ThaiPublica > เกาะกระแส > ลำดับเหตุการณ์ “พระธัมมชโย” อาพาธ – “ธรรมกาย – ศิษยานุศิษย์” แจง พาสื่อตรวจอาการ เปิดหน้าถ่ายสดวงจรปิด – เชิญ DSI แจ้งข้อกล่าวหาที่วัด 25 พ.ค.

ลำดับเหตุการณ์ “พระธัมมชโย” อาพาธ – “ธรรมกาย – ศิษยานุศิษย์” แจง พาสื่อตรวจอาการ เปิดหน้าถ่ายสดวงจรปิด – เชิญ DSI แจ้งข้อกล่าวหาที่วัด 25 พ.ค.

23 พฤษภาคม 2016


วันที่ 22 พฤษภาคม 2559 เวลา 14.30 น. นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย พาคณะสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมอาการอาพาธของพระเทพญาณมหามุมี (พระธัมมชโย) ผ่านทีวีวงจรปิด หน้าห้องปลอดเชื้อที่อยู่ในเขตสังฆาวาส อาคารดาวดึงส์ วัดพระธรรมกาย

นับจากวันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร” จนถึงปัจจุบัน วัดพระธรรมกาย และกลุ่มศิษยานุศิษย์ ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโยผ่าน DMC TV มาอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 29 มีนาคม 2559 ดีเอสไอออกหมายเรียกให้พระธัมมชโยมารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 1

วันที่ 30 มีนาคม 2559 พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ออกแถลงข่าว “ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโย” และวันที่ 1 เมษายน 2559 แถลงข่าว “วัดพระธรรมกายปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทำความดีมาตลอดกว่า 50 ปี ด้วยใจบริสุทธิ์”

ครบกำหนดเวลามารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกครั้งที่ 1 ในวันที่ 8 เมษายน 2559 เวลา 09.00 น. พระธัมมชโยมอบหมายทนายความมายื่นคำร้องขอเลื่อนวันนัดพบพนักงานสอบสวน อ้างติดศาสนกิจหลายอย่าง ดีเอสไอออกหมายเรียกครั้งที่ 2 กำหนดนัดพบพนักงานสอบสวน วันที่ 25 เมษายน 2559 เวลา 09.00 น.

ถึงกำหนดวันนัดพบพนักงานสอบสวน วันที่ 25 เมษายน 2559 ปรากฏว่าพระธัมมชโย มอบหมายทนายความ ยื่นคำร้องขอเลื่อนวันนัดพบพนักงานสอบสวน ที่ประชุมร่วมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและอัยการ จึงมีมติให้ดีเอสไอไปขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับครั้งที่ 1 วันเดียวกันนั้น วัดพระธรรมกายออกแถลงข่าว 2 ฉบับ ชี้แจงเหตุผลขอเลื่อนนัดดีเอสไอ และ ยืนยันอาการอาพาธ อ้างเหตุปฏิบัติศาสนกิจตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2559 ทำให้พระธัมมชโยมีอาการอาพาธ วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน มีปัญหาในการทรงตัว และมีอาการปวดหลัง ปวดขาซ้าย เนื่องจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ประกอบกับมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังและรุนแรงจากโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ เส้นเลือดอุดตันที่โคนขาซ้าย มีแผลติดเชื้อที่เท้าเรื้อรัง คณะแพทย์ผู้รักษาลงความเห็นพักรักษาอาการ 15 วัน

วันที่ 26 เมษายน 2559 ศาลอาญายกคำร้องอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย ดีเอสไอจึงออกหมายเรียกให้พระธัมมชโยมาพบพนักงานครั้งที่ 3 ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2559

วันที่ 27 เมษายน 2559 มีคลิปวีดีโอปรากฏภาพพระธัมมชโยยืนพูดคุยกับลูกหลานที่มาถวายการต้อนรับหลวงพ่อและคณะสงฆ์ วัดพระธรรมกายจึงออกแถลงข่าวยืนยันว่า เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 22 เมษายน 2559 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่พระธัมมชโยมีอาการเจ็บป่วยฉับพลัน

วันที่ 28 เมษายน 2559 วัดพระธรรมกาย ออกแถลงข่าว พระธัมมชโยมอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เอกสารปลอมกล่าวหาพระธัมมชโย โดยพระธัมมชโยปฏิเสธไม่เคยเห็น และไม่เคยรับเช็คธนาคารกรุงไทยมูลค่า 100 ล้านบาท

ธัมมชโยปล่อยนก3

วันที่ 14 พฤษภาคม 2559 พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส พร้อมกับคณะแพทย์ผู้ทำการรักษา แถลงข่าวยืนยัน พระธัมมชโยอาพาธหนัก เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ได้ ขอให้ดีเอสไอมาแจ้งข้อกล่าวหาที่วัดพระธรรมกายวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 เวลา 14.00 น.

เมื่อถึงกำหนดวันนัดพบพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกครั้งที่ 3 วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 พระธัมมชโยไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ที่ประชุมร่วมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและอัยการมีมติรวมให้ดีเอสไอไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขออนุมัติหมายจับพระธัมมชโยครั้งที่ 2

วันที่ 17 พฤษภาคม 2559 มีภาพพระธัมมชโยปล่อยนกเผยแพร่ผ่านทั้งสื่อมวลชนและโซเชี่ยลมีเดีย วัดพระธรรมกายจึงออกแถลงข่าวชี้แจง และลำดับเหตุการณ์อาการอาพาธของพระธัมมชโย ระบุ ภาพปล่อยนกเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 พระธัมมชโยปล่อยนกหน้ากุฎิใกล้ๆ ภายในวัดพระธรรมกาย

ขณะที่ทนายความของวัดพระธรรมกาย ส่งเอกสารให้กับดีเอสไอไม่ครบถ้วน แต่ในที่สุดศาลอาญาจึงอนุมัติหมายจับพระธัมมชโยตามคำร้องของดีเอสไอ

จากนั้นนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ออกแถลงการณ์ “กระบวนการสอบสวนพระธัมมชโยไม่ชอบธรรม”

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.30 น. พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย แถลงข่าวยืนยันอาการอาพาธของพระธัมมชโย และไม่มีแผนหลบหนีไปต่างประเทศ ณ ห้องประชุม สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์

วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.30 น. นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย นำสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมอาการอาพาธพระธัมมชโย ผ่านทีวีวงจรปิด จากนั้นก็เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงจุดยืนวัดพระธรรมกายกรณีหมายจับของดีเอสไอ

ทั้งนี้นายองอาจพาสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมอาการอาพาธของพระธัมมชโยในห้องปลอดเชื้ออยู่ในเขตสังฆาวาส อาคารดาวดึงส์ ซึ่งไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปในห้อง ทางวัดพระธรรมกายจึงเตรียมทีวีวงจรปิดไว้ด้านนอก ก่อนเดินเข้าไปในห้องปลอดเชื้อนายองอาจนำปากกาพร้อมกับกระดาษ A4 ให้ตัวแทนสื่อมวลชน 5 คน เขียนตัวหนังสือหรือแสดงสัญลักษณ์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงว่าเป็นการถ่ายทอดสด จากนั้นนายองอาจก็เดินเข้าไปในห้องปลอดเชื้อ พร้อมกับโชว์หนังสือพิมพ์และกระดาษ A4 ที่สื่อมวลชนเขียนสัญลักษณ์ไว้เป็นหลักฐานแสดงผ่านทีวีวงจรปิด มีการพูดคุยกับพระธัมมชโยสักพัก แพทย์ที่ทำการรักษาก็ลุกขึ้นมาเปิดผ้าห่มที่คลุมปลายขาซ้าย เพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็นแผลที่ติดเชื้อมีอาการบวมและมีสีดำคล้ำ ยืนยันว่าพระธัมมชโยอาพาธจริงและไม่คิดหลบหนีไปต่างประเทศ หลังจากนั้นนายองอาจ นำคณะสื่อมวลชนขึ้นรถกลับมาแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย

นายองอาจกล่าวว่า หลังจากที่มีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาว่าหลวงพ่อธัมมชโยมีแผนหลบหนีไปต่างประเทศ หลวงพ่อมีอาการป่วยจริงหรือไม่ ภาพขาซ้ายที่วัดพระธรรมกายนำมาแสดงก่อนหน้านี้ทำไมสีผิวดำคล้ำไม่เหมือนสีผิวหลวงพ่อ ทางวัดพระธรรมกายจึงนำสื่อมวลชนมาตรวจเยี่ยมอาการอาพาธหลวงพ่อผ่านทีวีวงจรปิด และผู้สื่อข่าวทุกคนก็เห็นแล้วว่าหลวงพ่อป่วยจริง ไม่สามารถเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาได้ ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาหลวงพ่อที่วัดพระธรรมกายได้ ทางวัดพระธรรมกายพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกเต็มที่ รับรองไม่มีมาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่แน่นอน คณะศิษยานุศิษย์เคารพกฎหมาย จะไม่ยอมให้มีการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย กรณีที่มีข่าวหลวงพ่อจะหนีออกนอกประเทศ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะหลวงพ่อไม่มีหนังสือเดินทาง จะไปขอทำวีซ่ากับสถานทูตอเมริกาได้อย่างไร

