ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตประจำปี พ.ศ. 2560: “รวมสกู๊ปพิเศษไทยพับลิก้า ร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” และ “ปิดฉากไอเอส อวสานกลุ่มรัฐอิสลาม”

ประเด็นฮอตประจำปี พ.ศ. 2560: “รวมสกู๊ปพิเศษไทยพับลิก้า ร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” และ “ปิดฉากไอเอส อวสานกลุ่มรัฐอิสลาม”

2 มกราคม 2018


ประเด็นฮอตประจำปี พ.ศ. 2560

  • รวมสกู๊ปพิเศษไทยพับลิก้า ร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
  • บังแดดหนึ่งครั้งเรื่องดังข้ามปี “พี่ใหญ่ป้อม” กับมหากาพย์ “นาฬิกา-แหวนเพชร” ทรัพย์สินที่ปรากฏสู่สายตาประชาชนแต่ล่องหนในบัญชีทรัพย์สิน
  • นายกฯ ประกาศวันเลือกตั้ง – เซ็น ม.44 ปลดล็อกพรรคการเมืองภายใต้กรอบเวลา 3 ระดับ
  • “ก้าวคนละก้าว” ทะลุพันล้าน – สธ. ยก เป็นตัวอย่างประชารัฐ
  • ปิดฉากไอเอส อวสานกลุ่มรัฐอิสลาม
  • รวมสกู๊ปพิเศษไทยพับลิก้า ร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

  • บันทึกภาคประชาชน: ถอดองค์ความรู้สถาปนิกงานพระราชพิธีจาก “ครูสู่ครู” กับการส่งเสด็จฯ รัชกาลที่ 9 อย่างงดงามสมพระเกียรติ
  • บันทึกภาคประชาชน : “ธงทอง จันทรางศุ” ย้อนรำลึก 23 ต.ค. 2453 สู่ความเงียบงันในวันที่ 14 ต.ค. 2559
  • บันทึกภาคประชาชน : ประวัติศาสตร์งานถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 การมีส่วนร่วมของประชาชนต่อพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
  • บันทึกภาคประชาชน : ร่วมร้อยใจ ร้อยรัก ดอกไม้สดถักอุโมงค์เพื่อพ่อ
  • บันทึกภาคประชาชน : มุ่งมั่นส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ในหลวงรัชกาลที่ 9 เหนื่อยแค่นี้ เพียงเสี้ยว พระมหากรุณาธิคุณของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
  • บันทึกภาคประชาชน : เราจะทำความดีตามคำสอนพ่อ ทุกภาพการทรงงานยังคงตราตรึง – ศูนย์ข้อมูลสื่อฯ รับสื่อ ตปท. 318 คน  86 สำนัก
  • ประมวลภาพ พระราชพิธีพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ
  • ประมวลภาพริ้วขบวนที่ 1 ขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  • ประมวลภาพริ้วขบวนที่ 2 ขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  • ประมวลภาพริ้วขบวนที่ 3 ขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  • ประมวลภาพริ้วขบวนที่ 4 ขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  • 372 วันพระเมรุมาศทรงบุษบก 9 ยอด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  • สื่อต่างประเทศรายงานข่าวพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  • บังแดดหนึ่งครั้งเรื่องดังข้ามปี “พี่ใหญ่ป้อม” กับมหากาพย์ “นาฬิกา-แหวนเพชร” ทรัพย์สินที่ปรากฏสู่สายตาประชาชนแต่ล่องหนในบัญชีทรัพย์สิน

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์บีบีซีไทย (http://bbc.in/2AXBhHb)

    ล่วงเข้าทายปี ใครจะนึกว่ารุ่นใหญ่ท่านนี้ พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ใหญ่ของน้องๆ แห่งกองทัพ และพี่ที่รักของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 จะต้องตกเป็นข่าวใหญ่เพียงเพราะที่ข้อมือข้างที่ยกขึ้นมาบังแดดระหว่างรอถ่ายรูปร่วมกับเหล่าคณะรัฐมนตรีนั้นสวมใส่ Richard Mille นาฬิกาสัญชาติสวิสที่อายุแบรนด์ยังน้อยแต่มาแรงทั้งความนิยมและราคา โดยมีราคาตั้งแต่เรือนล้านไปจนเรือนหลายสิบล้านบาท แถมที่นิ้วนางก็ยังสวมใส่แหวนเพชรเม็ดโตอีกด้วย

