ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : เดินหน้า “แก้บัตรทอง” ย้ำ ฟังทุกเสียง และ “ซาอุฯ ตัดการ์ตา – เตือนคนไทยยูเออี อย่าแสดงความเห็นลงโซเชียลมีเดีย”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : เดินหน้า “แก้บัตรทอง” ย้ำ ฟังทุกเสียง และ “ซาอุฯ ตัดการ์ตา – เตือนคนไทยยูเออี อย่าแสดงความเห็นลงโซเชียลมีเดีย”

10 มิถุนายน 2017


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 3-10 มิ.ย. 2560

  • ทหารแต่งงาน-ชาวบ้านรถติด “เสธ.พีท” เสียใจ-ยัน ขออนุญาตแล้ว
  • งบปี 61 ผ่านฉลุยวาระแรก – กลาโหมรวยขึ้น 2.2 แสนล้าน
  • เดินหน้า “แก้บัตรทอง” ย้ำ ฟังทุกเสียงโดยเฉพาะที่แสดงตน
  • ทรูฟิตเนสปิดทุกสาขา-สคบ. แนะลูกค้าร้องเรียน
  • ซาอุฯ ตัดการ์ตา – สถานทูตไทยเตือนคนไทยยูเออี อย่าแสดงความเห็นลงโซเชียลมีเดีย
  • ทหารแต่งงาน-ชาวบ้านรถติด “เสธ.พีท” เสียใจ-ยัน ขออนุญาตแล้ว

    พ.ท. พิทักษ์พล ชูศรี หรือ เสธ.พีท
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/?p=577533)

    วันที่ 8 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์ข่าวสดได้รายงานถึงกรณีงานแต่งงานของนายทหารยศพันโทนายหนึ่ง ที่กลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์เนื่องจากมีการปิดถนนมิตรภาพช่วงบริเวณหน้าพื้นที่จัดงานแต่งงาน ที่ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ถึง 2 เลน ทำให้รถยนต์ของประชาชนสัญจรได้ช้ามาก จนติดเป็นระยะทางกว่า 10 กม.

    ต่อกรณีดังกล่าว พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่ได้มีการสั่งปิดถนน แต่เพราะมีแขกมาร่วมงานจำนวนมากเกินที่ประเมินไว้ ซึ่งตามปกติแขกมักจะไปร่วมงานเลี้ยงช่วงเย็นจัดที่ที่โรงแรม ในพิธีช่วงเช้าจะมีก็แต่ญาติๆ โดยแขกที่มาจอดริมถนน พอต่อกันไปไกล บางคนมาทีหลัง แต่กลับมาจอดซ้อนสองตรงหัวแถว คนมาจอดรถทีหลังก็ต่อแถวเข้าไปอีก ทำให้ช่องจราจรเหลือน้อยลง

    ต่อมา พ.ท. พิทักษ์พล ชูศรี หรือ เสธ.พีท ผู้บังคับกองร้อยรักษาความสงบ มณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ เจ้าบ่าวในพิธีมงคลสมรสดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจากเสร็จพิธีมงคลสมรสที่โรงแรมพลูแมนราชาออคิด ว่า ตนเองไม่คิดว่าการจัดพิธีแห่ขันหมากในช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.30 น. จะทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ตนเองขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยก่อนจัดงานได้มีการทำหนังสือแจ้งไปยังสถานีตำรวจภูธรท่าพระและเทศบาลตำบลท่าพระ ว่าจะขอปิดช่องจราจรเพื่อใช้ในการแห่ขันมาก โดยมีตำรวจจราจรมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงที่มีการแห่ขันหมากระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยแห่ขันหมากจนถึงบ้านเจ้าสาวใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เมื่อถึงบ้านเจ้าสาวตำรวจได้เปิดการจราจรตามปกติ วอนสังคมอย่าไปโทษบ้านเจ้าสาวเป็นสาเหตุรถติด แต่ขบวนขันหมากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถติด พร้อมกับขอกราบขอโทษที่ทำให้เกิดความเดือดร้อน

    งบปี 61 ผ่านฉลุยวาระแรก – กลาโหมรวยขึ้น 2.2 แสนล้าน

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์สำนักข่าวไทย (https://goo.gl/HWj0of)

    วันที่ 8 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์สำนักข่าวไทยรายงานว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจง พ.ร.บ. ดังกล่าวต่อที่ประชุม โดยสมาชิก สนช. ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน แต่ก็มีที่เป็นห่วงในเรื่องความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ บ้างเสนอให้ปรับระบบจัดเก็บภาษี รวมทั้งมีการขอให้ชี้แจงเรื่องการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะให้ชัดเจน

    จากรายงานดังกล่าว พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า กระทรวงกลาโหม ได้รับงบประมาณ 2.2 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างใหม่ และรองรับแผนงานด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์และบูรณาการ พร้อมยืนยันว่า จะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าให้มีประสิทธิภาพ ส่วนการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพนั้น จะจัดหาตามความจำเป็นตามแผนพัฒนากองทัพที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณน้อย แต่ก็ได้รับเพิ่มขึ้นตามลำดับจนถึงปัจจุบัน เพื่อจัดหาอาวุธทดแทนในส่วนที่หมดอายุหรือล้าสมัยเพื่อให้กองทัพทัดเทียบกับประเทศอื่นๆ