นายองอาจยืนยันว่า ใบรับรองแพทย์เป็นของจริง แพทย์เดินทางมาตรวจอาการพาธของหลวงพ่อจริง ไม่มีข้อความใดเป็นเท็จ หนึ่งในแพทย์ที่เดินทางมาตรวจอาการอาพาธหลวงพ่อ เป็นแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งมีสิทธิลงความเห็นและออกใบรับรองได้ ทางโรงพยาบาลต้นสังกัดได้ชี้แจงต่อดีเอสไอไปแล้ว

พระสนิทวงศ์ วุฑิฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย
พระสนิทวงศ์ วุฑิฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย

จากนั้น พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย อ่านแถลงข่าวจุดยืนวัดพระธรรมกาย กรณีหมายจับของดีเอสไอ ว่า ตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี วัดพระธรรมกายขอเรียนชี้แจงดังนี้

1. พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เคารพกระบวนการยุติธรรมและยินดีปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย

2. ขณะนี้พระเทพญาณมหามุนีอาพาธ ต้องนอนพักฟื้นอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ไม่ได้หลบหนีไปที่ใดทั้งสิ้น โดยอายุและภาวะสุขภาพของท่านซึ่งอ่อนแอมากก็ไม่สามารถเดินทางไกลได้ ท่านจึงไม่เคยเดินทางออกจากวัดมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว ไม่ใช่มาแกล้งป่วยในช่วงนี้ ถ้าไม่ใช่อาพาธมากจริงๆ คงไม่มีใครไม่เดินทางออกนอกวัดเลยถึง 8 ปีอย่างนี้ ที่มีบางท่านปล่อยข่าวว่าท่านจะหลบหนีไปต่างประเทศนั้น จึงไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าฝืนเดินทางไปอย่างนั้น ท่านก็คงมรณภาพกลางทาง ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

3. อาการหลอดเลือดดำอุดตันทั้งสายหลักและสายรองที่ขาซ้ายของท่านเป็นมาก จนกระทั่งเมื่อลุกขึ้นนั่งเพียงเวลาสั้นๆ 3-4 นาที ขาก็จะบวมมากขึ้นตามลำดับและปวดมาก เพราะเมื่ออยู่ในท่านั่งหลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบก็จะถูกกดทับเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจได้ยากขึ้น ต้องนอนยกขาสูงกว่าระดับหัวใจเพื่อประคับประคองอาการ ขนาดเส้นรอบวงของโคนขาซ้าย = 86 ซม. โคนขาขวา = 46 ซม. ใหญ่กว่ากันเกือบ 2 เท่า

4. วัดพระธรรมกายไม่มีนโยบายจะใช้พลังมวลชนมาต่อต้านกระบวนการทางกฎหมาย ดังจะเห็นได้จากขณะที่มีการออกหมายจับ มีผู้นำอุบาสิกาแก้วจำนวน 50,000 กว่าคนมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ทุกคนก็สวดมนต์นั่งสมาธิตามปกติ เมื่อเสร็จงานวันวิสาขบูชา ต่างก็เดินทางกลับภูมิลำเนาตามกำหนดการ

5. เพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อย พระเทพญาณมหามุนีจะได้มีหนังสือแจ้งไปทางราชการว่า ท่านได้รับทราบเรื่องหมายจับแล้ว และขณะนี้ท่านพักรักษาตัวอยู่ที่วัดพระธรรมกาย จึงแจ้งมายังเจ้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2559 โดยไม่ต้องรอถึงเส้นตายวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ตามที่ดีเอสไอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ ทางวัดจะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ทั้งพนักงานสอบสวน อัยการที่ปรึกษา และคณะสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าว โดยไม่มีมวลชนมาขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น

6. เมื่อพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว กระบวนการยุติธรรมก็จะได้ดำเนินไปตามลำดับอีกหลายขั้นตอน ทั้งดีเอสไอ อัยการ ศาล ซึ่งพระเทพญาณมหามุนีมั่นใจในความบริสุทธิ์ของท่านว่าจะได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในที่สุด

7. การร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์ให้กระบวนการตามกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อยเช่นนี้ เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเป็นผลดีต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองตามนโยบายของรัฐบาลมากที่สุด ดีกว่าการที่ต่างฝ่ายต่างถือทิฐิดึงดัน จนกระทั่งถึงกำหนดวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 แล้ว เจ้าหน้าที่นำกำลังจำนวนมากพร้อมรถหุ้มเกราะบุกมาตรวจค้นจับตัวท่าน ซึ่งศิษยานุศิษย์จำนวนมากก็ย่อมเป็นห่วงและเดินทางมารวมตัวกันที่วัด หากมีมือที่สามสอดแทรกเข้ามาก็อาจทำให้เหตุการณ์บานปลายได้ เสียหายต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลและประเทศชาติไปทั่วโลก จึงเจริญพรมาเพื่อทราบถึงจุดยืนและท่าทีของพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายโดยทั่วกัน

อ่านเพิ่มเติม ซีรีย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น