มากแล้ว ไม่เคยติดตามข่าวสาร”

    ต่อกรณีดังกล่าว พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กลฺยาโณ) หรือพระพยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามพระวินัย กำหนดให้ผู้ที่หนีโทษบ้านเมืองไม่สามารถบวชได้ แต่กรณีของนายสรยุทธไม่ได้หนีคดี แต่ต่อสู้คดีความตามกระบวนยุติธรรมและขณะนี้คดีความยังไม่สิ้นสุด ยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ในศาลฎีกา ฉะนั้นยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ สามารถบวชได้ โดยตามพระวินัย ต้องรอจนกว่ากระบวนการยุติธรรมทั้ง 3 ศาลสิ้นสุดแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าแพ้คดี ก็ค่อยจับสึก

    นอกจากนี้ คดีที่นายสุรยุทธโดนนั้นไม่ถือว่าเป็นคดีร้ายแรงที่บวชไม่ได้ ถ้าฆ่าพ่อฆ่าแม่ก็ว่าไปอย่าง เพราะคดีฆ่าพ่อแม่ หรือโกงพ่อแม่อย่างร้ายแรง ถือเป็นคดีร้ายแรงที่ไม่สามารถบวชได้

    ยิ่งไปกว่านั้น พระพยอมยังได้ยกตัวอย่างกรณีอื่นๆ ด้วยว่า “ถ้าดูกรณีของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งติดคดีกบฏด้วยซ้ำ ซึ่งร้ายแรงกว่านายสรยุทธ ยังสามารถบวชได้ หรือถ้าจะย้อนดูนานกว่านั้นก็อย่างจอมพลถนอม กิตติขจร ที่ฆ่าคน ก็ยังบวชได้ หรืออย่างสมัยพุทธกาลอย่างองคุลีมาลฆ่าคนมาเป็นพันคน พระพุทธเจ้าก็ยังบวชให้”

    โฆษกศาลเบรกข่าวผู้พิพากษารวมตัวเตรียมฟ้องประชาชนปมบ้านพักเชิงดอย

    นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/?p=683845)

    เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2561 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนรายงานว่ามีกลุ่มผู้พิพากษาซึ่งเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกโจมตี ได้มีการรวบรวมคอมเมนต์จากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวว่า ตนยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวที่มีการนำเสนอไม่ใช่ข้อเท็จจริงเเต่อย่างใด เเนวของทางศาลยุติธรรมคือเราจะไม่เป็นคู่ความกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเเม้ศาลจะถูกกล่าวหาหรือถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ศาลก็ไม่เข้าไปเป็นคู่ความพิพาทกับประชาชน ทางสำนักงานศาลฯ เองก็ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีเเนวนโยบายในเรื่องการฟ้องร้อง หากเป็นการเเสดงความคิดเห็นโดยสุจริตใจภายใต้กรอบของกฎหมาย ที่ผ่านมาที่ทางสำนักงานศาลไม่ได้ออกมาโต้ตอบในเรื่องดังกล่าวเพราะไม่อยากให้สังคมเข้าใจว่าเราเป็นคู่พิพาทกับประชาชน

    โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวย้ำว่า การวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นประเด็นใดๆ นั้น ควรทำอย่างให้เกียรติซึ่งกันเเละกันทุกคนอยู่ในสังคมเป็นคนไทยด้วยกัน ขณะนี้เชื่อว่ารัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีเองก็น่าจะได้ข้อมูลจากกลุ่มที่เสนอเเนวทางไปบ้างเเล้ว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีดังกล่าว ผู้พิพากษาหลายคนให้ความเห็นทำนองปฏิเสธถึงกระเเสข่าวดังกล่าวว่าไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะไม่เชื่อว่าจะมีกลุ่มผู้พิพากษาที่จะลงไปฟ้องร้องเป็นคู่ความคู่ขัดเเย้งกับประชาชนซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก หากมีอาจเพียงเเต่ว่ามีกลุ่มผู้พิพากษาที่ให้กำลังใจการทำงานของสำนักงานศาลยุติธรรมในการเเก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วงเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกฝ่าย เพราะประชาชนเป็นกลุ่มที่สนับสนุนองค์กรศาลยุติธรรมมาโดยตลอด ศาลจะไม่ไปสร้างความขัดเเย้งกับประชาชนเป็นอันขาด เเม้จะมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนก็ตาม

    ส่วนที่ก่อนหน้านี้ มีผู้พิพากษาออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการให้อยู่ต่อ 10 ปีเเล้วจะมีการปลูกป่าทดเเทนสภาพเดิม หรือกรณีที่มีผู้พิพากษาออกมาโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์เรื่องบ้านพักศาลนั้นก็เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล

    บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบประกันบำนาญขั้นต่ำสำหรับผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพ

    นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/?p=885321)

    เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่าhttps://goo.gl/HL2xSF นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง มติที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 13 ) เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2561 ซึ่งได้เห็นชอบให้มีการประกันบำนาญขั้นต่ำสำหรับผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพไม่ถึง 5 ปีแล้วเสียชีวิต โดยปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินกรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน

    นับตั้งแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ จากปัจจุบันจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ 10 เท่า ให้เพิ่มเป็นจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับคราวสุดท้าย ก่อนถึงแก่ความตายคูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายจนครบ 60 เดือน เว้นแต่จำนวนเดือนที่เหลือน้อยกว่า 10 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเป็นจำนวน 10 เดือน 

    เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมกล่าวอีกว่า ขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงานประกันสังคม จะเสนอร่างแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทน ในกรณีชราภาพ พ.ศ. 2550 เพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการประกันสังคม เสนอให้กระทรวงแรงงานพิจารณา

    “ก่อนส่งให้ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงนามประกาศใช้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทายาทของผู้ประกันตนที่ประสบเหตุไม่คาดฝันเสียชีวิตหลังจากได้รับเงินบำนาญชราภาพไม่ถึง 5 ปี” เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าว

    เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้ประกันตนเริ่มใช้สิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ จากสำนักงานประกันสังคมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 โดยข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2561 พบว่า มีผู้มารับเงินบำนาญชราภาพ จำนวน 120,605 คน
     
    “จึงขอความร่วมมือไปยังทายาทผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ ให้ตรวจสอบสิทธิและเงินชราภาพของตนเองได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลประกันสังคมหมายเลขโทรศัพท์ 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ หรือผ่านทาง www.sso.go.th สำนักงานประกันสังคม” เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าว

    ชื่นมื่น ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้ รับปาก จะไม่มีสงครามระหว่างสองชาติอีกต่อไป

    ที่มาภาพ: เฟซบุ๊กบีบีซีไทย (http://bit.ly/2w26yrp)

    27 เม.ย. 2561 ทั่วโลกต่างจับตาดูการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระกว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งก็ได้สร้างความฮือฮากันตั้งแต่การพบกันระหว่าง คิม จองอึน ประธานาธิบดีของเกาหลีเหนือ และ มุน แจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดย มุน แจอิน นั้นมายืนรอ คิม จองอึน อยู่ที่เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งเมื่อพบกันแล้วนั้น คิม จองอึน ที่ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนมาจับมือกับ มุน แจอิน ก็ได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ มุน แจอิน ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนไปถ่ายรูปร่วมกันในฝั่งเกาหลีเหนือบ้าง ก่อนที่ทั้งสองจะจูงมือกันเดินข้ามเส้นแบ่งเขตแดนมายังฝั่งเกาหลีใต้เพื่อดำเนินการประชุมร่วมกันต่อไป

    สำหรับผลของการประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้นั้น เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่าhttps://bbc.in/2HD043r เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างราบรื่น รัฐบาลทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันว่าจะจัดให้มีการตั้งสำนักงานร่วมเพื่อประสานงานระหว่างกันในเขตแกซอง ของเกาหลีเหนือ โดยสำนักงานดังกล่าวจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ทางการของสองประเทศและร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างราบรื่น

    นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ร่วมยังมีพันธสัญญาร่วมกันอย่างอื่น เช่น

      ยุติพฤติกรรมความรุนแรงทั้งปวงระหว่างเกาหลีเหนือและใต้
      เปลี่ยนเขตปลอดทหารเป็นเขตแห่งสันติภาพ โดยการยุติการออกอากาศโฆษณาชวนเชื่อนับแต่วันที่ 1 พ.ค. 2561 เป็นต้นไป
      จัดงานรวมญาติสำหรับชาวเกาหลีที่พลัดพรากในบริเวณเขตชายแดน
      เชื่อมต่อและปรับปรุงรางรถไฟและถนนข้ามเขตแดน
      ให้การสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาอย่างต่อเนื่อง เช่น เอเชียน เกมส์ ในปีนี้

    อย่างไรก็ดี เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานด้วยว่า คิม จองอึน ไม่ได้กล่าวถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในแถลงการณ์ของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ในปฏิญญาปันมุนจอมที่ทั้ง 2 ฝ่ายลงนามร่วมกัน ได้ยืนยันว่าทั้ง 2 ชาติมีเป้าหมายร่วมกันต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์

    ปฏิญญาดังกล่าวระบุด้วยว่า:

    “เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือมีมุมมองตรงกันว่า มาตรการที่เกาหลีเหนือได้เริ่มต้นนั้นมีความหมายและสำคัญต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งตกลงที่จะทำตามหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายเพื่อสิ่งนี้”

    “เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือตกลงว่าจะแสวงหาการสนับสนุนและความร่วมมือจากชุมชนนานาชาติ สำหรับการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี”