หลังจากศาลอาญาอนุมัติหมายจับ “พระธัมมชโย” เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร วันที่ 18 พฤษภาคม 2559 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร เปิดแถลงข่าวผลการประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ, อัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับพระธัมมชโยว่า วันนี้ที่ประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการมีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำหนังสือถึงพระธัมมชโย ขอให้เข้ามอบตัว และมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็พร้อมที่จะให้ประกันตัวตามกฎหมาย
“หากพระธัมมชโยไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามวันและเวลานัดหมายอีก ก็ต้องนำประเด็นนี้เข้าสู่ที่ประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ, อัยการและที่ปรึกษาฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงานต่อไป โดยดีเอสไอจะทำตามขั้นตอนจากหนักไปหาเบา ยืนยันไม่ต้องการนำกำลังไปจับกุม เกิดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มลูกศิษย์ จึงอยากให้เข้ามอบตัวตามกระบวนการยุติธรรม”พ.ต.อ. ไพสิฐ กล่าว
ต่อกรณีที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ทำหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีเจตนาดำเนินคดีกับพระธัมมชโยซ้ำซ้อน พ.ต.ท. ปกรณ์ ยืนยันว่า ดีเอสไอยังไม่เคยดำเนินคดีอาญากับพระธัมมชโยมาก่อน อย่างเช่น กรณีกลุ่มศิษยานุศิษย์นำเงินมาคืนสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นครบถ้วน ทำให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไม่ติดใจเอาความ ยอมยุติคดีในส่วนนี้เป็นคดีแพ่ง ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่ดีเอสไอกำลังดำเนินคดีกับพระธัมมชโยอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคดีนี้เป็นอาญาแผ่นดินไม่สามารถยุติหรือยอมความได้
พ.ต.ท. ปกรณ์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ นางทองพิณ กันล้อม เหรัญญิก ในคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ชุดเดียวกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด รองผู้จัดการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ตามหมายเรียกครั้งที่ 1 ภายหลังสืบสวนพบว่า ทั้งสองมีหน้าที่เซ็นเช็คเงินสดร่วมกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก่อนนำเช็คมามอบให้กับวัดพระธรรมกาย โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย มาพบตามเวลานัดหมาย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงปล่อยตัวไป หลังจากนั้นผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนจนกว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องศาล
เวลา 10.00 น. นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงท่าทีของคณะศิษยานุศิษย์ หลังศาลอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย นายองอาจกล่าวว่าทางคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเคารพในกระบวนการของกฎหมาย การรวมตัวของคณะศิษย์ไม่มีเจตนาที่จะสร้างความกดดันใดๆ และจะไม่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ที่ผ่านมาคณะศิษย์ได้มีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้กับพระธัมมชโยผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศและ ป.ป.ช. และรู้สึกเสียใจที่ดีเอสไอส่งเรื่องให้ศาลอนุมัติหมายจับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คณะศิษย์ได้ทำหนังสือเชิญดีเอสไอมาสอบปากคำที่วัดพระธรรมกาย เนื่องจากพระธัมมชโยอาพาธจริง ทางทนายของวัดพระธรรมกายก็นำเอกสารทางการแพทย์ 3 ฉบับ ซึ่งออกโดยคลินิกเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐไปให้ดีเอสไอแล้ว เหตุใดดีเอสไอจึงไม่มา
การดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาแก่พระเทพญาณมหามุนี ว่าสมคบกันฟอกเงินและรับของโจร ตามคดีพิเศษที่ 27/2559 เป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมีเหตุผลดังนี้
1. กรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทางดีเอสไอดำเนินการสอบสวนในคดีพิเศษที่ 146/2556 และได้ส่งสำนวนสอบสวนไปยังอัยการแล้ว โดยไม่มีพระเทพญาณมหามุนีอยู่ในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งหลักกฎหมายมีอยู่ว่า มูลคดีใดที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว อำนาจในการพิจารณาสั่งคดีจะอยู่ที่อัยการ พนักงานสอบสวนจะไปสอบสวนและตั้งข้อหาบุคคลอื่นอีกในมูลคดีเดิมนั้นเพิ่มโดยพลการไม่ได้
2. ต่อมา ทางอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษไปสอบสวนเพิ่มเติมในมูลคดีเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของเช็คจำนวน 878 ฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้พนักงานสอบสวนได้มาสอบปากคำพระเทพญาณมหามุนีกรณีรับเช็คสหกรณ์คลองจั่นจากนายศุภชัย จำนวน 10 ฉบับ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมดในคดี 146/2556นี้ ส่งไปให้อัยการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558 และเสนอให้ทางอัยการสั่งตั้งข้อหาสมคบกันฟอกเงินและรับของโจรแก่พระเทพญาณมหามุนี
3. ทางอัยการได้พิจารณาสั่งคดีที่ 146/2556 เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559 โดยไม่สั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี มีคำสั่งเพียงว่า หากปรากฏพยานหลักฐานว่ามีบุคคลอื่นร่วมสมคบหรือสนับสนุนการกระทำผิด ก็ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป
4. ทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นัดหมายแถลงข่าวว่าจะตั้งข้อหารับของโจรกับพระเทพญาณมหามุนีในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ทางทนายความผู้รับมอบอำนาจของพระเทพญาณมหามุนีจึงได้ทำหนังสือสอบถามทางอัยการว่า ทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจแยกคดีตั้งข้อหาเองในกรณีนี้หรือไม่ ได้รับคำตอบจากอัยการว่า ในกรณีนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะต้องทำการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วส่งมาให้ทางอัยการพิจารณาสั่ง จะไปแยกคดีตั้งข้อหาเองไม่ได้
5. ทางทนายความผู้รับมอบอำนาจได้ทำหนังสือแจ้งคำตอบของทางอัยการ ให้กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทราบเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559
6. การที่นายธรรมนูญ อัตโชติ ได้มาแจ้งความกล่าวโทษพระเทพญาณมหามุนีในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร เมื่อเดือนมีนาคม 2559 และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งเป็นคดีที่ 27/2559 ขึ้น แล้วออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ให้พระเทพญาณมหามุนีไปพบในฐานะผู้ต้องหาสมคบกันฟอกเงินและรับของโจร จึงอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ตามนัยคำพิพากษาฎีกา ที่ 9/2481 )
7. นายพัฐจักร เทพษร ศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ได้ไปกล่าวโทษต่อ ปปช. ว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีที่ 27/2559 นี้เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มาตรา 200 มาตรา 83 มาตรา 86 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 และกล่าวโทษนายธรรมนูญ อัตโชติ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด
8. กระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีที่ 27/2559 นี้ มีความไม่ชอบธรรมหลายประการ อาทิ มีการตั้งข้อหาคดีพิเศษและออกหมายเรียกเป็นผู้ต้องหาอย่างรวดเร็ว เมื่อพระเทพญาณมหามุนีขอเลื่อนการพบพนักงานสอบสวนด้วยเหตุอาพาธ โดยมีใบรับรองแพทย์จากทั้งคลินิกและโรงพยาบาลของรัฐไปแสดง แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่อนุญาต โดยไม่มีการให้แพทย์จากหน่วยงานกลางมาตรวจอาการ ว่าท่านป่วยจริงหรือไม่ แต่ไปขอศาลออกหมายจับเลย
9. คณะศิษยานุศิษย์มีข้อสงสัยว่า การตั้งคดีที่ 27/2559 ของทางดีเอสไอน่าจะไม่ถูกต้อง ผิดหลักกฎหมายมาตั้งแต่ต้น จึงไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินคดี เหมือนกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อๆ มาก็ผิดไปหมด
คณะศิษยานุศิษย์จึงจะแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อมิให้เจ้าพนักงานลุแก่อำนาจ ปฏิบัติหน้าที่ตามอำเภอใจ เป็นการสร้างมาตรฐานความถูกต้องชอบธรรมทางกฎหมายให้เกิดขึ้นแก่สังคมต่อไป
อ่านเพิ่มเติม: ซีรีย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น