ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯย้ำแก้ ‘หวยแพง’ ไม่เกี่ยวการเมือง- 5 เสือ เลิกนานแล้ว-มติ ครม.ให้ NT ลงทุน ‘คลาวด์ภาครัฐ’ 6,216 ล้าน

นายกฯย้ำแก้ ‘หวยแพง’ ไม่เกี่ยวการเมือง- 5 เสือ เลิกนานแล้ว-มติ ครม.ให้ NT ลงทุน ‘คลาวด์ภาครัฐ’ 6,216 ล้าน

29 มีนาคม 2022


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th

นายกฯย้ำแก้ ‘หวยแพง’ ไม่เกี่ยวการเมือง-โควตา 5 เสือ เลิกนานแล้ว-เล็งปรับกรอบวินัยการคลัง รับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ-เผย ‘มหาดไทย-กทม.-คมนาคม’ เร่งเคลียร์ปมต่อสัญญา ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’-มติ ครม.เห็นชอบ 10 มาตรการ เยียวยาพลังงานแพง 4.5 หมื่นล้าน-ไฟเขียว NT ลงทุน ‘คลาวด์กลางภาครัฐ’ 6,216 ล้าน-ขึ้น ‘ทางด่วน-มอเตอร์เวย์’ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ฟรี 7 วัน

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยวันนี้ ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รายงานข้อสั่งการแทนนายกรัฐมนตรีแทน ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ เนื่องจากดร.ธนกร ตรวจพบเชื้อโควิด-19

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้มีปัญหาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 เศรษฐกิจ หรือสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยรัฐบาลได้หารือกันว่าจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

“สิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวัง คือ ทำอะไรก็ได้ที่ดีต่อประชาชน ประเทศชาติ และเป็นความยั่งยืน หลายอย่างมันต้องทำต่อเนื่อง แค่คิดและพูดมันก็ง่าย แต่พอถึงเวลาทำ มันไม่ง่ายอย่างที่พูด เราก็พยายามทำหลายปีมาแล้ว บางอย่างก็สำเร็จไปเรียบร้อย บางอย่างครึ่งๆ กลางๆ บางอย่างติดปัญหา หลายเรื่องติดปัญหา”

ย้ำแก้ ‘หวยแพง’ ไม่เกี่ยวการเมือง-โควตา 5 เสือ เลิกนานแล้ว

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า “บางเรื่องเข้ามาตั้งแต่ปี 2546 ก็ขอต่อขยายสัญญา มันทำไม่ได้ ติดความเห็นชอบ ติดอะไรต่างๆ มันเลยทำไม่ได้ ต้องต่อสัญญาให้เขา เพราะมันเป็นประโยชน์เรื่องการสร้างแหล่งน้ำ”

ส่วนการแก้ปัญหาสลากแพงเป็นข้อเรียกร้องจากประชาชนมานาน ตนได้หาวิธีการแก้ปัญหาต่อเนื่อง จึงเสนอมาตรการเฉพาะ เพื่อตรวจสอบว่าราคาแพงขึ้นจุดไหน และขั้นตอนไหน

พลเอกประยุทธ์ ยังย้ำว่า เรื่องห้าเสือกองสลากเลิกพูดสักที เลิกมาตั้งนานแล้ว มันเป็นการจัดสรรสลากไปยังผู้รับโควตาโดยตรง เป็นเรื่องของผู้รับโควตาไปรวบรวมกันเอง เราก็ไปแก้ตรงนู้น มีการตรวจสอบติดตามอยู่ คำว่าห้าเสือ หรือ คำว่าโควตาพิเศษ ไม่มี มันเป็นโควตาที่ให้มาเฉพาะเจาะจงตามกฎหมาย หรือ ระเบียบกองสลากใหม่ ตั้งแต่ผมเข้ามาเป็น คสช.แล้ว มันไม่ใช่เรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องที่เราต้องทำ อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมด”

‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ ไม่คืบ ‘มท.-กทม.-คมนาคม’ เร่งเคลียร์ปมต่อสัมปทาน

พลเอกประยุทธ์ ตอบคำถามประเด็นความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เนื่องจากอยู่ระหว่างสอบถามข้อมูล เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันว่าอะไรทำได้ หรือ ไม่ได้ ส่วนข้อกฎหมายก็ต้องตกลงกันให้ได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การบริหารความต้องการทั้งหมด เพราะประชาชนคาดหวังว่าจะใช้ประโยชน์ให้เต็มทั้งสาย ขณะที่หนี้สินก็เป็นประเด็นสำคัญ