    ความแรงของเครื่องประดับทำให้ความร้อนโถมทับไปที่ตัวผู้สวมใส่ บัญชีทรัพย์สินมูลค่ารวมเกือบ 90 ล้านบาทที่ พล.อ. ประวิตร ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อปี พ.ศ. 2557 ถูกขุดขึ้นมาเผยแพร่อีกครั้งโดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าในรายการทรัพย์สินเหล่านั้นไม่ปรากฏว่ามีทั้งนาฬิกาหรูคู่มือและแหวนเพชรคู่นิ้วดังกล่าวอยู่ ทำให้ พล.อ. ประวิตร ต้องตกเป็นเป้าให้สังคมทวงถามเรื่องความโปร่งใสไม่ต่างจากครั้งเหตุการณ์ “กันยาฯ ฮาวาย” เมื่อปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา

    ที่มาภาพ: หน้าเพจเฟซบุ๊กฐานเศรษฐกิจ (http://bit.ly/2AD8ncX)

    และที่นึกไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ จาก Richard Mille เจ้ากรรมเรือนนั้น ชาวเน็ตช่างสังเกตก็แกะรอยนาฬิกาเรือนต่างๆ ที่บิ๊กป้อมของเราสวมใส่ในหลากกรรมหลายวาระ จนในที่สุด จากการรายงายรวบรวมของเว็บไซต์วอยซ์ทีวี ก็พบว่าพี่ใหญ่ท่านนี้มีนาฬิกาหรูหราถึง 14 เรือน ดังนี้

    1. Richard Mille RM 029 สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ สนนราคาที่เรือนละ 111,492.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.6 ล้านบาท
    2. Richard Mille RM30 มูลค่า 4 ล้านบาท
    3. Richard Mille RM010 ราคาเริ่มต้น 3.26 ล้านบาท
    4. Rolex Cosmograph Daytona Ice Blue Dial Platinum Mens Watch รหัส 116506 ราคาประมาณ 1.9-2.4 ล้านบาท
    5. Rolex Cosmograph Daytona สองสี ทำจากทองคำเหลือง 18K กับ Stainless Steel มูลค่า 554,000 บาท
    6. Rolex Pro Hunter Deepsea Green ราคาอยู่ที่ 800,000 บาท
    7. Rolex Datejust Oyster 41 สนนราคา 413,000 บาท
    8. Rolex Yacht-Master Rose Gold 2-Tone Chocolate ขนาด 40 มม. ราคาตลาดอยู่ที่ 460,000 บาท
    9. Rolex Yacht-Master Automatic Black Dial 18kt Everose Gold Black Rubber Strap Mens Watch รหัส 116655BKSRS ราคาตลาดอยู่ที่ 800,000 บาท
    10. Patek Philippe 5960/1A ราคาอยู่ที่ 1.5-1.66 ล้านบาท
    11. Patek Philippe Gold Perpetual Calendar รหัส 3970 มูลค่า 3.6 ล้านบาท
    12. Patek Philippe Annual Calendar Chronograph รหัส 5960P มูลค่า 3.12 ล้านบาท
    13. Audemars Piguet Royal Oak Chronograph Automatic Blue Dial ราคา 800,000 บาท
    14. Audemars Piguet Royal Oak Stainless Steel หน้าปัดสีดำ Black Dial ขนาด 44 มม. รหัส 15400ST.OO.1220ST.01 ราคาตลาดอยู่ที่ 580,000 บาท

    ทั้งหมดนี้ ก็ยังไม่ใช่คำยืนยันว่าเป็นนาฬิกาทั้งหมดที่บิ๊กป้อมมีอยู่แต่อย่างใด และที่ยิ่งกว่าก็คือที่ไปที่มาและสาเหตุที่ไม่เคยมีนาฬิกาเหล่านี้ปรากฏอยู่ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นแสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

    อย่างไรก็ดี ล่าสุด พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่านายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รายงานที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับทราบว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ส่งหนังสือชี้แจงกรณีที่มาของนาฬิกาหรูและแหวนเพชรมายัง ป.ป.ช. แล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ช.

    ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าผลการชี้แจงของ พล.อ. ประวิตร จะเป็นเช่นไร และจะออกมาในลักษณะอย่างกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า “แหวนมารดา-นาฬิกาเพื่อน” หรือไม่

    นายกฯ ประกาศวันเลือกตั้ง – เซ็น ม.44 ปลดล็อกพรรคการเมืองภายใต้กรอบเวลา 3 ระดับ

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ Graphic Cave (https://goo.gl/Sr2g83)

    เป็นไปได้หรือไม่ว่า เวลาอันไร้กรอบเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอประชาชนไว้โดยบอกมาตลอดว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” จะเริ่มมีความชัดเจนขึ้นมาแล้วว่า “อีกไม่นาน” ที่ว่านั้นเป็นระยะเวลานานเพียงใด

    ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม คสช. (10 ต.ค. 2561) พล.อ. ประยุทธ์ ได้รับแจ้งจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีเวลาเขียนกฎหมายลูกทั้งหมด 240 วัน จากนั้นจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาอีก 60 วัน ซึ่งหากมีการแก้ไขก็จะยืดเวลาไปอีก แต่ทั้งนี้ คาดว่ากฎหมายลูกทั้งหมดจะประกาศใช้ในเดือนมิถุนายน 2561 และเมื่อนับไปอีก 150 วัน การเลือกตั้งจึงจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561

    และยิ่งไปกว่านั้น วันที่ 22 ธ.ค. 2560 เว็บไซต์เนชั่นทีวีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่ง คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่อง การดําเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ขยายกําหนดเวลาตามบทเฉพาะกาล มาตรา 141 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งกําหนดเวลาดังกล่าวอาจขยายได้อยู่แล้วเป็นกรณีๆ ไป โดยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่เพื่อให้ทุกพรรคการเมือง ได้รับประโยชน์เสมอกันจึงควรได้รับการพิจารณาไปพร้อมกัน

    โดยก่อนหน้านั้น เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 14.45 น. วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คาดว่าในวันดังกล่าวนี้จะประกาศคำสั่งมาตรา 44 เรื่องการขยายเวลาให้พรรคการเมืองได้ดำเนินการเรื่องต่างๆ โดยเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยวาระสำคัญจะกำหนดให้พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ ได้ดำเนินการตามกรอบเวลา 3 ระดับ คือ

    1. นับตั้งแต่วันประกาศคำสั่งมาตรา 44 ไปจนถึงวันที่ 1 มี.ค. 2561
    2. จากวันที่ 1 มี.ค. 2561 ไปจนถึง 1 เม.ย. 2561
    3. จากวันที่ 1 เม.ย. 2561 เป็นต้นไป หลังจากนั้นจะมีการปลดล็อกพรรคการเมือง โดยจะยกเลิกประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่เป็นปัญหา และอุปสรรคต่อการเลือกตั้งโดยเสรี

    จึงเป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่า ความชัดเจนที่เริ่มปรากฏขึ้นมานี้ ที่สุดแล้วจะเกิดขึ้นเป็นความจริง หรือจะเกิดเหตุอันใดมาทำให้ “เวลาอีกไม่นาน” ของ คสช. นั้นกลับสู่ความคลุมเครืออีกครั้ง

    “ก้าวคนละก้าว” ทะลุพันล้าน – สธ. ยก เป็นตัวอย่างประชารัฐ

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ Hfocus (https://www.hfocus.org/node/14691)

    จากกรณีที่ที่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ “ตูน บอดี้สแลม” นักร้องชื่อดัง จัดกิจกรรม “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” โดยจะออกวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อระดมทุนจากประชาชนไปมอบให้โรงพยาบาลภาครัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหมรวม 11 แห่ง เพื่อพัฒนาและจัดหาเครื่องมือแพทย์นั้น

    เว็บไซต์ hfocus รายงานถึงคำให้สัมภาษณ์ของ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีต่อกิจกรรมดังกล่าว โดยรองปลัด สธ. เห็นว่ากิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างของแนวทางประชารัฐ ที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมวางแผนพัฒนาและสนับสนุนดูแลโรงพยาบาล ซึ่งประเทศไทยมีโรงพยาบาลรัฐทุกสังกัดมากกว่า 10,000 แห่งที่สร้างจากภาษีของประชาชนและรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณทุกปีในการจัดบริการประชาชนทั่วประเทศกว่า 65 ล้านคน

    “โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากประชาชนผู้มีจิตกุศล รวมทั้งองค์กรต่างๆ ที่เข้ามาเติมเต็มระบบสุขภาพมาโดยตลอด และการจัดกิจกรรมของคุณตูนในครั้งนี้ ได้มีการพบปะและหารือกันกับผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งโรงพยาบาล 10 แห่งในสังกัด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ขอบคุณชื่นชมและพร้อมสนับสนุนกิจกรรมอย่างเต็มที่ ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมสนับสนุน ให้กำลังใจชื่นชมการจัดกิจกรรมครั้งนี้ด้วย นอกจากจะได้ความสุขจากการเป็นผู้ให้แล้ว ท่านยังได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกด้วย” พญ.พรรณพิมล กล่าว