    ทั้งนี้ ที่สุดแล้ว ที่ประชุม สนช. มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 วาระแรก ด้วยคะแนน 216 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว 50 คน กรอบเวลาดำเนินการ 90 วัน แปรญัตติ 15 วัน 

    เดินหน้า “แก้บัตรทอง” ย้ำ ฟังทุกเสียงโดยเฉพาะที่แสดงตน

    นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/?p=577202)

    เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจัดทำประชาพิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. .… กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว มีการตั้งต้นแก้ไขหลายมาตราครอบคลุม 14 ประเด็น บวกเพิ่ม 2 ประเด็น แต่เมื่อมีการพิจารณาแล้วมีการแก้ไขจริง 11 ประเด็นเพื่อไขปัญหาติดขัด วิกฤตเรื้อรังหลังมีการใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าวมานาน 14 ปี ซึ่งการแก้ไขจะมีทั้งปรับสัดส่วนคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) และสัดส่วนคณะกรรมการติดตามประเมินผล แก้ไขข้อกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นเลขาธิการ สปสช. เป็นต้น

    นพ.พลเดช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ มีแก้ไขเกี่ยวกับการพัฒนาระบบบัตรทองในระยะยาว คือ การแยกเงินเดือนบุคลากรออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว รวมถึงแก้ไขการใช้งบต่างๆ เช่น จากเดิมโรงพยาบาลไม่สามารถใช้เงินเพื่อจ่ายค่า น้ำ ค่าไฟ หรือซ่อมเครื่องมือแพทย์ได้เพราะติดปัญหาว่ากฎหมายกำหนดให้ใช้เงินเพื่อดูแลประชาชนโดยตรงเท่านั้น ตอนนี้ก็แก้ไขให้ใช้ได้เนื่องจากการใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวกล่าวเป็นการใช้เพื่อพัฒนาระบบการดูแลประชาชนโดยตรงอยู่แล้ว  ทั้งนี้หากใครมีความเห็นอย่างไรก็ขอให้มาร่วมทำประชาพิจารณ์ ซึ่ง สช. จะรับฟังทุกความเห็น โดยเฉพาะความเห็นที่มีการแสดงตัวตน เพื่อรวบรวมและนำเสนอต่อคณะกรรมการยกร่างกฎหมายบัตรทอง นำไปปรับปรุงต่อไป

    ทรูฟิตเนสปิดทุกสาขา-สคบ. แนะลูกค้าร้องเรียน

    วันที่ 9 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์ Positioning รายงานว่า ทรูฟิตเนสได้ปิดสาขาสาขาเอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย และสาขาเอ็กเชน ทาวเวอร์ อโศก ซึ่งเมื่อรวมกับที่เคยปิดสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ไปในปี พ.ศ. 2559 ก็หมายความว่าตอนนี้ทรูฟิตเนสทุกสาขาในประเทศไทยได้ปิดตัวลงหมดแล้ว

    เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้บริการเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์เนชั่นทีวี นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพราะจะต้องตรวจสอบว่ามีการฟ้องร้องในคดีก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ในเบื้องต้นลูกค้าหรือผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบให้มาร้องเรียนที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ทันที จะมาเป็นส่วนบุคคลหรือจะรวบรวมมาเป็นกลุ่มก็ได้โดยให้นำตัวสัญญาที่ลูกค้าทำไว้กับบริษัทมาด้วย เพื่อจะได้ตรวจสอบดูว่ามีการทำผิดเงื่อนไขสัญญาอะไรบ้าง หากพบว่ามีการทำผิดข้อสัญญาเงื่อนไขที่ให้ไว้กับลูกค้า ทาง สคบ. ก็จะดำเนินการฟ้องดำเนินคดีเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย

    ซาอุฯ ตัดการ์ตา – สถานทูตไทยเตือนคนไทยยูเออี อย่าแสดงความเห็นลงโซเชียลมีเดีย

    วันที่ 5 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานโดยอ้างสำนักข่าวต่างประเทศว่า ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจตัดสัมพันธ์ทางการทูตและกงสุลกับกาตาร์ ตามสิทธิทางอธิปไตยที่กฎหมายระหว่างประเทศรับรอง และป้องกันความมั่นคงของชาติจากอันตรายของลัทธิก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่ง โดยซาอุดีอาระเบียตัดการติดต่อทั้งหมดกับกาตาร์ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ จึงขอให้ประเทศและบริษัททั้งหลายที่เป็นเสมือนพี่น้องกระทำอย่างเดียวกัน

    ต่อการตัดสัมพันธ์ดังกล่าว เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี เผยแพร่ข้อความทางเฟซบุ๊กเตือนไม่ให้คนไทยวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอีก 5 ชาติ ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ เนื่องจากทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มีการประกาศเตือนประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ให้วิจารณ์เหตุการณ์การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับกาตาร์ในสื่อโซเชียลมีเดียส่วนตัวโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนหรือเจ้าหน้าที่ตรวจพบ อาจจะต้องเสียค่าปรับ 500,000 ดีแรห์ม (ประมาณ 5 ล้านบาท) และถูกจำคุกได้ โดยมีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงสูงสุด 15 ปี