“นายกฯ ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ตอนนี้กระทรวงมหาดไทย กทม. กระทรวงคมนาคม ก็หารือกันอยู่ ถึงเวลาก็จะดำเนินการ อย่าให้เป็นประเด็นความขัดแย้งอีกเลย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น”

ปัดเกี่ยวข้อง ผอ.ททบ.5 ลาออก ย้ำเป็นเรื่องบอร์ด-ผบ.ทบ.

ส่วนกรณีที่ พล.อ. รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 หรือ ‘ททบ.5’ ยื่นหนังสือขอพ้น หรือ ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ โดยมีการคาดการณ์ว่าต้นเหตุเกิดจากการถูกห้ามเสนอข่าวสงครามรัสเซียและยูเครน พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ผมไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว ผมไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก เป็นเรื่องการตรวจสอบคัดกรองกันเอง เขามีกรรมการกันอยู่แล้ว ผมไม่ไปยุ่งหรอก ผมเป็นคนพูด ไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องภายในของเขา อย่าลืมว่าผมไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก เป็นเรื่องกรรมการของเขา รัฐบาลมีนโยบายเพียงแต่อย่าไปร่วมขัดแย้งกับเขา แต่ในข่าวข้อเท็จจริงบางเรื่องก็ไม่เหมาะสมจะไปวิพากษ์วิจารณ์ มันไม่เกิดประโยชน์กับเรา”

“ผมไม่ได้พูดถึงเฉพาะช่อง 5 ผมพูดถึงทุกช่อง เวลาออกข่าววิเคราะห์มากเกินไป มันก็ทำให้เกิดปัญหาในภาพรวมของประเทศ เพราะฉะนั้นการเสนอข่าวต่างประเทศก็เสนอปกติไป เพราะเราอยู่คนละภูมิภาค แต่ความสำคัญคือเราอยู่ในองค์กรของสหประชาชาติ กลุ่มโน้นกลุ่มนี้เราเป็นสมาชิกทั้งหมด ต้องระวังว่าทำยังไงไม่ให้เกิดผลกระทบกับประเทศเรา” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ถามเอกชนแก้ปุ๋ยแพง-ไม่ให้รัฐนำเข้า ต้องแก้อย่างไร

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ได้รับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์เรื่องการติดตามแก้ปัญหาปุ๋ยแพงว่า ประเด็นดังกล่าวเกิดจากปัญหาระหว่างผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และอีกหลายสมาคม ซึ่งทุกฝ่ายต้องหารือกัน ทั้งผู้ได้รับผลกระทบ ผู้ให้บริการการจัดหาปุ๋ยเข้าประเทศ

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ เปรียบเทียบกับประเด็นปัญหาอาหารสัตว์ว่า “เหมือนเราจะแก้ปัญหาอาหารสัตว์เหมือนกัน ส่วนหนึ่งเป็นสมาคมผู้ประกอบการพืชไร่ของเขาเอง ก็ไม่อยากให้ให้นำเข้า แต่มันขาดแคลนจะให้ทำอย่างไร เพราะราคามันสูงอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่มันยาก ต้องค่อย ๆ หารือว่าจะทำให้ได้ยังไงต่อไป”

เล็งปรับกรอบวินัยการคลัง รับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า “ในฐานะที่เคยเป็นทหารมาก่อนก็จะต้องประเมิน-วางแผนงานต่างๆ ว่าถ้าในสมมติฐาน เช่นสงครามวันนี้ ก็ต้องมองว่าถ้ามันเกิดขึ้นมันจะยาวไหม มันจะเกิดปัญหาช่วง 3 เดือนหรือไม่ แล้วถ้ามันต่ออีก 3 เดือนจะทำอย่างไร ถ้าสถานการณ์มันรุนแรงมากกว่าตอนนี้ มีการสู้รบมากขึ้นจะทำอย่างไร ก็ต้องเตรียมแผนงานและหารือล่วงหน้า”