    ล่าสุด การวิ่งของตูนได้จบลงตามเป้าหมายไปในวันที่ 25 ธ.ค. 2560 แต่ที่ไปไกลกว่านั้นคือยอดบริจาคนั้นทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาทไปแล้ว โดยปัจจุบัน (31 ธ.ค. 2560 เวลา 19:18 น.) รายงานจากเว็บไซต์ก้าวคนละก้าวระบุว่ายอดบริจาคนั้นสูงถึง 1270,997,519.19 บาท รวมทั้งมีการขยายเวลาในการรับบริจาคออกไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2561 ด้วย

    ปิดฉากไอเอส อวสานกลุ่มรัฐอิสลาม

    ที่มาภาพ : https://mgronline.com/around/detail/9600000105952

    วันที่ 17 ต.ค. 2560 เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานโดยอ้างสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯยึดคืนเมืองรอกเกาะห์จากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุในวันนี้ (17)

    การสูญเสียเมืองรอกเกาะห์ที่กลุ่มไอเอสจัดการเดินขบวนอย่างภาคภูมิภายหลังชัยชนะสายฟ้าแลบอย่างต่อเนื่องในปี 2014 เป็นสัญลักษณ์ของความดวงตกของขบวนการนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ กลุ่มไอเอสใช้เมืองนี้ในการบัญชาหารการโจมตีในต่างประเทศ

    กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces หรือ SDF) แนวร่วมกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดและชาวอาหรับที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ต่อสู้กับกลุ่มไอเอสภายในเมืองรอกเกาะห์มาตั้งแต่มิถุนายน

    พยานของรอยเตอร์ระบุว่า การสู้รบดูเหมือนจะใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วจากการที่มีการยิงปะทะกันเพียงประปราย นักรบกลุ่มแนวร่วมเฉลิมฉลองกันบนถนนเส้นต่างๆ ตะโกนคำขวัญจากยานพาหนะของพวกเขาและโบกธงภายในสนามกีฬารอกเกาะห์

    โฆษกของเอสดีเอฟกล่าวว่า กลุ่มแนวร่วมจะยึดพื้นที่สุดท้ายของไอเอสในเมืองแห่งนี้ภายในไม่กี่ชั่วโมง สนามกีฬาและโรงพยาบาลที่กลุ่มเอสดีเอฟระบุว่า พวกเขายึดได้เมื่อเช้าวันอังคาร (17) เป็นที่มั่นแห่งสุดท้ายของกลุ่มไอเอส

    ผู้บัญชาหารท้องถิ่นคนหนึ่งระบุว่า นักรบไอเอสยังคงอยู่ในสนามกีฬาและโรงพยาบาล สองจุดหลักใจกลางเมืองที่เป็นมั่นอย่างดีให้กับกลุ่มไอเอสและเป็นจุดที่กลุ่มเอสดีเอฟระบุว่า เป็นเป้าหมายหลักในการสู้รบเมื่อค่ำวันจันทร์ (16) และเช้าวันอังคาร (17)

    “เราทราบดีว่ายังคงมีระเบิดแสวงเครื่องและกับระเบิดในและระหว่างพื้นที่ที่ไอซิสเคยยึดครอง ดังนั้นเอสดีเอฟจึงยังคงเคลียร์แต่ละพื้นที่อย่างรอบคอบอยู่” พ.อ. ไรอัน ดิลลอน โฆษกกลุ่มพันธมิตร กล่าว

    ในสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการสู้รบนาน 4 เดือนเพื่อแย่งชิงรอกเกาะห์อยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ดิลลอนกล่าวว่า ไม่มีการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่นั่นเมื่อวันจันทร์ (17)

    ตอนนี้กลุ่มไอเอสถูกล้อมรอบด้วยแอ่งกระทะจากลูกระเบิดรอบๆ สนามกีฬาที่ถูกถล่มทางอากาศโดยกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯและถูกล้อมโดยนักรบเอสดีเอฟ

    กลุ่มไอเอสสูญเสียพื้นที่กว้างขวางในซีเรียและอิรักในปีนี้รวมถึงพื้นที่มีค่าที่สุดของพวกเขา เมืองโมซุล ส่วนในซีเรีย พวกเขาถูกบีบให้ต้องถอยร่นเข้าสู่พื้นที่แถบเล็กๆ ของหุบเขายูเฟรติสและทะเลทรายรอบๆ