“อย่าลืมว่าทั้งหมดใช้งบประมาณทั้งสิ้น ทุกคนก็ทราบดีว่ารัฐบาลก็ดูแลประชาชนมาเยอะ เรื่องภาษี การผ่อนชำระต่างๆ เราก็ลดหมด อุดหนุนค่าน้ำค่าไฟ ค่าแก๊สต่างๆ อย่าลืมว่าถ้าเราทุ่มงบประมาณทั้งหมดไปปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ปัญหาอื่นจะเกิดตามมาทันที เพราะหลายโครงการต้องใช้งบประมาณในภาพรวม หลายอย่างต้องทำต่อเนื่อง วันนี้ต้องดูว่างบประมาณภาครัฐจะเป็นอย่างไร นั่นคือเหตุผลที่ต้องปรับตัวเลขอะไรต่าง ๆ ทั้งนโยบายด้านการคลังมาตลอด จะเพิ่มตัวเลขตัวไหนออกมา เพื่อเพิ่มช่องว่างทางการคลังในการแก้ปัญหาในอนาคต

ขอความเป็นธรรมรัฐบาลที่ผ่านมาทำงานเยอะมาก

พลเอกประยุทธ์ ทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความพร้อมของคนไทยในการแก้ไขปัญหา ขอให้อย่าขัดแย้งกัน แม้ความคิดจะไม่ตรงกัน แต่ต้องหันหน้าพูดคุยกัน และหาทางออกที่ดีที่สุดด้วยเหตุผล หรือ หลักการที่เข้าใจตรงกัน ถ้าต่างคน ต่างพูด และ ถือเป็นอารมณ์ทั้งหมดจะไม่มีทางสำเร็จ

“กลับไปย้อนดูว่าทุกอย่างที่พูดกันออกมา เราทำไปหรือเปล่า รัฐบาลทำไปหรือยัง ไม่มีอะไรสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ผมพูดได้ เพราะผมอยู่มาหลายปี แต่รัฐบาลนี้ทำมาหลายปี ผมทำมาเยอะพอสมควร หลายเรื่องที่เอามาพูด เราก็ทำไปแล้ว ก็ขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาล” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ปลื้มซาอุฯ สั่งซื้อไก่ไทยลอตแรกในรอบ 18 ปี

ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีว่า ในการประชุมครม.วันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอกย้ำความสำเร็จหลังจากที่ประเทศไทยและซาอุดีอาระเบียได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ในรอบ 30 ปี ซึ่งเป็นผลงานที่ประจักษ์ว่านำไปสู่ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ

ดร.รัชดา กล่าวต่อว่า ผลจากการรื้อฟื้นความสัมพันธ์นำไปสู่ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่นการส่งออกแรงงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ลงนามกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่วนการส่งสินค้าเกษตรได้มีการส่งไก่ลอตแรก หลังจากที่ประเทศไทยไม่เคยส่งไก่มา 18 ปี อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ จะเร่งเดินหน้าส่งออกผลผลิตทางการเกษตรเกษตรเพราะเป็นที่ต้องการในประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศในแถบตะวันออกกลาง และดำเนินการโรดโชว์สร้างความโดดเด่นของสินค้าไทย โดยให้กระทรวงพาณิชย์นำข้อมูลมาเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยให้ทราบถึงความต้องการสินค้าเกษตรของประเทศซาอุดีอาระเบีย

สั่งทุกกระทรวงใช้ TPMAP แก้ยากจน 5 มิติ

ดร.รัชดา กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่นายกฯ พบกับรองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) โดยรองเลขาฯ ได้ชื่นชมการดำเนินงานแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จากนั้นนายกฯ ได้ฝากที่ประชุมเรื่องการขับเคลื่อนเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะความยากจน วันนี้ทุกกระทรวงจับมือกันใช้ฐานข้อมูล TPMAP หรือ ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform) ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหา 5 มิติ ได้แก่ สุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ การเข้าถึงบริการของภาครัฐ และส่วนงานต่างๆ จะลงไปสำรวจปัญหาความยากจนของประชาชนว่าอะไรจะทำให้หลุดพ้นสภาพความลำบาก และพัฒนาเมนูแก้จนเพื่อเสริมศักยภาพให้กลุ่มเปราะบางมีอนาคตและชีวิตอย่างยั่งยืน

มติ ครม.มีดังนี้

ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกฯ (ซ้าย-ขวา)
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/

เห็นชอบ 10 มาตรการ รับมือพลังงานแพง 4.5 หมื่นล้าน

ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน อันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรประหว่างยูเครน – รัสเซีย กรอบวงเงินเบื้องต้น 45,102.65 ล้านบาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพใก้แก่ประชาชนและลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง รวมถึงดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มแรงงานและกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ มาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย

    1.ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) เดือนละ 15 บาทต่อถัง เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เมษายน – มิถุนายน 2565 โดยราคาก๊าซหุงต้มเดือนเมษายน 2565 ถังละ 333 บาท เดือนพฤษภาคม 2565 ถังละ 348 บาท และเดือนมิถุนายน 2565 ถังละ 363 บาท กรอบวงเงินเบื้องต้น 6,380 ล้านบาท ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผู้บริการจัดการ
    2.ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV 15.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เมษายน – มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 1,590 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
    3.ลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม – สิงหาคม 2565 ให้แก่ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน กรอบวงเงินเบื้องต้น 2,000 -3,500 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
    4.ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 หลังจากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง ตั้งแต่พฤษภาคม – มิถุนายน 2565 โดยอัตราชดเชยประมาณ 8 บาทต่อลิตร กรอบวงเงินเบื้องต้น 33,140 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกรมสรรพสามิตเป็นผู้บริหารจัดการ
    5.ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 1.57แสนคน จะได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน ( 5 บาทต่อลิตร รวม 50 ลิตร) เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 120 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
    6.แท๊กซี่มิเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการลมหายใจเดียวกัน จำนวน 17,460 คน สามารถซื้อก๊าซ NGV ได้ในราคาพิเศษ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม วงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน – มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 171 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
    7.เพิ่มส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน จากเดิม 45 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน – มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 200 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
    8.ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 5,500 คน ได้รับส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน – มิถุนายน 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 1.65 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
    9.ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้าง จำนวน 4.9 แสนราย และลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน จาก 5% เหลือ 1% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม – กรกฎาคม 2565
    10.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน จาก 9% เหลือ 1.9% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 10.7 ล้านคน จาก 70 – 300 บาท ลดลงเหลือ 42 – 180 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่กุมภาพันธ์ – กรกฎาคม 2565

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ อาทิ 1) การดูแลกลุ่มเกษตรกร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการจัดทำแนวทางช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรโดยการแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพงและปุ๋ยขาด รวมถึงปัญหาอาหารสัตว์ 2) ยกเลิกการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพรีเมี่ยม ตั้งแต่แมษายน 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ใช้กับกลุ่มรถยนต์ของผู้ที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อลดภาระการสนับสนุนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 3) การสนับสนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพของราคาพลังงานของประเทศ โดยพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนน้ำมันฯ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถาบันการเงินที่จะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุนน้ำมันฯ 4)การดูแลกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาลดอัตราหรืองดจัดเก็บค่าใช้จ่ายในการต่ออายุทะเบียนรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะในปี 2565

ดร.รัชดา กล่าวต่อว่า มาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไป ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกันพิจารณาติดตามและปรับปรุงมาตรการการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของราคาพลังงานในตลาดโลก โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ ความพร้อม และความสามารถทางการเงินของภาครัฐ ภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561

จัดงบฯ 199 ล้าน อุดหนุนแก๊สหุงต้มผ่านบัตรคนจน

ดร.รัชดา กล่าวว่าที่ประชุม ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 199.65 ล้านบาท ให้กรมธุรกิจพลังงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ มุ่งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 3.63 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27 จากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งหมด 13.5 ล้านคน โดยให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (จากเดิมที่ได้รับส่วนลด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน) ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2565

มอบ ยธ.-พม.เร่งศึกษาร่าง ‘พ.ร.บ.คู่ชีวิต’ เสนอสภาฯ

ดร.รัชดา กล่าวว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ป.พ.พ. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … โดยเป็นร่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ซึ่งมีสาระเป็นการกำหนดให้ชาย หญิง หรือบุคคล 2 คน ซึ่งเป็นเพศเดียวกันสามารถหมั้น หรือ สมรสกันได้ตามกฎหมาย ในเรื่องนี้ ครม.เห็นว่า มีหลักการใกล้เคียงกับร่างพระราชบัญญัติ คู่ชีวิต พ.ศ. …. และร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.พ.พ.ฯ ที่ครม.เห็นชอบไปแล้ว และครอบคลุมหลายมิติ โดยขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ดำเนินการศึกษาเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

ครม.จึงมีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกันพิจารณาร่างพ.ร.บ.ของรัฐบาลประกอบผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยสุโขทัยฯ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว

สั่งคลังแก้กฎกระทรวงให้ชาวบ้านต้มเหล้ากินเองได้

ดร.รัชดา กล่าวว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยเป็นร่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ซึ่งมีสาระเป็นการให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ในเรื่องนี้ ครม.เห็นว่า การผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้าสามารถกระทำได้โดยควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในเรื่องคุณภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค

ดังนั้น ครม.จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงในบางเรื่องเพื่อไม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชน โดยยังคงควบคุมดูแลให้การผลิตสุราอยู่ภายใต้มาตรฐานด้านสุขภาพของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..)

อนุมัติงบฯ 5,615 ล้าน รับมือภัยแล้ง-ฝนทิ้งช่วง 2,525 รายการ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,615 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2565 จำนวน 2,525 รายการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ

โดยมีรายละเอียดดังนี้คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจำนวน 112 รายการ งบประมาณ 1,413ล้านบาท, กรมชลประทานจำนวน 621 โครงการ งบประมาณ 1,162 ล้านบาท, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจำนวน 670 โครงการ งบประมาณ 1,064 ล้านบาท , กรมทรัพยากรน้ำจำนวน 111 โครงการ งบประมาณ 972 ล้านบาท , องค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวน 497 โครงการ งบประมาณ 567 ล้านบาท , จังหวัดจำนวน 492 โครงการ งบประมาณ 355 ล้านบาท , กรมเจ้าท่าจำนวน 11 โครงการ งบประมาณ 49 ล้านบาท ,เทศบาลเมืองจำนวน 9 โครงการ งบประมาณ 27 ล้านบาท และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จำนวน 2 โครงการ งบประมาณ 2.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ระบุว่า พบว่ามีพื้นที่เฝ้าระวังที่อาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำด้านอุปโภคบริโภคในเขตพื้นที่ให้บริการการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 24 จังหวัด นอกเขตพื้นที่ให้บริการการประปาส่วนภูมิภาค(ประปาท้องถิ่น)จำนวน 50 จังหวัด และพื้นที่เกษตรกรรม นอกเขตชลประทานที่เพาะปลูกนารอบที่ 2 (นาปรัง)จำนวน 11 จังหวัด พื้นที่ปลูกพืชต่อเนื่อง(ไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ) จำนวน 4 จังหวัด

รวมทั้งพื้นที่ด้านคุณภาพน้ำ ที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำของน้ำเค็มที่อาจส่งผลกระทบต่อน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคจำนวน 5 จังหวัด จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2564/2565 จำนวน 9 มาตรการและโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2565 โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมแผนงานโครงการเร่งด่วนที่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามผลการประเมินพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงภาวะน้ำแล้ง ปี 2564/2565 ของ กอนช.

ไฟเขียว NT ลงทุน ‘คลาวด์กลางภาครัฐ’ 6,216 ล้าน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดให้มีคลาวด์กลางภาครัฐและให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินคลาวด์กลางภาครัฐ อันเนื่องมาจากการควบรวมกิจการและได้รับไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ทั้งหมด ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 พร้อมเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายผูกพันต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 โครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ รวมวงเงิน 6,216 ล้านบาท

ทั้งนี้รายละเอียดโครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ วงเงิน 6,216 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ประกอบด้วย ค่าเช่าใช้ระบบเพื่อให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ แบ่งเป็น ค่าเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ จำนวนไม่น้อยกว่า 25,000 VM รวม 3,852 ล้านบาท และ ค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่ม จำนวน 3,000 TB จำนวน 5775 ล้านบาท,ค่าบริการการบริหารจัดการ Log และ Managed Security Service จำนวนไม่น้อยกว่า 25,000 VM รวม 1,350 ล้านบาท, ค่าบริการสิทธิของระบบบริหารจัดการฐานข้อมูล (Database License) รวม 229 ล้านบาท, ค่าบริการ Cloud Marketplaceรวม 150 ล้านบาท และค่าบริการระบบศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายและCall Center 24 ชั่วโมง 7 วัน รวม 57 ล้านบาท

สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ประเมินว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว จะทำให้รัฐประหยัดงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศในส่วนของค่าเช่าคลาวด์ได้ 4,116 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 76.22 และส่งเสริมระบบสารสนเทศของประเทศให้มั่นคงปลอดภัย

เนื่องจากข้อมูลและระบบงานของหน่วยงานภาครัฐอยู่ในระบบคลาวด์กลางภาครัฐที่มีมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงปลอดภัยและตั้งอยู่ภายในประเทศ นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นพื้นฐานสำคัญของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล รวมถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่(Big Data) เพื่อการบริหารจัดการและการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ

แจงเบิกจ่าย ‘งบฯ-เงินกู้’ 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ’65

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามแร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 โดยพบว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายเงินประจำปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,306,123 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรายจ่ายรวม 3,100,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 31.73 แยกเป็น งบกันไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน 237,241 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 75,530 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.84, เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจจำนวน 287,439 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 53,269 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.53

ขณะที่โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไข เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (กรอบวงเงิน 1 ล้านล้านบาท) จำนวน 88,408 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 73,877 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.56 และโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 (กรอบวงเงิน 500,000 ล้านบาท) จำนวน 191,441 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 119,833 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62.60

ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2565 มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มูลค่าโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปรวม 102 โครงการ มีมูลค่าโครงการทั้งหมด 2.51 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 35,418 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.37 ของแผนการใช้จ่ายเงิน ส่วนผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน กระทรวงที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด ได้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนกระทรวงที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำสุด ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย

ขึ้น ‘ทางด่วน-มอเตอร์เวย์’ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ฟรี 7 วัน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง ตอนกรุงเทพมหานคร-เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) ทางแยกเข้าชลบุรี ทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ทางแยกเข้าพัทยา และตอนบ้านหนองปรือ-บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (บ้านอำเภอ) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร(ถนนกาญจนาภิเษก)ตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน และตอนบางปะอิน-บางพลี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 นี้ ตั้งแต่เวลา 00.01 นาฬิกาของวันที่ 12 เมษายน ถึงเวลา 24.00นาฬิกา ของวันที่ 18 เมษายน 2565 เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางบนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลดังกล่าว

ทั้งนี้เนื่องจากวันหยุดราชการประจำปีกำหนดให้วันที่ 13-15 เมษายน 2565 เป็นวันหยุดสงกรานต์ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน 2565 รวม 5 วัน ซึ่งคาดหมายว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นผลให้การจราจรติดขัดในทุกสายทางที่ออกและเข้ากรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางจะมีปัญหาการจราจรติดขัดหลายกิโลเมตร เนื่องจากประชาชนรอชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง โดยคาดว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 147 ล้านบาท โดยคาดการณ์จากปริมาณจราจรช่วงการดำเนินมาตรการดังกล่าวประมาณ 4,190,425 คัน แต่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ประมาณ 205 ล้านบาท ซึ่งประเมินจากมูลค่าการประหยัดค่าใช้จ่ายการใช้รถและมูลค่าจากการประหยัดเวลาในการเดินทาง

นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้รวมอยู่ด้วย เช่น ความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการเดินทาง เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว และลดมลพิษทางอากาศนอกจากนี้ครม.ยังได้รับทราบกรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี(ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก ตั้งแต่เวลา 00.01 นาฬิกา ของวันที่ 12 เมษายน ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา วันที่ 18 เมษายน 2565

สำหรับทางพิเศษบูรพาวิถีคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีปริมาณจราจรรวม 7 วันจำนวน 987,028 คัน รายได้ที่ไม่ได้เรียกเก็บจำนวน 38 ล้านบาท ส่วนผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจำนวน 76 ล้านบาท ขณะที่ทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรรวม 7 วันจำนวน 1,363,565 คัน รายได้ที่ไม่ได้เรียกเก็บ 58 ล้านบาท และผลประโยชน์ที่จะได้รับจำนวน 70 ล้านบาท

เสนอ ‘ภูกระดึง-ภูเขียว-น้ำหนาว’ เป็นอุทยานมรดกอาเซียน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการนำเสนออุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน ซึ่งตามขั้นตอน ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดส่งเอกสารนำเสนอพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียนให้ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อส่งเอกสารนำเสนอให้แก่คณะผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและประเมินพื้นที่ และเสนอคณะทำงานอาเซียนด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพพิจารณา ก่อนนำเข้าที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม และที่ประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การรับรองการขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกแห่งอาเซียนต่อไป

สำหรับลักษณะโดดเด่นของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และที่เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกอาเซียน มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้คือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย ซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าตามธรรมชาติมากกว่าร้อยละ 98 และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชพันธุ์หายาก เช่น หญ้าดอกลำโพง ผักชีภูกระดึง กุหลาบขาว กุหลาบแดง เป็นต้น รวมทั้งมีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น เลียงผา ลิ่นชวา เต่าเหลือง ค่างแว่นถิ่นเหนือ ชะนีมือขาว โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด ที่มีลักษณะโดดเด่นเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมีกิจกรรมที่มีความเชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญคือ กิจกรรมสรงน้ำพระพุทธเมตตา

ส่วนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าร้อยละ 96.65 และมีความหลากหลายทางธรณีวิทยาและลักษณะของถ้ำ โดยพื้นที่ที่มีความโดดเด่น เช่น ถ้ำครอบ ถ้ำใหญ่น้ำหนาว และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชหายาก เช่น จำปีศรีเมืองไทย กระโถนพระฤษี สนสามพันปี รวมทั้งยังมีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น แมวลายหินอ่อน เลียงผา เนื้อทราย เสือลายเมฆ และในพื้นที่ยังมีประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญ เช่น ประเพณีการแขวนทุง(แขวนธง) ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นต้น

ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียนจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุทยานแห่งชาติตะรุเตา, กลุ่มอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและอ่าวพังงา, กลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี, อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และอุทยานแห่งชาติเขาสก

ตั้ง 9 ผู้ทรงคุณวุฒินั่งบอร์ดกองทุนสื่อปลอดภัยฯ

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่าวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ / เห็นชอบในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐมีรายละเอียดดังนี้

1. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นายสมพร อารยชาติสกุล วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ กรมชลประทาน ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นต้นไป

2. การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอการแต่งตั้งโฆษก ศธ. [เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (5 มกราคม 2559) ที่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทุกกระทรวงแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่โฆษกกระทรวงอย่างเป็นทางการ แล้วแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมรายชื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ] เนื่องจากนางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการ ศธ. ได้ขอลาออกจากตำแหน่งโฆษก ศธ. ดังนั้น เพื่อให้การประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายรัฐบาล นโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ตลอดจนผลการดำเนินงานของ ศธ. เป็นไปอย่างคล่องตัว จึงได้แต่งตั้งนายวีระ แข็งกสิการ รองปลัด ศธ. เป็นโฆษก ศธ. ซึ่ง ศธ. ได้มีคำสั่งที่ สร 149/2565 เรื่อง แต่งตั้งโฆษก ศธ. ลงวันที่ 16 มีนาคม 2565 ด้วยแล้ว

3. การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกร แทนตำแหน่งที่ว่าง

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายพิศุทธิ์ สุขุม เป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกร แทน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ทั้งนี้ ในครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกรให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)

4. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงพลังงาน)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ดังนี้

    1. นายเริงชัย คงทอง ตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
    2. นายพิสุทธิ์ เพียรมนกุล ตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

5. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จำนวน 9 คน ดังนี้

    1. นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านกฎหมาย
    2. นายพีรพน พิสณุพงศ์ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านศิลปวัฒนธรรม
    3. นางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านการศึกษา
    4. นายธวัชชัย ไทยเขียว ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านการพัฒนาเด็กเยาวชนและครอบครัว
    5. นายยศพร ปัญจมะวัต ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านสุขภาพจิต
    6. นางกรกนก ศิริวงษ์ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านคนพิการและผู้สูงอายุ
    7. นางสุนทรี ทับทิมไทย ชัยสัมฤทธิ์โชค ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
    8. นายอภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชน
    9. นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชน

ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงวัฒนธรรม (สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์) รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

6. การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติเพิ่มเติม

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่งตั้ง นายรณชัย จิตรวิเศษ เป็นกรรมการในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

อ่าน มติ ครม.ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2565 เพิ่มเติม

ป้ายคำ :